1 เม.ย. เวลา 03:00 • การตลาด

✨Generative Search หรือ Search Generative Experience (SGE) คืออะไร???

เทคโนโลยีค้นหาที่เปลี่ยนวิธีการเข้าถึงข้อมูล ด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการวิเคราะห์และสร้างคำตอบให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแค่แสดงลิงก์ไปยังเว็บไซต์ต่างๆ แต่ยังสรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้องออกมาในรูปแบบที่เข้าใจง่าย คล้ายการสนทนากับ Chatbot โดยใช้งาน Large Language Models (LLMs) และเทคโนโลยีประมวลผลภาษาธรรมชาติ
Generative Search สามารถเข้าใจบริบท และเจตนาของคำค้นหาของผู้ใช้ได้อย่างลึกซึ้ง ช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูล เพราะไม่ต้องคลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจากหลายแหล่งข้อมูล
ระบบนี้เป็นก้าวสำคัญต่อวิวัฒนาการของเครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิม แม้ว่าจะยังมีความท้าทายในเรื่องความน่าเชื่อถือของข้อมูล แต่ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้สามารถคาดหวังประสิทธิภาพ และความแม่นยำที่สูงขึ้นในอนาคต
✨เทคโนโลยีของ Generative Search
Generative Search ใช้เทคโนโลยี AI ที่หลากหลายในการประมวลผล และสร้างคำตอบจากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models หรือ LLMs) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถวิเคราะห์ และประมวลผลข้อความจำนวนมาก พร้อมเรียนรู้ที่จะสร้างข้อความตอบกลับในลักษณะที่คล้ายมนุษย์ ตัวอย่างเช่น
▪️Google SGE : Google Search Generative Experience
เป็นระบบที่พัฒนาโดย Google ใช้โมเดลภาษา PaLM 2 ซึ่งรองรับมากกว่า 100 ภาษา โดยมีความสามารถในการให้คำตอบโดยตรง สร้างภาพตามคำขอ และให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ คำตอบจะปรากฏที่ด้านบนสุดของหน้าผลการค้นหา พร้อมกับลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
▪️ระบบ Generative Search อื่นๆ
นอกจาก Google SGE แล้ว ยังมีระบบ Generative Search อื่นๆ เช่น Bing Chat, NeevaAI, perplexity.ai และ YouChat แต่ละระบบมีลักษณะ และความสามารถที่แตกต่างกันไป แต่โดยพื้นฐานแล้วทั้งหมดใช้หลักการของ Generative AI ในการสร้างคำตอบโดยตรงให้กับผู้ใช้นั่นเอง
✨กลไกการทำงานของ Generative Search
Generative Search มีกลไกการทำงานที่ผสานเทคโนโลยีหลายอย่างเข้าด้วยกัน โดยกระบวนการทำงานหลักๆ คือ
  • การประมวลผลและเข้าใจคำถาม
Generative Search ใช้เทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) เพื่อวิเคราะห์ และทำความเข้าใจคำถามของผู้ใช้อย่างลึกซึ้ง เทคโนโลยีเหล่านี้ ช่วยให้ระบบเข้าใจไม่เพียงแค่คำสำคัญในคำถาม แต่ยังเข้าใจบริบท ความตั้งใจ และความซับซ้อนของคำถามได้ดียิ่งขึ้น ทำให้สามารถค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างแม่นยำ
  • การค้นหาและรวบรวมข้อมูล
หลังจากเข้าใจคำถาม ระบบจะค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของเว็บไซต์ต่างๆ โดยใช้อัลกอริทึมการค้นหาที่ซับซ้อน ข้อมูลที่ได้จะถูกรวบรวมจากหลายแหล่ง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและหลากหลายมุมมอง ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างคำตอบที่สมบูรณ์มากขึ้น
  • การสร้างคำตอบและการอ้างอิง
เมื่อรวบรวมข้อมูลแล้ว ระบบจะใช้เทคโนโลยี Generative AI เพื่อสร้างคำตอบที่เป็นข้อความต่อเนื่อง มีการสรุปประเด็นสำคัญ และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ระบบยังมีการแสดงแหล่งอ้างอิง หรือลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้
✨ประโยชน์ของ Generative Search
Generative Search มอบประสบการณ์การค้นหาข้อมูลที่แตกต่างจากการค้นหาแบบดั้งเดิม โดยมีคุณลักษณะ และประโยชน์ที่โดดเด่นหลายด้าน เช่น
  • การตอบคำถามแบบสรุปและตรงประเด็น
