31 มี.ค. เวลา 12:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นร่วงหลังคำขู่เก็บภาษีของ Trump ทำให้ความเชื่อมั่นถดถอย

ตลาดทั่วโลกร่วงลงเมื่อนักลงทุนเตรียมรับมือกับความปั่นป่วนในสัปดาห์นี้ จากการที่ประธานาธิบดี Trump เตรียมประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมกับคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อสองเดือนกว่าที่ผ่านมา Trump ได้สร้างความไม่แน่นอนให้กับนักลงทุนและบริษัทด้วยนโยบายการค้าแบบ "America First" ที่ออกมาอย่างไม่เป็นระบบ เขาได้ขู่, เรียกเก็บ และบางครั้งระงับการเรียกเก็บภาษีใหม่สำหรับสินค้านำเข้า
ในวันจันทร์ หุ้นในญี่ปุ่นและไต้หวันลดลงมากกว่า 4% ในขณะที่ตลาดเกาหลีใต้ร่วง 3%
ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะปรับฐาน โดยลดลง 12% จากจุดสูงสุดในช่วงปลายเดือนธันวาคม บริษัทเทคโนโลยีได้รับผลกระทบหนัก เช่น Taiwan Semiconductor Manufacturing Company, SK Hynix, Samsung และ Tokyo Electron ซึ่งราคาหุ้นลดลงอย่างมาก
ตลาดหุ้นในจีนมีการปรับลดที่น้อยกว่า (หุ้นในฮ่องกงลดลงมากกว่า 1% ส่วนตลาดในจีนแผ่นดินใหญ่ลดลงประมาณ 0.5%) หุ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ได้รับแรงสนับสนุนบางส่วนจากข้อมูลที่แสดงว่าภาคอุตสาหกรรมส่งออกยังคงขยายตัวแม้จะเผชิญกับภาษีศุลกากรเบื้องต้นของ Trump
ตลาดในยุโรปดิ่งลง โดยดัชนี Stoxx 600 ลดลง 1.8% บริษัทรถยนต์ในเยอรมนี ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเก็บภาษีของสหรัฐฯ Volkswagen บริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของยุโรปลดลงมากกว่า 4%
นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์ดัชนี S&P 500 โดยระบุว่า "ภาษีสูงขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง และเงินเฟ้อมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้" พวกเขาคาดว่าดัชนีจะลดลงอีก 5% ในสามเดือนข้างหน้า หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย ผลกระทบนี้อาจรุนแรงขึ้น โดยมีโอกาสราวหนึ่งในสาม
ความกังวลของนักลงทุนสะท้อนไปยังตลาดอื่น ๆ ราคาทองคำพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $3,150 ต่อออนซ์ในวันจันทร์ ทองคำมักเป็นที่ต้องการในช่วงวิกฤต
นอกจากนี้ นักลงทุนยังนำเงินไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปลอดภัย ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงต่ำกว่า 4.2% (เนื่องจากความต้องการสูง)
Trump ใช้ภาษีศุลกากรเพื่อทำให้สินค้านำเข้าแพงขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยอ้างว่ามาตรการเหล่านี้จะกระตุ้นการลงทุนและนวัตกรรมในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ เขายังใช้ภาษีและการขู่เก็บภาษีเพื่อบีบบังคับให้ประเทศต่าง ๆ ยอมตามข้อเรียกร้องด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเพิ่มความกังวลให้กับนักลงทุน เพราะเขาแสดงท่าทีไม่สนใจผลกระทบต่อตลาดหรือผู้บริโภคชาวอเมริกันที่อาจต้องจ่ายแพงขึ้นหากราคาสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้น
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Trump เพิ่มแรงกดดันโดยขู่ว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียหากไม่เจรจาหยุดยิงในยูเครน นอกจากนี้ เขายังขู่เก็บภาษี 25% เพิ่มเติมสำหรับประเทศที่ซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลา
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เกิดขึ้นควบคู่กับแผนการเก็บภาษี 25% สำหรับรถยนต์ที่จะมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์นี้
ความกังวลของนักลงทุนยังเพิ่มขึ้นจากรายงานตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์ ซึ่งอาจสะท้อนผลกระทบของนโยบาย Trump ต่อเศรษฐกิจ
“ผมได้ยินจากลูกค้าเกือบทุกราย — และแทบทุกคน — ว่าพวกเขากังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจมากกว่าที่เคยเป็นในช่วงเวลาที่ผ่านมา” Laurence D. Fink ซีอีโอของ BlackRock เขียนในจดหมายประจำปีถึงนักลงทุน “ผมเข้าใจว่าทำไม แต่เราเคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาก่อน และในระยะยาว เราจะหาทางออกได้เสมอ”
cr. NY Times
โฆษณา