Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่องโลก
•
ติดตาม
27 มี.ค. เวลา 16:21 • การศึกษา
“โซเชียล บูลลี่” “ศาลเตี้ย” พฤติกรรมล่าแม่มดในยุคอินเตอร์เน็ต
เป็นปรากฏการณ์ที่กลุ่มคนออนไลน์รวมตัวกันเพื่อประณามหรือโจมตีบุคคลในที่สาธารณะเพื่อทำให้พวกเขาอับอาย
-การล่าแม่มดบนอินเทอร์เน็ตคืออะไร?-
การล่าแม่มดบนอินเทอร์เน็ต (Internet Witch Hunt) คือแคมเปญที่มุ่งเป้าไปที่บุคคลหรือกลุ่มคนที่มีความคิดเห็นหรือมุมมองที่ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม หรือแตกต่างจากแนวคิดกระแสหลัก คำว่า “ล่าแม่มด” มาจากคดีล่าแม่มดในซาเลม (Salem Witch Trials) ซึ่งมีการกล่าวหาผู้คนอย่างไม่เป็นธรรมว่าเป็นแม่มด ถูกตัดสินลงโทษ และถูกประหารชีวิต
แม้ว่าการล่าแม่มดในอดีตจะจบลงไปแล้ว แต่การล่าแม่มดบนอินเทอร์เน็ตกลับกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมสมัยใหม่ โดยดำเนินไปในวงกว้างมากขึ้น เพราะผู้เข้าร่วมสามารถมาจากทั่วทุกมุมโลก บางคนอาจไม่ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการกระทำของตน
ปัญหาสำคัญของการล่าแม่มดทั้งในอดีตและปัจจุบันคือ บุคคลที่ถูกโจมตีมักจะไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาอย่างเต็มที่ หรือแม้แต่ในกรณีที่พวกเขาทำผิดจริง การล่าแม่มดก็มักจะมุ่งเน้นไปที่การลงโทษมากกว่าการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง
-รูปแบบของการล่าแม่มดบนอินเทอร์เน็ต-
การล่าแม่มดออนไลน์มีหลายรูปแบบ โดยที่พบบ่อยได้แก่ การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว (Doxxing) และ การใช้ฝูงชนบนอินเทอร์เน็ตเพื่อรุมโจมตี (Internet Mobs)
1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว (Doxxing)
เป็นการที่บุคคลหรือกลุ่มคนขุดคุ้ยและเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเป้าหมายโดยมีเจตนาทำร้ายพวกเขาหรือครอบครัว ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยอาจรวมถึง
• หมายเลขโทรศัพท์
• อีเมล
• ที่อยู่บ้าน
• ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ
การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้คล้ายกับการข่มขู่ (Blackmail) เพื่อบังคับให้เป้าหมายเปลี่ยนพฤติกรรมหรือแนวคิดของตน มิฉะนั้นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนยิ่งกว่าจะถูกเปิดเผย
ตัวอย่าง:
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี (Ferguson, Missouri) ที่ยิง ไมเคิล บราวน์ (Michael Brown) วัย 18 ปีเสียชีวิต กลุ่มแฮ็กเกอร์ Anonymous ได้เผยแพร่ข้อมูลของบุคคลที่พวกเขาอ้างว่าเป็นตำรวจผู้ยิง แต่กลับกลายเป็นว่าข้อมูลผิดพลาดและเป้าหมายที่ถูกเปิดโปงไม่ใช่ตำรวจจากเมืองเฟอร์กูสันเลย เหตุการณ์แบบนี้สามารถก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อชีวิตส่วนตัวและอาชีพของเป้าหมาย
2. การใช้ฝูงชนบนอินเทอร์เน็ตเพื่อรุมโจมตี (Internet Mobs)
เป็นปรากฏการณ์ที่กลุ่มคนออนไลน์รวมตัวกันเพื่อประณามหรือโจมตีบุคคลในที่สาธารณะเพื่อทำให้พวกเขาอับอายหรือลงโทษพวกเขาสำหรับความเชื่อหรือการกระทำบางอย่าง
ตัวอย่าง:
กรณีของ วอลเตอร์ พาลเมอร์ (Walter Palmer) ทันตแพทย์ที่ถูกสังคมออนไลน์รุมโจมตีอย่างหนักหลังจากที่เขาไปล่าสิงโตชื่อ “เซซิล” (Cecil) ซึ่งเป็นสิงโตที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดกำลังศึกษาอยู่ สิ่งที่เริ่มต้นจากความพยายามค้นหาตัวผู้กระทำผิดกลับกลายเป็นการรุมประณามและข่มขู่ถึงขั้นเอาชีวิต
