28 มี.ค. เวลา 00:52 • ข่าวรอบโลก

บรรดาชาติยุโรปเห็นพ้องกัน ณ ที่ประชุมซัมมิตหนึ่งในปารีส ในวันพฤหัสบดี(27มี.ค.)

จะยกระดับไม่ใช่ยกเลิกคว่ำบาตรรัสเซีย ต่อกรณีทำสงครามกับยูเครน ในขณะที่สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส เริ่มร่างแผนในการส่งกองกำลังรับประกัน หลังบรรลุข้อตกลงสันติภาพใดๆ แม้สมาชิกบางชาติไม่เห็นด้วยก็ตาม
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เป็นเจ้าภาพการประชุมบรรดาพันธมิตรยุโรปของยูเครนกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในความพยายามล่าสุดสำหรับหาความเห็นพ้องในนโยบายร่วม หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สร้างความตกตะลึงแก่ยุโรป ด้วยการเปิดเจรจาโดยตรงกับรัสเซีย
สหรัฐฯอ้างว่ามีความคืบหน้าในเบื้องต้นในการมุ่งสู่ข้อตกลงหยุดยิง เพื่อยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี ที่โหมกระพือขึ้นจากการที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ส่งทหารรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
อย่างไรก็ตามข้อตกลงสันติภาพใดๆยังคงดูห่างไกล และการประชุมระหว่างบรรดาประมุขรัฐและตัวแทนรัฐบาลยุโรปมากกว่า 20 ชาติ ตอกย้ำให้เห็นถึงความเห็นต่างภายใน "พันธมิตรแห่งความตั้งใจ" และไม่ใช่ทุกรัฐที่เห็นด้วยกับแผนของฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ในการประจำการทหารหลังสงครามสิ้นสุดลง
"เขาต้องการแบ่งแยกยุโรปกับอเมริกา ปูตินต้องการสิ่งนั้น" เซเลนสกีกล่าวหลังการประชุม พร้อมระบุเคียฟประสงค์ให้วอชิงตัน ใช้ท่าทีแข็งกร้าวขึ้นกับเครมลิน และเตือนว่า "ทุกคนเข้าใจและตระหนักดีว่า ในวันนี้ รัสเซีย ไม่ต้องการสันติภาพ ไม่ว่าจะรูปแบบใด"
การประชุมครั้งนี้ดูเหมือนจะมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าไม่ควรผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรที่เคยกำหนดเล่นงานรัสเซีย และควรคว่ำบาตรหนักหน่วงยิ่งขึ้นอีก จนกว่าจะมีสันติภาพ "ตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่า ไม่ใช่เวลาสำหรับยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร แต่มันเป็นในทางตรงกันข้าม สิ่งที่เราหารือกันก็คือแนวทางที่เราสามารถยกระดับการคว่ำบาตร เพื่อสนับสนุนความคิดริเริ่มของสหรัฐฯในการดึงรัสเซียสู่โต๊ะเจรจา" เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวโดยมี เซเลนสกี ยืนอยู่ข้างๆ
ในการแถลงแยกกัน โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี บอกว่าการยกเลิกคว่ำบาตรจะเป็น "ความผิดพลาดใหญ่หลวง" และ "ไม่สมเหตุสมผล" หากปราศจากข้อตกลงหยุดยิง
นอกเหนือจากเสริมความข้มแข็งแก่กองกำลังยูเครนแล้ว อีกหนึ่งเสาหลักสำหรับรับประกันความมั่นคงและป้องกันไม่ให้รัสเซียกลับมารุกรานอีก อาจเป็นการประจำการทหารยุโรปในยูเครน แต่จนถึงตอนนี้มันยังห่างไกลจากความชัดเจนว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
