28 มี.ค. เวลา 05:29 • ความคิดเห็น
ชีวิตนี้เป็นของอาศัยชั่วขณะหนึ่ง เค้าให้มา ให้กายบิดามาารดา มาให้จิตเรามาอาศัย ในโลกมนุษย์ชั่วขณะหนึ่ง ให้ลมหายใจมา ให้อารมณ์อยากมา ให่สติปัญญา เพื่อใช้ ทำมาหากิน พอเพียงประทังสังขารให้อยู่ได้ แต่นั่นแหละ ด้วยโลกเค้าก็มีอารมณ์โลภโกรธหลง คอยปรนเปรอให้ ให้ตาเห็น หูได้ยิน รวมๆ ก็เรื่องของวิญญาณทั้งหก ที่เค้าสติปัญญามา ให้มีสติรู้จักเท่าทัน ในสิ่งที่วิญญาณทั้งหก ไปสัมผัส .เกิดอารมณ์นึกคิดอะไรขึ้นมาบ้าง
.. แต่ด้วยจิตของเราเป็นผู้มีกรรม ทำนองส่า ..เมื่อจิตมานั้น มันบริสุทธิ์ พอหลุดออกท้องแม่ปุ๊บ เสียงที่ร้องกระแว้ๆ ที่เกิดขึ้น อารมณ์โลภโกรธหลง ก็เริ่มต้น มาแล้ว กายก็ค่อยเติบโตขึ้น .เรียนรู้อะไรต่างไป จนถึงทีเค้าเรีกว่าบรรลุนิติภาวะ พอที่จะรู้จักดีชั่วอะไรได้ แต่นั่นแหละ พอเกิดมา จิตมีกรรม อารมณ์กรรม ก็ไหลเข้ามาสะสม เกิดกรรม ด้วยกายกรรมวาจากรรม มะโนกรรมด้วยอารมณ์ที่เกิดขึ้น ภายในกาย
แล้วก็ใช้อารมณ์ต่างๆ มีการกระทำตามอารมณ์ ไปเรื่อยๆ โดยไม่เคยหัน จิตไม่เคย เรียนรู้จักอารมณ์ในกายของตนเลย ..สิ่งที่จิตนั้น หลงใหล มันเป็นอารมณ์ที่ปรุงแต่งแต่งกาย ที่โลกเค้าหลอกลวงจิต ในสมมุติของอารมณ์ที่อุปโลกน์ภายในกายให้จิตยึดถือ นำไปสร้างกรรม ..สิ่งที่จิตนั้นสร้างกรรม ใช้ชีวิตตามอารมณ์ มันเกิดเป็นกรรม เป็นสีดำสีม่วงบันทึอยู่ที่ธาตุทั้งสี่ สิ่งที่เกิดขึ้น ..ที่เราใช้กายอยู่ ใช้อารมณ์ที่เกิดขึ้นในกาย จิตเราหลงสมมุติ ใข้ไปเรื่อย กายก็แก่เจ็บตาย โดยที่เรากไม่รู้จักว่า นี่เป็นมายาที่โลกสมมุติให้
คราวนี้ก็ผู้ที่สะสมบารมี มาเป็นอเนกชาติ ท่านก็สะสะสมปัญญาธรรม มากับจิต จุติลงมา เพื่อยุติการเกิด ท่านก็หนีไปอยู่ป่า ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอารมณ์ของโลกอีก ไม่คล้องกรรมคนนั้นคนนี้ ก็หนีเข้าป่า
ท่านก็นำกายนี้ ไปชำระสะสาง ปลดเปลื้องอารมณยึดถือ ไปนั่งนิ่งเฉ อะไรเกิดขึ้น ในกาย ก็นั่งนิ่งเฉย ปลดเปลื้อง ให้สิ่งต่างนั้นอารมณ์ต่างนั้น มันลออไปจากกายจากธาตุทั้งสี่ จิตไม่ไปยึดอะไร ..อะไรเกิดขึ้นในกาย ทุกข์เวทนา อะไรเกิดขึ้น ก็บังคับกายอยู่นิ่ง ด้วยความขันติ ..ไม่ยึดอารมณ์ ขันติอดทนต่ออารมณ์ที่เกิดขึ้น จนชนะกายชนะอารมณ์ จิตก็พ้นทุกข์
ในส่วนของเรา เร่ไม่มีปัญญาธรรมขนาดนั่น เราก็อาศัยกายนี้ มาฝึกสร้างบุญบารมี ไปเรื่อย ..สะสมรอยการประพฤติปฏิบัติธรรม ตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไป ให้ธาตุทั้งสี่นั้นบันทึก ในการกระทำ เราก็ดบ่งเวลา มาเป็นเวลาของการสร้างบุญกุศลบารมี ไม่ได้เป็นเวลาที่เอาใช้อารมณ์โลภโกรธหลงตลอดเวลา .
โฆษณา