27 มี.ค. เวลา 05:09 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เรื่องราวของคลื่นเสียงความถี่ต่ำ มันเหมือน จูงจิต ด้วยเสียง ที่เป็นลักษณะของอารมณ์ เหมือนจูง จิตเข้าไปอยู่ในห้อง ..ให้รู้สึก ที่จริงมามีคำว่า มายาของอารมณ์ ที่จิตนั้นเข้าไปยึดอยู่ ..ในเสียงมายา ที่เข้าสูวิ่งหู ..ให้จิตนั่น หลงใหล . เรื่องของสมอง นั่น มันก็เป็นเรื่องราว ที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ ที่ปรุงแต่ง ก่อตัวขึ้นมาเป็นกาย
คราวนี้ จิตนั้นมาอาศัย ก็เรื่องตัวเรานั้นแหละที่เป็นนามธรรมมาเกาะเกี่ยวยึด สังขาร ยึดรูปเวทานา สัญญา สังขาร วิ่ญญาณ อารมณ์ปรุงแต่ง ให้เกิดราคะ ตัณหา ความโลกโกรธหลง อดอยากหิวโหย เจ็บป่วย แก่เฒ่าชรา ..จิตนั้น ..จิตที่มาอาศัยก็ยึด ..เอาสิ่งที่เกิดขึ้น เอามาเป็นจิตของตน.. โดยที่จิตนั้น ..ไม่สามารถแยกแยะ เรียบเรียงเหตุผลต่างๆ หรือ ทำให้จิตนั้น ออกมาจากกาย ..ดูสิ่งกายที่อาศัย
หรือ แม้กระทั่งจิตอาศัยอยู่กับกายที่ไม่เที่ยง ก็ไม่สามารถ เข้าไปดูภายในกายที่อาศัยได้เลย มีวิญญาณทั้งหก มีตามีหู ก็ใช้มองข้างนอก ได้ยินเสียงข้างนอก ..แต่มองมาดูภายในกาย มองดูเสียงภายใน ก็ไม่สามรถใช้ตากใช้หูนั่นได้
..เรื่องราวเหลา่นี้ เค้าจึงต้องอาศัย นำกายนั่นมา นั่งสมาธิ ..ให้จิตนั้นเรียนรู้ ในสิ่งต่างๆที่อยู่ภายในกาย สิ่งที่จับต้องไม่ได้ ที่ว่า เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นนามธรรม ให่จิตนั่น เรียนรู้ขึ้นมา ที่เค้าใช้คำว่า มะโนทะศึกษา ให้เกิดคำว่า วิมมุติญาณทัศนวิสุทธิ .. คำว่า วิมุตติ กับ สมมุติ นั่นเหมือนอยู่ติดกัน .เมื่อเรียนรู้ เหมือนว่า เหตุผลไม่เพียงพอ ก็ไปยึดสมมุติ..
เวลาจะปั้นรูปกาย ก็เหมือนไปเอา ดินมา เอาน้ำเติมลงไป เอาอากาศเติมลงไป เอาธาตุไฟ ลงไป ผสมลงไป จึงปั้นเป็นรูปกายได้ .. ถึงเวลา กายนั้นแตกดับ ก็มีเรื่องราวของธาตุ แยกกันออกไป ที่ว่า ลมไป น้ำไป ไฟไป เหบือ แต่ดิน ลมพัดมาอีกที รูปนั้นก็สลายหายไป
โฆษณา