เหตุการณ์ลักษณะนี้แสดงให้เห็นว่า บางครั้งความอยากรู้อยากเห็นและความโกรธแค้นของสังคมออนไลน์สามารถเปลี่ยนจากการประท้วงอย่างสันติไปสู่การล่าแม่มดที่รุนแรงถึงขั้นข่มขู่ชีวิตของเป้าหมาย
-จะป้องกันการล่าแม่มดออนไลน์ได้อย่างไร?-
เนื่องจากการล่าแม่มดเกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ต จึงเป็นเรื่องยากที่จะป้องกันได้โดยสิ้นเชิง มีเส้นแบ่งที่บางมากระหว่าง “การอภิปราย” และ “การล่าแม่มด” อีกทั้งในสหรัฐอเมริกา การแสดงความคิดเห็นทางอินเทอร์เน็ตยังได้รับการคุ้มครองโดยเสรีภาพในการพูดและเสรีภาพของสื่อมวลชนตามรัฐธรรมนูญ
หลายครั้งมีการพยายามออกกฎหมายเพื่อป้องกันการล่าแม่มดออนไลน์ แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมปัญหาสำคัญอย่าง การสะกดรอยตามทางไซเบอร์ (Cyberstalking) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของการล่าแม่มดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปัญหาอีกข้อหนึ่งคือ ใครควรรับผิดชอบเมื่อเกิดการล่าแม่มด? -
• ควรเป็นผู้ใช้ที่เข้าร่วมการโจมตีหรือไม่?
• เว็บไซต์ที่เป็นแพลตฟอร์มให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ควรมีส่วนรับผิดชอบหรือไม่?
หากกฎหมายยังไม่สามารถควบคุมปัญหานี้ได้โดยสมบูรณ์ เว็บไซต์และแพลตฟอร์มออนไลน์สามารถช่วยลดปัญหาได้โดยการกำกับดูแลเนื้อหา ตัวอย่างแนวทางป้องกันได้แก่
1. การใช้ทีมผู้ดูแล (Moderators)
• เว็บไซต์สามารถจ้างผู้ดูแลเนื้อหา (Admin) เพื่อตรวจสอบและลบเนื้อหาที่เข้าข่ายการล่าแม่มด
• มีระบบ “แจ้งเตือน” หรือ “รายงานเนื้อหา” (Flagging System) ให้ผู้ใช้สามารถรายงานการล่าแม่มดเมื่อพบเห็น
แต่ข้อเสียคือเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้จำนวนมากอาจไม่มีทรัพยากรเพียงพอในการดูแลเนื้อหาได้ทั้งหมด
2. การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอัลกอริธึม
• ใช้บอทอัจฉริยะเพื่อตรวจจับการสนทนาและโพสต์ที่ละเมิดนโยบายของแพลตฟอร์ม
• อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้มักหาทางหลบเลี่ยงระบบอัตโนมัติ เช่น การใช้คำที่หลีกเลี่ยงการตรวจจับ หรือบอทอาจทำงานผิดพลาดโดยไปบล็อกเนื้อหาที่ไม่มีความผิด
แม้จะไม่สามารถป้องกันการล่าแม่มดได้ทั้งหมด แต่วิธีการที่ดีที่สุดในปัจจุบันคือ การผสมผสานระหว่างการใช้ระบบ AI และการรายงานจากผู้ใช้ เพื่อควบคุมสถานการณ์โดยไม่กระทบต่อเสรีภาพในการพูดมากเกินไป
-เราทำอะไรได้บ้างเพื่อป้องกันการล่าแม่มดออนไลน์?-
• ตระหนักและเรียนรู้: ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรเรียนรู้ที่จะรับรู้และแยกแยะระหว่าง “การวิพากษ์วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์” กับ “การล่าแม่มด”
• ควบคุมพฤติกรรมของตนเอง: ลดการมีส่วนร่วมในการโจมตีทางอินเทอร์เน็ต
• ไม่แชร์หรือเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่ตรวจสอบ: การแชร์ข้อมูลโดยไม่ไตร่ตรองอาจทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา
โดยรวมแล้ว การล่าแม่มดออนไลน์มักเกิดขึ้นเพราะคนจำนวนมากร่วมกันเติมเชื้อไฟให้กับกระแส หากแต่ละคนลดการมีส่วนร่วมในการสร้างกระแสดังกล่าว เว็บไซต์และแพลตฟอร์มก็จะสามารถควบคุมปัญหานี้ได้โดยไม่ต้องใช้การเซ็นเซอร์ที่รุนแรง
[วิทยาการคอมพิวเตอร์ 395]
“Internet Witch Hunting”
Computer Science 395 - Final Project
Maintained by Blake Watzke, Evan Timmermann, Nicolas Brownell, Paul Burrie
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย