‘ญี่ปุ่น’ วางแผนรับมือ ‘อภิมหาแผ่นดินไหว’ ล่วงหน้า 30 ปี หาทางรักษาชีวิต 3 แสนคน
ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2012 และ 2013 รัฐบาล “ญี่ปุ่น” เคยคาดการณ์ไว้ว่าหากเกิด“แผ่นดินไหวครั้งใหญ่” (Megaquake) ขนาดประมาณ 9 ริกเตอร์ขึ้น ตามร่องลึกนันไกทางตอนใต้ของชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของประเทศ จะทำให้มีผู้เสียชีวิต 323,000 ราย
ข้อมูลล่าสุดในปี 2025 คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตลดลงเหลือ 298,000 ราย ซึ่งเป็นผลมาจากในปัจจุบันที่มีตึกต้านแผ่นดินไหวและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอพยพผู้ประสบภัยจากสึนามิเพิ่มมากขึ้น แต่มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจะมีมูลค่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 1.44 ล้านล้านดอลลาร์จากการประมาณการครั้งก่อน เนื่องจากการประมาณการใหม่นี้คำนึงถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ รวมถึงข้อมูลภูมิประเทศและพื้นดินที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งส่งผลให้พื้นที่น้ำท่วมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นขยายเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวก็ยังไม่บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลที่จะลดจำนวนผู้เสียชีวิตลง 80% และลดจำนวนอาคารที่ได้รับความเสียหายลง 50% ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2023
“ร่องลึกนันไก” เป็นร่องใต้น้ำยาว 800 กิโลเมตร ทอดยาวจากชิซูโอกะ ทางตะวันตกของโตเกียว ไปจนถึงปลายสุดด้านใต้ของเกาะคิวชู ตั้งอยู่ที่จุดที่แผ่นเปลือกโลกสองแผ่นมาบรรจบกัน โดยปัจจุบัน “แผ่นทะเลฟิลิปปิน” กำลัง “มุดตัว” หรือเลื่อนช้า ๆ เข้าใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย ที่เป็นที่ตั้งของญี่ปุ่น
เมื่อแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่ แผ่นเปลือกโลกจะติดขัดและกักเก็บพลังงานจำนวนมหาศาล ซึ่งจะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อหลุดออกจากกัน อาจก่อให้เกิดแผ่นดินไหวหรือแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้
คณะทำงานจัดการภัยพิบัติของสำนักงานคณะรัฐมนตรีคาดว่า หากเกิดแผ่นดินไหวระดับ 7 ริกเตอร์ขึ้น จะเกิดแผ่นดินไหวที่รู้สึกได้ในเทศบาล 764 แห่งใน 31 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัดของญี่ปุ่น ทำให้เกิดคลื่นสึนามิสูงอย่างน้อย 3 เมตร และอาจสูงได้ถึง 34 เมตรในบางพื้นที่ของประเทศ คร่าชีวิตผู้คนไปมากถึง 215,000 ราย อาคารบ้านเรือนพังถล่ม 73,000 ราย และไฟไหม้ 9,000 ราย รวมถึงอาคารบ้านเรือนเสียหายจากไฟไหม้มากถึง 2.35 ล้านหลัง
ทั้งนี้จำนวนผู้เสียชีวิตจากคลื่นสึนามิที่คาดการณ์นี้ มาจากสมมติฐานที่ว่ามีประชาชนอพยพทันทีเพียง 20% แต่ถ้าเพิ่มอัตราการอพยพเป็น 70% อาจทำให้จำนวนลดลงเหลือ 94,000 ราย
สำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่คาดการณ์ไว้ คือแผ่นดินไหวขนาด 9 ริกเตอร์เกิดขึ้นในคืนปลายฤดูหนาว ที่มีลมแรง 8 เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนจำนวนมากไม่พร้อมอพยพ ซึ่งจะทำให้มีผู้เสียชีวิต 298,000 ราย
นอกจากผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์นี้แล้ว รัฐบาลยังคาดการณ์เป็นครั้งแรกว่าจะมีผู้เสียชีวิตจาก “ภัยพิบัติ” เช่น สภาพสุขภาพที่ย่ำแย่ในศูนย์อพยพ ประมาณ 26,000-52,000 ราย ญี่ปุ่นอาจต้องอพยพผู้คน 1.23 ล้านคนหรือคิดเป็น 1% ของประชากรทั้งหมด
สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นรายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของประเทศลดลง 8.3% หรือ 30,468 แสนล้านดอลลาร์เป็นเวลา 1 ปีหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหว
ในช่วง 1,400 ปีที่ผ่านมา แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในร่องลึกนันไกเกิดขึ้นทุก ๆ 100-200 ปี ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 1946 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาด 8.1 ริกเตอร์เกือบ 1,400 คน ซึ่งรัฐบาลกล่าวว่าโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในอีก 30 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีโอกาสเกิดขึ้น 75-82%
เดือนสิงหาคม 2024 สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้ออก “คำแนะนำเกี่ยวกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่” ครั้งแรกภายใต้กฎเกณฑ์ที่ร่างขึ้นหลังจากเกิดแผ่นดินไหว สึนามิ และภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะในปี 2011
ในตอนนั้น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นกล่าวว่าความน่าจะเป็นที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งใหม่ตามร่องลึกนันไกนั้นสูงกว่าปกติ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริกเตอร์ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 ราย แต่คำแนะนำดังกล่าวถูกยกเลิกหลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ แต่ทำให้เกิดการขาดแคลนข้าวและอาหารหลักอื่น ๆ เนื่องจากประชาชนต้องเติมเสบียงฉุกเฉิน
ล่าสุดญี่ปุ่นเตรียมประกาศจัดสรรงบประมาณ 20 ล้านล้านเยนเป็นสถิติใหม่สำหรับแผนรับมือแผ่นดินไหวในระยะเวลา 5 ปี ศ.ฟุกุวะ โนบุโอะ อดีตศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนาโกย่า สมาชิกคนสำคัญของกลุ่มทำงานของรัฐบาลที่จัดทำการคาดการณ์และมาตรการรับมือกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เน้นย้ำว่ารัฐบาลจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้บ้านเรือนและอาคารต้านทานแผ่นดินไหว
- 64
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
