28 มี.ค. เวลา 19:28 • ข่าว

แผ่นดินไหว

ตำนานและความเชื่อเรื่องแผ่นดินไหวมีอยู่มากมายทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของมนุษย์ในอดีตที่จะอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสะพรึงกลัวนี้ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างตำนานและความเชื่อที่น่าสนใจ:
1. ญี่ปุ่น: นามะซึ ปลาเค็มยักษ์ใต้พิภพ
* ตำนาน: เชื่อกันว่าใต้พื้นพิภพมีปลาเค็มยักษ์ที่ชื่อว่า "นามะซึ" อาศัยอยู่ เมื่อนามะซึพลิกตัว สะบัดหาง หรือดิ้นรน ก็จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว ความรุนแรงของแผ่นดินไหวขึ้นอยู่กับขนาดและการเคลื่อนไหวของนามะซึ
* ความเชื่อ: ในบางตำนานกล่าวว่า เทพเจ้าคาชิมะ (Kashima) ผู้มีดาบศักดิ์สิทธิ์ จะคอยกดทับนามะซึไว้ด้วยหิน หากเทพเจ้าคาชิมะละเลย หรือนามะซึมีพลังมากเกินไป ก็จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
* อิทธิพลทางวัฒนธรรม: ตำนานนามะซึเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่น และปรากฏในงานศิลปะ ภาพพิมพ์ และนิทานพื้นบ้านมากมาย
2. กรีกโบราณ: โพไซดอน เทพเจ้าแห่งทะเลและแผ่นดินไหว
* ตำนาน: โพไซดอน (Poseidon) เป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่ทรงอำนาจที่สุดของกรีกโบราณ โดยมีอำนาจเหนือท้องทะเล พายุ และแผ่นดินไหว เมื่อโพไซดอนโกรธหรือไม่พอใจ เขาสามารถใช้ตรีศูล (Trident) ฟาดลงบนพื้นดิน ทำให้เกิดแผ่นดินไหว คลื่นยักษ์ และน้ำท่วม
* ความเชื่อ: ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าแผ่นดินไหวเป็นสัญญาณแห่งความพิโรธของโพไซดอน พวกเขาจึงมักจะบูชาและถวายเครื่องสักการะแก่โพไซดอนเพื่อขอให้คุ้มครองและหลีกเลี่ยงภัยพิบัติ
* อิทธิพลทางวัฒนธรรม: ความเชื่อเกี่ยวกับโพไซดอนยังคงมีอิทธิพลต่อภาษาและวัฒนธรรมตะวันตก เช่น คำว่า "seismic" (เกี่ยวกับแผ่นดินไหว) มาจากชื่อของโพไซดอนในภาษากรีก (Seismos)
3. นอร์สโบราณ: โลกิ ผู้ถูกล่ามโซ่
* ตำนาน: ในตำนานนอร์ส โลกิ (Loki) เทพเจ้าแห่งความเจ้าเล่ห์และการหลอกลวง ถูกลงโทษโดยเหล่าเทพเจ้าและถูกล่ามโซ่ไว้ในถ้ำใต้โลก โดยมีพิษจากงูใหญ่หยดลงบนใบหน้าของเขา ภรรยาของโลกิชื่อซิกินน์ (Sigyn) จะคอยรองรับพิษด้วยชาม แต่เมื่อใดก็ตามที่เธอต้องเทพิษออก โลกิก็จะดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด ทำให้เกิดแผ่นดินไหว
* ความเชื่อ: แผ่นดินไหวถูกมองว่าเป็นผลมาจากการทนทุกข์ทรมานของโลกิ ซึ่งจะดำเนินต่อไปจนถึงวันแร็กนาร็อก (Ragnarok) หรือวันสิ้นโลก
4. วัฒนธรรมพื้นเมืองในอเมริกา: เต่าโลก
* ตำนาน: ในความเชื่อของชนพื้นเมืองหลายเผ่าในทวีปอเมริกาเหนือ เชื่อว่าโลกตั้งอยู่บนหลังเต่าขนาดใหญ่ หรือบางครั้งอาจเป็นสัตว์ใหญ่อื่นๆ เช่น ช้างแมมมอธ เมื่อสัตว์เหล่านี้ขยับตัว หรือแบกรับน้ำหนักโลกไม่ไหว ก็จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว
* ความเชื่อ: ตำนานนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างโลกและสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ และอธิบายว่าการสั่นสะเทือนของโลกเกิดจากการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น
5. ฮินดู: ช้างที่แบกโลก
* ตำนาน: ในบางความเชื่อของศาสนาฮินดู กล่าวว่าโลกถูกแบกไว้บนหลังช้างหลายเชือก ซึ่งยืนอยู่บนหลังเต่า เมื่อช้างเหล่านี้ขยับตัว หรือเปลี่ยนข้างที่แบกโลก ก็จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว
6. ความเชื่อทางศาสนา:
