27 มี.ค. เวลา 19:49 • การศึกษา

ใครเป็นคนต้นคิดว่า LDL คือไขมันเลว

แนวคิดที่ว่า LDL (Low-Density Lipoprotein) เป็น "ไขมันเลว" เริ่มมาจากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือดตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะงานวิจัยของ Dr. Ancel Keys ซึ่งเป็นนักวิจัยด้านโภชนาการและโรคหัวใจชาวอเมริกัน
จุดเริ่มต้นของแนวคิด
1. Ancel Keys และ "Diet-Heart Hypothesis" (1950s)
เขานำเสนอทฤษฎีว่า การบริโภคไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูงมีความสัมพันธ์กับโรคหัวใจ
งานวิจัยที่สำคัญของเขาคือ Seven Countries Study ซึ่งศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอาหาร ไขมันในเลือด และโรคหัวใจ
2. Framingham Heart Study (เริ่มต้นในปี 1948)
เป็นหนึ่งในการศึกษาที่สำคัญที่พบว่า ระดับ LDL สูงมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคหัวใจเพิ่มขึ้น
3. National Cholesterol Education Program (NCEP) ในสหรัฐฯ (1985)
หน่วยงานนี้มีบทบาทในการโปรโมตว่า LDL เป็น "ไขมันเลว" และ HDL เป็น "ไขมันดี"
ทำไม LDL ถึงถูกมองว่าเป็น "ไขมันเลว"?
LDL มีบทบาทในการ นำคอเลสเตอรอลจากตับไปยังเซลล์ทั่วร่างกาย
หากมี LDL มากเกินไป หรือถูกออกซิไดซ์ (oxidized LDL) มันสามารถสะสมในผนังหลอดเลือดและนำไปสู่ ภาวะหลอดเลือดอุดตัน (atherosclerosis)
ในขณะที่ HDL (High-Density Lipoprotein) หรือ "ไขมันดี" มีหน้าที่นำคอเลสเตอรอลกลับไปกำจัดที่ตับ
ข้อถกเถียงในปัจจุบัน
งานวิจัยใหม่เริ่มตั้งคำถามว่า LDL อาจไม่ใช่ปัจจัยหลักของโรคหัวใจเสมอไป
ประเภทของ LDL ก็มีความสำคัญ เช่น LDL ขนาดเล็กและหนาแน่น (small, dense LDL) มีแนวโน้มทำให้เกิดโรคหัวใจมากกว่า LDL ขนาดใหญ่ (large, buoyant LDL)
แนวคิดใหม่ เช่น Low Carb High Fat (LCHF) และ Carnivore Diet ชี้ให้เห็นว่า ระดับ LDL ที่สูงอาจไม่เป็นอันตรายหากระดับไตรกลีเซอไรด์ต่ำและ HDL สูง
สรุปแล้ว แนวคิดว่า LDL เป็น "ไขมันเลว" มาจากงานวิจัยทางการแพทย์ช่วงศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะจาก Ancel Keys และ Framingham Heart Study แต่ปัจจุบันยังมีข้อถกเถียงและข้อมูลใหม่ที่อาจเปลี่ยนมุมมองในอนาคต
โฆษณา