Generative Search ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่สรุป และตรงประเด็นทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปอ่านข้อมูลจากหลายเว็บไซต์ ระบบจะนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของข้อความที่เป็นคำตอบโดยตรง มีการสรุปประเด็นสำคัญ และจัดเรียงข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
  • ความสามารถในการถามคำถามต่อเนื่อง
ผู้ใช้สามารถถามคำถามต่อเนื่องจากคำตอบที่ได้รับ เหมือนกับการสนทนากับผู้เชี่ยวชาญ คุณลักษณะนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลเชิงลึกได้มากขึ้น โดยไม่ต้องเริ่มการค้นหาใหม่ทุกครั้ง ระบบจะเข้าใจบริบทของการสนทนาและสามารถให้คำตอบที่ต่อเนื่องและเกี่ยวข้องกับคำถามก่อนหน้าได้
  • การสร้างภาพตามคำสั่ง
ปัจจุบัน Google SGE สามารถสร้างภาพตามคำขอของผู้ใช้ได้ ด้วยการป้อนคำอธิบายเกี่ยวกับภาพที่ต้องการ และระบบจะสร้างภาพตามคำอธิบายนั้น ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่มีประโยชน์สำหรับงานสร้างสรรค์หรือการหาแรงบันดาลใจ
  • คำแนะนำผลิตภัณฑ์
Generative Search สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ระบบจะวิเคราะห์ข้อมูลผลิตภัณฑ์ และให้คำแนะนำที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น คุณสมบัติ ราคา และความนิยม ช่วยให้ผู้ใช้ตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น
✨ข้อกังวลและความท้าทาย
แม้ว่า Generative Search จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อกังวล และความท้าทายที่สำคัญหลายประเด็น เช่น
  • ความน่าเชื่อถือของข้อมูล
มีการศึกษาพบว่า ระบบ Generative Search ยังมีปัญหาในเรื่องความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยเฉลี่ยแล้วมีเพียง 51.5% ของประโยคที่สร้างขึ้นที่มีการอ้างอิงอย่างครบถ้วน และมีเพียง 74.5% ของการอ้างอิงที่สนับสนุนประโยคที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง ปัญหานี้ อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของระบบโดยรวม และอาจทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
  • ผลกระทบต่อการทำ SEO และการโฆษณา
Generative Search เปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลการค้นหา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำ SEO และการโฆษณาบนเครื่องมือค้นหา เจ้าของเว็บไซต์ และนักการตลาดอาจต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้เนื้อหาของตนยังคงปรากฏในผลการค้นหา แม้ว่าจะมีคำตอบจาก Generative Search ปรากฏอยู่ด้านบน
  • ความครอบคลุมและความเที่ยงตรงของข้อมูล
ระบบ Generative Search อาจไม่สามารถครอบคลุมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคำถาม หรืออาจมีความเอนเอียงในการนำเสนอข้อมูล ปัญหานี้อาจทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนหรือมีอคติ ซึ่งอาจส่งผลต่อความเข้าใจ และการตัดสินใจของผู้ใช้
✨บทสรุป
Generative Search เป็นเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการค้นหาข้อมูลของผู้ใช้ โดยใช้ AI เพื่อสร้างคำตอบโดยตรงแทนที่จะเพียงแสดงรายการลิงก์ เทคโนโลยีนี้ใช้การผสมผสานของการประมวลผลภาษาธรรมชาติ โมเดลภาษาขนาดใหญ่ และเทคโนโลยี AI อื่นๆ เพื่อเข้าใจคำถาม ค้นหาข้อมูล และสร้างคำตอบที่เป็นข้อความต่อเนื่อง
แม้ว่า Generative Search จะมีประโยชน์มากมาย เช่น การให้คำตอบที่รวดเร็ว และตรงประเด็น ความสามารถในการถามคำถามต่อเนื่อง และการสร้างภาพตามคำขอ แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของข้อมูล ผลกระทบต่อการทำ SEO และความครอบคลุมของข้อมูล ผู้ใช้ควรตระหนักถึงข้อจำกัดเหล่านี้ และใช้วิจารณญาณในการพิจารณาข้อมูลที่ได้รับ
ในอนาคต
คาดว่า Generative Search จะได้รับการพัฒนาให้มีความแม่นยำ และน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงต่อรูปแบบการค้นหาข้อมูลในระยะยาว
มาอัพเดทพูดคุยเรื่อง GEO กันครับทุกคน
#GenerativeEngineOptimization #GEO #HelloGEO #GEOClub #GEOคืออะไร #GEOสำคัญอย่างไร #SEO
โฆษณา