* ในหลายศาสนา แผ่นดินไหวถูกตีความว่าเป็น สัญญาณจากพระเจ้า หรือเป็นการแสดงถึง ความไม่พอใจ หรือ การลงโทษ สำหรับความผิดบาปของมนุษย์ ในอดีต บางครั้งแผ่นดินไหวถูกมองว่าเป็นลางร้ายหรือเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น
ตำนานและความเชื่อเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวมากมายที่ผู้คนทั่วโลกสร้างขึ้นเพื่อทำความเข้าใจกับปรากฏการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจินตนาการ ความหวาดกลัว และความพยายามที่จะหาความหมายในเหตุการณ์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่นี้ ก่อนที่วิทยาศาสตร์จะเข้ามาอธิบายถึงสาเหตุที่แท้จริงของแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อร่างกายได้หลายด้าน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยผลกระทบอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผ่นดินไหว ระยะเวลาที่เกิดแผ่นดินไหว และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
ผลกระทบทางร่างกาย:
* การบาดเจ็บ:
* แผ่นดินไหวอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้หลายรูปแบบ เช่น บาดแผล กระดูกหัก หรือการถูกทับจากสิ่งของที่พังทลาย
* ในกรณีที่รุนแรง อาจทำให้เสียชีวิตได้
* อาการทางระบบประสาท:
* หลังเกิดแผ่นดินไหว บางคนอาจมีอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน หรือคลื่นไส้ ซึ่งเป็นผลมาจากระบบการทรงตัวในหูชั้นในได้รับผลกระทบ
* "โรคสมองเมาแผ่นดินไหว" เป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังเหตุแผ่นดินไหว อาจเป็นเพราะความตื่นตัวที่สูงขึ้นหรือความทรงจำจากเหตุการณ์ อาการทางจิตสั่นไหว แผ่นดินไหวสามารถกระตุ้นการตอบสนองต่อความเครียดเฉียบพลัน
* ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ:
* ฝุ่นละอองและเศษซากจากการพังทลายของอาคารอาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินหายใจ เช่น หายใจลำบาก หรือโรคปอด
* ผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด:
* ความเครียดและความตื่นตระหนกจากแผ่นดินไหวอาจส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้หัวใจเต้นเร็ว หรือความดันโลหิตสูงขึ้น
ผลกระทบทางจิตใจ:
* ความเครียดและวิตกกังวล:
* แผ่นดินไหวเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวและกระทบกระเทือนจิตใจ ทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล หรือหวาดกลัว
* โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD):
* บางคนอาจมีอาการของ PTSD เช่น ฝันร้าย ภาพเหตุการณ์ย้อนกลับ หรือหลีกเลี่ยงสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว
* ภาวะซึมเศร้า:
* ความสูญเสียและความเสียหายจากแผ่นดินไหวอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า
การดูแลตนเองหลังเกิดแผ่นดินไหว:
* หากมีอาการบาดเจ็บ ควรได้รับการรักษาจากแพทย์โดยเร็ว
* หากมีอาการทางจิตใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
* พักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
* หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นละอองและเศษซาก
* หากมีอาการเวียนศีรษะหรือคลื่นไส้ ควรพักผ่อนในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก
หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย ในเหตุการแผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วย..
โฆษณา