31 มี.ค. เวลา 11:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาวะตลาดประจำสัปดาห์ที่ 24 - 28 มี.ค. 2568

ภาพรวม
  • ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วง จากความกังวลเรื่องสงครามการค้า
  • ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดใหม่ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษี (Tariff) ทาง Goldman Sachs ปรับราคาทองคำเป็น 3,300 ดอลลาร์ ในสิ้นปีนี้
  • ทรัมป์เตรียมเก็บภาษีรถยนต์นำเข้า 25% มีผล 2 เม.ย. กระทบหุ้นยานยนต์
  • แคนาดา-ญี่ปุ่น เตรียมพิจารณามาตรการภาษีตอบโต้กับสหรัฐฯ
  • ทรัมป์ เจรจาลดภาษีนำเข้าจากจีน โดยแลกกับจีนขาย TikTok ให้บริษัทสหรัฐฯ
  • เงินเฟ้อ Core PCE สูงกว่าคาด เร่งความกังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐฯ
  • Goldman Sachs คาด Fed ลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ เพิ่มจาก 2 ครั้ง จากผลกระทบเรื่อง Tariff ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นสงครามการค้ายังเป็นปัจจัยหลักที่สร้างความผันผวนให้กับตลาด สะท้อนจากดัชนี VIX Index ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวลดลง โดย
๐ ดัชนี S&P500 -1.5% WoW, ดัชนี NASDAQ -2.6% WoW
๐ ดัชนี Euro STOXX 600 และตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียโดยรวมปรับตัวลดลงเช่นกัน
  • ด้านราคาทองคำแตะระดับสูงสุดใหม่เมื่อวันศุกร์ (28 มี.ค.) จากการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษี (Tariff) โดย Goldman Sachs ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำเป็น 3,300 เหรียญต่อออนซ์ในสิ้นปี 2568 โดยมีปัจจัยหนุนจากการซื้อทองคำของธนาคารกลาง และเงินไหลเข้า ETF ทองคำ
  • ความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษี (Tariff)
๐ ช่วงต้นสัปดาห์ ตลาดได้รับสัญญาณเชิงบวก หลังทรัมป์ส่งสัญญาณยืดหยุ่นต่อแผนการเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) อาจใช้ภาษีแบบเฉพาะเจาะจงเป้าหมาย ไม่ใช่ในวงกว้าง รวมทั้งอาจมีการยกเว้นภาษีสำหรับบางประเทศ
๐ แต่ช่วงปลายสัปดาห์ ตลาดถูกกดดันหลังทรัมป์ลงนามคำสั่งเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับรถยนต์ที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ และชิ้นส่วนสำคัญ มีผลบังคับใช้วันที่ 2 เม.ย. ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลง โดยเฉพาะหุ้นบริษัทรถยนต์ อย่าง General Motors และ Ford
๐ ประเทศคู่ค้าหลายประเทศ กำลังพิจารณามาตรการตอบโต้
- แคนาดา: จะเพิ่มภาษีตอบโต้
- ญี่ปุ่น: จะพิจารณาทางเลือกในการตอบโต้สหรัฐฯ ซึ่งทรัมป์ได้ประกาศเพิ่มว่าอาจเก็บภาษีเพิ่มเติมกับแคนาดาและยุโรป หากร่วมมือกันสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ
- จีน: ทรัมป์กล่าวว่าอาจพิจารณาลดภาษีนำเข้าจากจีนเพื่อแลกกับการที่จีนจะขาย TikTok ในสหรัฐฯ ให้กับบริษัทอเมริกัน และตั้งเป้าหมายว่าจะเห็นรูปแบบของข้อตกลงการค้าภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการตอบสนองใดๆ จากฝั่งจีน
1
  • ความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
๐ ทรัมป์ยังคงใช้ตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE ออกมาสูงกว่าคาดเล็กน้อย โดย Core PCE ในเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 2.8% YoY จากที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.7% และเพิ่มขึ้น 0.4% MoM ตลาดคาดไว้ที่ 0.3%
๐ ผลสำรวจ University of Michigan: คาดการณ์เงินเฟ้อ 12 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
๐ สะท้อนความกังวลเรื่อง Stagflation(ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว) แต่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงคาดว่า Fed จะลดดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้ และ อัตราผลตอบแทนของ US10Y เมื่อวันศุกร์ (28 มี.ค.) ลดลงประมาณ 11 bps.
๐ Goldman Sachs ปรับเพิ่มคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ Fed ในปีนี้ จาก 2 ครั้งเป็น 3 ครั้ง (ในเดือน ก.ค. ก.ย. และ พ.ย.) จากผลกระทบเรื่อง Tariff ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ
๐ ต้องติดตามเกี่ยวกับมาตรการภาษีตอบโต้ ซึ่งน่าจะส่งผลต่อคาดการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และจะส่งผลต่อตลาดหลังจากนี้
  • มุมมองตลาดในสัปดาห์นี้
๐ KSAM มองว่า ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มที่จะได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องมาตรการภาษีตอบโต้ที่ทรัมป์จะประกาศในวันที่ 2 เม.ย. ในส่วนของตลาดหุ้นไทย น่าจะปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ รวมถึงน่าจะมีสัญญาณเชิงลบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในวันที่ 28 มี.ค.
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา