เมื่อวาน เวลา 09:36 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ยุคของสินค้าราคาถูกในสหรัฐ กำลังสิ้นสุดลง และภัยคุกคามภาษีศุลกำลังมา

ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นหลังจากหลายทศวรรษของการลดลง ขณะที่นโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจเร่งให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อมากขึ้น
อัตราราคาผู้บริโภค หนึ่งในตัวชี้วัดหลักของ "เงินเฟ้อ"
แม้กระทั่งก่อนการจัดเก็บภาษีใหม่ สภาวะที่ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาถูกลงเรื่อยๆ ก็กำลังจะจบลง
จากรายงานพบว่า ในช่วง 20 ปีก่อนเกิดโรคระบาด ราคาสินค้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไปแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลย
ระหว่างปี 2011-2019 ราคาสินค้าหลัก (core goods - ไม่รวมอาหารและเชื้อเพลิง) ลดลง 1.7%
ในขณะที่ราคาบริการหลัก (เช่น ที่อยู่อาศัย การแพทย์ และการศึกษา) เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 2.7%
อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นในช่วงโรคระบาด และแม้จะลดลงเล็กน้อยหลังจากนั้น แต่ตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 เป็นต้นมา ราคาสินค้าหลักกลับมาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.1% ต่อเดือน
สตีเวน บลิตซ์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก TSLombard กล่าวว่า เราอาจจะไม่ได้เห็นแนวโน้มการลดราคาสินค้าเหมือนในช่วงทศวรรษ 2010 อีกต่อไป และคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อสินค้าจะผลักดันให้ราคาโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 3% ในปีนี้ สูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลาง
มูลค่านำเข้าสินค้าจากจีนสู่ U.S.
**ยุคทองของการเติบโตของสินค้าราคาถูก**
ร้านขายอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ในซานฟรานซิสโก ราคาของสินค้าอุปโภคบริโภคที่เคยไม่เพิ่มขึ้นมาหลายปี ตอนนี้กำลังปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้า ๆ
การเติบโตของสินค้าราคาถูกเกิดขึ้นจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการค้าเสรี โดยเฉพาะจากการเข้าร่วม WTO ของจีนในปี 2001 ที่กระตุ้นการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ
นอกจากนี้ การพัฒนาพลังงานจากน้ำมันด้วยเทคนิค fracking ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและขนส่ง
แต่ในอนาคต การได้รับประโยชน์แบบเดียวกันนี้จะยากขึ้น "ไม่มีประเทศไหนที่เหมือนจีน และจะเข้ามาเสียบแทนตำแหน่งจีนได้ในระบบเศรษฐกิจโลก" นักเศรษฐศาสตร์กล่าว
**ผลกระทบจากภาษีศุลกากร**
มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ เช่น การเก็บภาษี 25% สำหรับเหล็กและอลูมิเนียม และ 20% สำหรับสินค้าจากจีน อาจทำให้ราคาสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้น บริษัทที่พึ่งพาสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน วางแผนจะขึ้นราคาสินค้าเฉลี่ย 5.1% ในปีนี้ ขณะที่บริษัทอื่นๆ ที่ไม่ได้พึ่งพาประเทศเหล่านี้ จะขึ้นราคาประมาณ 2.9%
การจัดเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในอัตรา 25% โดยประธานาธิบดีทรัมป์ อาจส่งผลให้ราคาของสินค้าที่จำหน่ายในรูปแบบกระป๋องเพิ่มสูงขึ้น
แม้ว่าการเพิ่มภาษีครั้งเดียวอาจส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นแค่ชั่วคราว แต่ในระยะยาว การลดการแข่งขันจากต่างประเทศอาจทำให้ผู้ผลิตในประเทศขึ้นราคาสินค้าได้ง่ายขึ้น เช่น กรณีราคาเหล็กในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ต้นปี 2023 จากการเก็บภาษี ทำให้คู่แข่งจากต่างแดนน้อยลง
**บทสรุป**
แม้ราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเงินเฟ้อโดยรวมจะสูงขึ้นถาวร ธนาคารกลางยังคงมีอำนาจในการควบคุมราคา อย่างไรก็ตาม หากไม่มีปัจจัยสนับสนุนจากตลาดโลกที่ช่วยกดราคาสินค้าลง ธนาคารกลางอาจต้องใช้มาตรการดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2%
cr. WSJ
โฆษณา