28 มี.ค. เวลา 12:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ขออนุญาตท้าวความไปไกลนิดส์นุงนะคะ
1) งบ USAID รวมถึงงบต่างๆที่สหประชาชาติ (หรือ UN) ให้แก่หลายๆประเทศ ในรูปแบบของความช่วยเหลือต่างๆโดยผ่านองค์กรอาทิ UNHRC UNEP FAO WHO ฯลฯ อะไรเทือกนี้ จะเรียกว่าเป็นยุทธศาสตร์ของเมกาก็ได้
นอกจากเมกาก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ดำเนินยุทธศาสตร์นี้ เช่น ญี่ปุ่น (JICA) เยอรมัน (GTZ)
ถ้าเป็นศัพท์แสงของยุคนี้ ก็จัดว่าเป็น Soft Power นั่นล่ะค่ะ
2) เมกาหว่านเงิน ให้นั่นให้นี่แก่ประเทศโลกที่ 3 มาตั้งนานมากๆแล้ว แต่ยุทธศาสตร์นี้ไม่ใช่การซื้อใจ ไม่ใช่การผูกมิตร **แต่เป็นไปเพื่อการต่อรองข้อแลกเปลี่ยน** แล้วแต่ว่าพี่กาจะอยากได้อะไรจากประเทศเหล่านั้น
3) ปธน.สหรัฐฯหลายต่อหลายคน มาแล้วก็ไป แต่ยุทธศาสตร์นี้ก็ยังดำรงคงอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งตาตั้มมาเป็นปธน.สมัยสองนี่แหละ
ตาตั้มแกคิดแบบนักธุรกิจ อะไรที่ลงทุนแล้วไม่คุ้ม-เห็นผลช้า-เสี่ยงขาดทุน พวกนี้แกไม่เอา ขนาดเรื่องโลกร้อนแกยังไม่สนเร๊ยยย นับประสาอาไร๊กับ Soft Power
เข้าเรื่อง
เท่าที่ตามข่าว ศาลชั้นต้นของสหรัฐฯมีคำสั่งระงับ Executive Order ฉบับนี้เป็นการชั่วคราวป่าวคะ ซึ่งแน่นอนว่าตาตั้มแกก็ต้องพยายามกดดันทุกฝ่าย ให้ทบทวนประเด็นนี้ และผลักดันให้เกิดผลจนได้นั่นแหละ
แต่ไม่ว่าตาตั้มแกจะแผลงฤทธิ์สำเร็จหรือไม่ เมกาจะตัดหรือปรับลดงบ USAID หรือไม่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนของประเทศเราจริงๆ
อยากเห็นรัฐบาลไทย หยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณาอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่หามาตรการรองรับหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ
แต่ทบทวนตัวเอง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประเทศเราสามารถยืดหยัดด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอกมากเกินไป
ส่วนคำว่า "กร้าว" ขออนุญาตมองว่า อาจจะเป็นแค่พาดหัวเอามันส์ หรือไม่ก็เป็นท่าทีของพวกนักการเมืองอาชีพที่เล่นปาหี่ไปงั้นแหละ!!
คนมีของ คนมีกึ๋น ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีท่าทีแบบนี้อ่ะค่ะ
โฆษณา