มาครง กล่าวหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมว่า ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร จะเป็นผู้นำในความพยายามนี้ ในการส่ง "กองกำลังรับประกัน" เข้าไปยังยูเครน ตามหลังการสู้รบสิ้นสุดลง "ไม่มีความเป็นเอกฉันท์ในวันนี้ แต่เราไม่ต้องการความเป็นเอกฉันท์ในการทำเรื่องนี้" เขากล่าว พร้อมระบุคณะผู้แทนจากฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร จะมุ่งหน้าสู่ยูโรป เพื่อเจรจาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
มาครง เน้นย้ำว่าสมาชิกของกองกำลังดังกล่าวจะไม่ใช่กองกำลังรักษาสันติภาพ จะไม่ประจำการในแนวหน้าหรือเป็นกำลังสำรองรูปแบบหนึ่งใดของกองทัพยูเครน เขายอมรับว่าไม่ใช่พันธมิตรยุโรปทั้งหมดของยูเครน ที่จะส่งกำลังพลเข้าร่วมในกองกำลังนี้ เพราะบางชาติไม่มีศักยภาพทำเช่นนั้น และบางส่วนมีความลังเล สืบเนื่องจากบริบททางการเมือง
คณะผู้แทนของฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร จะเริ่มต้นการพูดคุยในกรณีที่ว่ากองกำลังนี้จะถูกส่งเข้าประจำการบริเวณใด "มันจะเป็นลักษณะของการป้องปรามความเป็นไปได้ในการรุกรานใดๆของรัสเซีย" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม เซเลนสกี ใช้สุ้มเสียงลดความคาดหวังเล็กน้อย เตือนว่ามีคำถามต่างๆนานามากมาย แต่ "จนถึงตอนี้ มีคำตอบเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับกองกำลังดังกล่าว" ไม่ว่าจะเป็นใครจะเป็นแกนนำ และกองกำลังนี้จะมีขอบเขตหน้าที่อย่างไรบ้าง
จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมตรีอิตาลี ซึ่งแสดงจุดยืนมานานขอสงวนสิทธิ์เกี่ยวกับแผนประจำการทางทหาร แสดงความหวังว่าสหรัฐฯจะมีส่วนร่วมในการประชุมของยุโรปในประเด็นยูเครนครั้งถัดไป และเน้นย้ำว่าโรมไม่เห็นด้วยกับการส่งทหารใดๆเข้าปกป้องข้อตกลงสันติภาพ
ตอกย้ำให้เห็นว่าจุดจบยังอยู่ห่างไกล ในวันพฤหัสบดี(27มี.ค.) ยูเครนกล่าวหารัสเซีย ละเมิดข้อตกลงที่มีสหรัฐฯเป็นคนกลาง สำหรับระงับโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน ด้วยการยิงปืนใหญ่เข้าใส่ จนทำให้เกิดไฟฟ้าดับในเมืองเคียร์ซอน
ขณะเดียวกันกองทัพยูเครน ก็ปฏิเสธคำกล่าวหาจากรัสเซีย ที่อ้างว่าเคียฟก็เล็งเป้าเล่นงานที่ตั้งทางพลังงานของพวกเขาเช่นกัน "ผมคิดว่าควรมีปฏิกิริยามาจากสหรัฐฯ" เซเลนสกี บอกกับผู้สื่อข่าวในปารีส พร้อมระบุว่าที่ตั้งทางพลังงานได้รับความเสียหายในเหตุโจมตีเมื่อวันพฤหัสบดี(27มี.ค.) และไม่เป็นชัดเจนว่าใครเป็นคนสังเกตการณ์คำสัญญาระงับการโจมตีดังกล่าว
การประชุมในวันพฤหัสบดี(27มี.ค.) มีขึ้นหลังจากทำเนียบขาวเผยว่ารัสเซียและยูเครนเห็นพ้องกันเกี่ยวกับลักษณะทั่วๆไปของความเป็นไปได้ในข้อตกลงหยุดยิงในทะเลดำ ระหว่างการพูดคุยคู่ขนานกับพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯในซาอุดีอาระเบีย
 
(ที่มา:เอเอฟพี)
โฆษณา