เมื่อวาน เวลา 01:54 • ข่าวรอบโลก

วางจิตวางใจอย่างไรเมื่อเกิดพิบัติภัยทางธรรมชาติ

ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นของควบคุมไม่ได้ แม้อาจมีการตรวจจับได้บ้าง หรือพยากรณ์ล่วงหน้าได้บ้างในบางประเภท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแม่นยำเสมอไป ลักษณะสำคัญของภัยพิบัติคือ เมื่อจะเกิด ก็ต้องเกิด ไม่มีหลักการใดมายึดเป็นมาตรฐานแม่นเป๊ะได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ตรงไหน อย่างไร
#ธรรมะ #อนาคตภัย
แน่นอน ขึ้นชื่อว่าพิบัติภัย ย่อมไม่ใช่เรื่องดี ทั้งอันตราย ทั้งเจ็บปวด ทรมานและสูญเสีย ผมขอไว้อาลัยให้กับผู้ที่จากไปในเหตุตึกถล่มจากแผ่นดินไหวในกทม.ที่ผ่านมา ความเศร้าโศกเสียใจในเหตุการณ์เลวร้ายเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ขอให้ทุกคนพยายามเข้มแข็ง แล้วมองการจากลาให้เป็นธรรมดาธรรมชาติ เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้แม้มันจะเจ็บปวดเพียงไร หากเริ่มตระหนักจนตกผลึกได้แล้ว ให้ลองสังเกตใจดูว่า ความเศร้าโศกเสียใจได้จางคลายเบาบางลงจริงๆ ไม่ว่าจะใครก็ตาม กาลเวลาจะทำให้ทุกสิ่งเลือนหายหรือเปลี่ยนไป ตามหลักของ อนัตตา
ผมเชื่อว่ามีหลายท่านที่ยังคงหวาดระแวงต่อโลกใบนี้เพราะไม่รู้ว่ามันจะนำพาภัยพิบัติมาให้พวกเราอีกเมื่อไร แต่อยากให้ทุกคน สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ แล้วเอาจิตมาสะกดรอยตามลมหายใจที่หายใจอย่างเป็นธรรมชาติ กลับมาระลึกให้ชัดเจนกับปัจจุบันอีกครั้งว่าเราทุกคนมีชีวิตอยู่ภายในกำมือของธรรมชาติ จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด จริงอยู่ภัยพิบัติไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่ถ้ามันเกิดกับเราเมื่อไรแล้วเราหนีไม่ทัน ความเป็นจริงในตอนนั้นคือเราตายแน่นอน
แต่แทนที่จะมัวกลัวตาย ทุกคนต้องกลับมาวางจิตอย่างถูกต้องอีกครั้งโดยเข้าใจให้ถูกว่ากายนี้ไม่ใช่ของเรา จิตและความนึกคิดก็ไม่ใช่ของเรา ไม่มีอะไรเป็นของเรา มีแต่สิ่งที่มาประกอบกันและทำปฏิกิริยากันไปตามธรรมชาติ ตามหลักแห่งเหตุและปัจจัย แม้กายเป็นทุกข์ ใจเป็นทุกข์ แต่จริงๆแล้ว ธรรมชาติมันก็เป็นของมันอย่างนั้น ไม่ได้มีอะไรในโลกนี้เลยที่เป็นของเราแม้แต่ชีวิตและจิตใจของเรา สักวันเราก็ต้องทิ้งหรือคืนทุกอย่างที่ประกอบกันเป็นเราให้กับธรรมชาติเขาไป
มาถึงตรงนี้ก็จะสังเกตได้ว่า ธรรมชาติเปรียบเสมือนยักษ์เฝ้าสมบัติที่เผลอหลับไป เราผู้ชะล่าใจว่าสมบัตินี้ขโมยได้เพราะยักษ์ผู้เป็นเจ้าของเอาแต่หลับอุตุอยู่ ก็มาขโมยสมบัติไปใช้กันเบิกบานใจ แต่เมื่อยักษ์ตื่นขึ้นมาสักครั้งหนึ่ง เราก็ต้องจ่ายค่าเสียหายราคาโคตรแพงคืนให้กับเจ้ายักษ์ไป เพราะเล่นเอาสมบัติเขามาใช้ซะบ๋อแบ๋ ซึ่งราคาที่แพงนั้นอาจเป็นทั้งทรัพย์สินและชีวิตมนุษย์ ให้สมกับที่มนุษย์เราทำร้ายทำลายธรรมชาติมาอย่างยาวนานเกินจะอุปมาได้
ถ้าทุกคนลองตระหนักถึงมันอย่างลึกซึ้ง จะรู้ได้ว่าเราควรอยู่อย่างให้ความเคารพต่อผู้ยิ่งใหญ่อย่างธรรมชาติ หรือ ธรรมะ อย่าได้ริตั้งตนเป็นใหญ่เหนือธรรม เพราะกฎแห่งกรรมจะหมุนกงล้อของเขาเร็วขึ้นจนไล่ตามพวกเราได้ทันอย่างติดสปีด และที่สำคัญ จะต้องรู้เท่าทันความไร้แก่นสารของการมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ด้วยดวงตาที่เห็นความจริง ว่าเราทุกชีวิตไม่ควรเวียนว่ายตายเกิดในโลกและสังสารวัฏนี้เลย เพราะมันคือความเสี่ยง เราไม่อาจรู้ได้เลยว่ากรุงเทพฯจะจมทะเลเมื่อไร ในอนาคตแผ่นดินของประเทศไหนจะหายไปจากแผนที่โลกบ้าง
เพียรกระทำทาน ศีลและภาวนาด้วยสัจจะแห่งใจเสียแต่วันนี้ เพื่ออนาคตที่ดีที่สุด ที่เราจะไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดในอันตรายของภพสามอีกต่อไป
บทความนี้เขียนโดย Tiktoker : ธรรมะแฟนตาซี (DhammaFantasy)
โฆษณา