28 มี.ค. เวลา 06:30 • ธุรกิจ

กรณีศึกษา “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" เพื่อนบ้าน Genting Group ฮับความบันเทิงที่ไม่ได้มีแค่กาสิโน

ล่าสุด รัฐบาลไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเที่ยงวันที่ 27 มี.ค. โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ให้ความเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์)
ที่มีวัตถุประสงค์ต้องการสร้างการท่องเที่ยวแบบใหม่ ไม่ต้องรอการท่องเที่ยวตามฤดูกาล ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นกว่า 8 หมื่นราย 80% เห็นด้วย จากนี้จะส่งต่อไปยังสภาฯ พิจารณาต่อไป
เป้าหมายของนายกฯ ตามที่กล่าว “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่เท่ากับกาสิโน” โดยจะมีกาสิโนไม่ถึง 10% อีก 90% เป็นฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ความจุ 5 หมื่นคน และอินดอร์สเตเดียมที่ไทยไม่เคยมีสถานที่รองรับคอนเสิร์ตใหญ่ขนาดนี้ได้ มีสวนน้ำ โรงแรม อาหาร โดยกาสิโนจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ทั้งนี้คาดว่าจะสร้างรายได้ 119,000-238,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 5-10% ต่อปี รัฐจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 12,000-39,000 ล้านบาทต่อปี เก็บภาษีจากธุรกิจอื่น 8,000-35,000 ล้านบาทต่อปี ภาษีกาสิโนขั้นต่ำ 3,264 ล้านบาทต่อปี มีการจ้างงานและอาชีพใหม่ๆ เพิ่มขึ้นนำมาพัฒนาประเทศ ที่สำคัญจะมีกฎหมายควบคุมป้องกันการติดการพนันและกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด
การเติบโตของธุรกิจดังกล่าวมีตัวอย่างจากหลายประเทศที่ประสบความสำเร็จกับกาสิโนภายใต้โมเดลเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยให้กาสิโนเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของเมืองบันเทิงครบวงจร (Integrated Resort: IR) ดึงเงินลงทุน ดึงนักท่องเที่ยว นักเสี่ยงโชคเข้ามา เก็บกวาดภาษี รายได้ สร้างงาน สร้างเงินเข้าประเทศ โดยกำหนดมาตรการป้องกัน ลดผลกระทบทางสังคมที่ผ่านการพิจารณาข้อกฎหมายของประเทศนั้น ๆ และหนึ่งในนั้น คือ บรรดาประเทศเพื่อนบ้านของเรา
  • มาเลเซีย
หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวใน มาเลเซีย หลายคนอาจกำลังหาข้อมูลสถานที่ยอดนิยมและพบกับแลนด์มาร์กไม่กี่แห่ง อย่างตึกแฝดปิโตรนาส หรือถ้าจะออกนอกตัวเมืองก็ไปเที่ยวปีนังหรือเกาะลังกาวี แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วมาเลเซีย เพื่อนบ้านเรานั้นมีแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนที่เป็น ‘ศูนย์รวมความบันเทิงขนาดใหญ่’ ที่สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับการท่องเที่ยวมาเลเซีย ซึ่งซ่อนตัวห่างจากตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์ไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้น
Genting Group ให้บริการธุรกิจความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซีย หนึ่งในบริษัทข้ามชาติชั้นนำจากเอเชียที่มีมูลค่าบริษัท 1.63 หมื่นล้านริงกิต หรือ 3.58 พันล้านเหรียญสหรัฐ ราวๆ 1.23 แสนล้านบาท ก่อตั้งในปี 1965 โดย ลิม โก ถง (Lim Goh Tong) โดยมีธุรกิจชูธงหลักอย่าง “กาสิโน” และ Resorts World Genting เครือรีสอร์ตแนวบูรณาการ (Intregation Resort:IR) ชื่อดังที่ Genting Group ได้ยกศูนย์รวมความบันเทิงแบบครบวงจร พร้อมด้วยโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวไปไว้จุดต่างๆ ทั่วโลก ทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย
ปัจจุบัน Genting ดำเนินการกาสิโนมากกว่า 30 แห่งและกำลังสร้างโมเดลเดียวกันนี้ที่นิวยอร์กซิตี้ ลาสเวกัส ไมอามี โดยในปี 2023 เครือ Genting มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 3,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Genting Malaysia หรืออีกชื่อหนึ่ง Genting Highland ถือเป็นสาขาหลักที่เป็นสำนักงานใหญ่ของธุรกิจ ตั้งอยู่ที่รัฐปะหัง (Pahang) บริเวณเกือบยอดเขาอูลูกาลี ในระดับความสูง 1,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลที่ได้รวมสถานที่เพื่อความบันเทิงครบวงจร จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ลาสเวกัสแห่งเอเชีย ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้หลายล้านคนต่อปี
ประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้าทั่วไป Premium Outlets รวมแบรนด์หรู, ร้านอาหารยอดนิยมจนถึงระดับไฟน์ไดน์นิ่ง, กาสิโน, สวนสนุกระดับเฟิร์สคลาสทั้งในร่มและกลางแจ้งขนาด 26 เอเคอร์, โรงแรมระดับ 3-5 ดาวรวมทั้งสิ้น 7 แห่ง รวมกว่า 10,500 ห้อง โดยมีโรงแรม First World Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่บนนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับจัดอีเวนต์คอนเสิร์ต การประชุมธุรกิจ และพื้นที่สำหรับพักผ่อนและความบันเทิงอื่นๆ อีกมากมาย
รายได้หลักมาจากกาสิโน 24 ชั่วโมง ‘Sky Casino’ ซึ่งเป็นรีสอร์ตกาสิโนและกาสิโนคอมเพล็กซ์แห่งเดียวของมาเลเซียที่ถูกกฎหมาย รองลงมาคือรายได้จากที่พักโรงแรม สัดส่วนนักท่องเที่ยวหลัก คือ ชาวมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และจีน ตัวเลขนักท่องเที่ยวเคยสูงสุดแตะระดับ 13 ล้านคนต่อปี
Genting Malaysia เป็นหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจ ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวแบบบูรณาการ ที่อยู่ไม่ไกลจากไทย แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวของมาเลเซียจะยังเป็นประเทศที่ไม่ติดอันดับฮอตฮิตด้านการท่องเที่ยวในระดับโลก
แต่จะเห็นว่าสามารถดึงดูดจำนวนนักท่องเที่ยวในภูมิภาค นำพาเม็ดเงินให้หลั่งไหลสู่พื้นที่รัฐปะหัง ทั้งจากนักท่องเที่ยวในประเทศเองและนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมทั้งมีศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนรวมถึงโอกาสสำหรับเศรษฐกิจในะระดับประเทศ อีกทั้งภาคการท่องเที่ยวมาเลเซียได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ทั้งในด้านการส่งเสริมการใช้สกุลเงินและเศรษฐกิจภายในประเทศ
  • สิงคโปร์
อีกหนึ่งประเทศที่มีศักยภาพเป็นฮับคาสิโนใหญ่อันดับสามของโลก นั่นก็คือ สิงคโปร์ ผู้นำร่องโมเดลธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Integrated Resort: IR) จากเป้าหมายที่รัฐบาลสิงคโปร์ต้องการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวและแข่งขันกับประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางในภูมิภาคนำไปสู่การดำริเปิดกาสิโนในสิงคโปร์อย่างถูกกฎหมาย
ซึ่งถูกกระแสคัดค้าน วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากคนในท้องถิ่น เกี่ยวกับผลกระทบด้านลบต่อสังคม แต่ในที่สุดกาสิโนของสิงคโปร์ ซึ่งวางรูปแบบเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ หรือรีสอร์ตแบบบูรณาการ ก็ได้เปิดตัวขึ้นในนาม Resorts World Sentosa โดย Genting Singapore ในปี 2553 และ Marina Bay Sands เปิดตัวในปี 2554
ก่อนการเดินหน้าโปรเจกต์ดังกล่าว รัฐบาลสิงคโปร์ได้จัดตั้งหน่วยงานควบคุมการพนันสิงคโปร์ขึ้นในปี 2551 เพื่อดูแลกฎหมายเกี่ยวกับการพนัน ออกข้อจำกัดในการรับคนในท้องถิ่นเข้าสู่กาสิโน ด้วยการเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าที่ 100 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อครั้งหรือ 2,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อปี (เพิ่มเป็น 150 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อครั้งหรือ 3,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อปีในวันที่ 4 เม.ย. 2562) และห้ามกาสิโนปล่อยสินเชื่อให้กับคนท้องถิ่น
ธุรกิจกาสิโนในสิงคโปร์ประสบความสำเร็จสูงมาก จากความเป็นศูนย์การทางการเงินในเอเชีย ทำให้มีเงินทุนไหลเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง คนจีนแผ่นดินใหญ่จำนวนมากที่เคยเก็บเงินไว้ในฮ่องกง ยังย้ายเงินทุนส่วนหนึ่งไปที่สิงคโปร์ด้วย
ในปี 2567 ประเมินว่าตลาดกาสิโนของสิงคโปร์อยู่ในระดับ 6,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีก่อนหน้า โดยมีเป้าหมาย จับกลุ่มลูกค้าวีไอพีมากขึ้น เน้นการท่องเที่ยวที่ไม่ใช่การพนัน (ที่มีสัดส่วนของรายได้ 30%)
ข้อมูลล่าสุด เผยว่า ธุรกิจคาสิโนในสิงคโปร์ถือว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ ในปี 2022 รายได้จากธุรกิจคาสิโนเป็น 4% ของ GDP ประเทศสิงคโปร์ มีจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 30% จากจำนวน 15 ล้านคนในปีนั้นเข้าเยี่ยมชมและใช้บริการธุรกิจคาสิโน อีกทั้งประเทศยังจัดเก็บภาษีได้กว่า 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -
โฆษณา