29 มี.ค. เวลา 04:24 • ข่าว

สิ่งที่ไม่เคยเกิด ไม่ได้แปลว่าจะไม่เกิด

เมื่อวานช่วงเวลาบ่ายโมงกว่า ใครที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ อยู่ในอาคารสูง รวมทั้งในอีกหลายๆ จังหวัด คงได้สัมผัสแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว โดยมีจุดศูนย์กลางมาจากรอยเลื่อนสะกายทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมาที่มีขนาด 8.2 ริกเตอร์ เป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี ทำให้แรงสั่นสะเทือนมาถึงประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพและปริมณฑลเป็นแน่
2
ช่วงเวลานั้นผมเองกำลังนั่งทำงานอยู่ แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็หน้ามืด รู้สึกเก้าอี้โยกไปมาเวียนหัว ลองหลับตาก็ไม่หาย ผมคิดว่าผมเป็นบ้านหมุนแน่ แต่แล้วมือถือก็ดังแจ้งเตือนถึงได้รู้ว่ามีเหตุแผ่นดินไหว
1
ทางมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้เคยระบุว่า รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) เป็นรอยเลื่อนที่มีพลังความยาวประมาณ 1,200 กม. วางตัวอยู่ในแนวทิศเหนือ-ใต้ ผ่านกลางประเทศเมียนมา ผู้คนต่างขนานนามว่าเป็น “ยักษ์หลับกลางเมืองเมียนมา”
1
ซึ่งมันอยู่ใกล้กับพื้นที่ที่มีคนอาศัย ทำให้เวลาเกิดแผ่นดินไหวทีจะส่งผลกระทบรุนแรงได้ง่าย และเกิดความสูญเสียจำนวนมาก โดยรอยเลื่อนสะกายเคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7-8 ริกเตอร์หลายต่อหลายครั้ง และสามารถเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาได้อีกหลายรอบ ด้วยเพราะเป็นรอยเลื่อนที่มีขนาดใหญ่ยาวกว่า 1,200 กม.
2
แผ่นดินไหวครั้งนี้แม้จะกินเวลาไม่กี่นาทีแต่ก็ได้ส่งผลกระทบพื้นที่ในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอาคารที่กำลังก่อสร้างอยู่ถล่มลงมา บ้านเรือนอาคารมีรอยร้าว ถนนยุบ สะพานชำรุด จึงน่าเป็นห่วงว่าสิ่งก่อสร้างที่ได้สร้างกันมาเราได้นำแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวมาคำนวณในการออกแบบปลูกสร้างด้วยไหม
4
จริงอยู่ที่ประเทศเราไม่มีรอยเลื่อนแผ่นดินไหวโดยตรง จึงเกิดเหตุแผ่นดินไหวไม่มากนัก แต่ต้องไม่ลืมว่าประเทศเราอยู่ติดกับประเทศเมียนมาที่มีรอยเลื่อนขนาดใหญ่ หากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงย่อมส่งผลมาถึงประเทศไทยเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
3
หวังไว้ว่าผู้มีอำนาจ ผู้ที่เกี่ยวข้อง จะหาทางป้องกันรับมือความเสี่ยงภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งนำความเสี่ยงนี้ไปรวมอยู่ในสมการการออกแบบตั้งแต่เริ่มต้น
1
สิ่งที่ไม่เคยเกิดไม่ได้แปลว่ามันจะไม่เกิดขึ้น แผ่นดินที่เราดูมั่นคงมาตลอด จู่ๆ วันหนึ่งกลับสั่นไหวยุบตัวพังได้ให้เห็นกับตา
2
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อเหตุภัยพิบัติในครั้งนี้ด้วยครับ
โฆษณา