3 เม.ย. เวลา 03:24 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

ศึกมหาประลัยเลือด:(Shaolin Abbot, 1979)

ตำนานการฟื้นฟูเส้าหลินใต้
นี่คือเรื่องเดียวที่หงซีกวนเริ่มต้นอาชีพเป็น "ช่างปั้นหม้อ" ก่อนจะมาเป็นยอดฝีมือ หลังจากมักจะเห็นเขาเข้าขั้นเทพตั้งแต่เกิด
ส่วนนักพรตคิ้วขาวไป่เหมยนั้น โหดจัดขั้นเหี้ยม "ทรยศทุกสำนัก" ทั้งเส้าหลินและง้อไบ๊
ศึกมหาประลัยเลือด(Shaolin Abbot, 1979) เป็นหนังกำลังภายในที่มีฉากหลังอยู่ในยุคสมัยที่ราชวงศ์ชิงเรืองอำนาจและสั่งเผาทำลายวัดเส้าหลิน เป็นผลงานของ เหอเมิ่งหัว ผู้กำกับระดับตำนานของ Shaw Brothers ซึ่งเคยฝากผลงานในหนังกำลังภายในและหนังสยองขวัญชื่อดังหลายเรื่อง
นักแสดงนำประกอบไปด้วย เดวิด เจียง , ฉีเส้าเฉียน, หลอลี, หลี่ลี่ลี่ โดยเนื้อหาหลักของเรื่องจะเน้นไปที่หลวงจีนจื้อส้าน ซึ่งได้รับมอบหมายให้สร้างวัดเส้าหลินใต้ขึ้นมาใหม่ หลังจากที่วัดเส้าหลินเหนือถูกทำลายจนราบคาบ เพราะมีผู้ทรยศในหมู่ศิษย์ที่ลอบแจ้งเบาะแสให้ทางการชิง ส่งผลให้ทหารชิงร่วมมือกับนักพรตคิ้วขาวไป่เหมย และนักพรตจากดินแดนตะวันตก นำกองกำลังบุกเข้าทำลายวัดเส้าหลินจึงตกเป็นเป้าหมายของการกวาดล้าง นักบวชและศิษย์จำนวนมากถูกสังหาร เหลือรอดเพียงไม่กี่คน
หลวงจีนจื้อส้าน (เดวิด เจียง)ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ให้เดินทางไปศึกษาวิชาฝ่ามือเหล็กกล้าที่สำนักง้อไบ๊ พอกลับมาถึงวัดเส้าหลินก็พบว่าทุกอย่างถูกเผาผลาญจนสิ้นซาก ในวาระสุดท้ายของอาจารย์เจ้าอาวาส ท่านได้มอบหมายให้เขาเดินทางลงใต้เพื่อฟื้นฟูวัดเส้าหลินขึ้นมาใหม่
ระหว่างการเดินทาง จื้อส้านได้ช่วยเหลือหลี่ซั่นเหรินเศรษฐีใจบุญในกวางตุ้งที่ถูกโจรปล้น ด้วยความซาบซึ้งใจ หลี่ซั่นเหรินจึงรวบรวมผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นเพื่อช่วยสนับสนุนการสร้างวัดเส้าหลินใต้
อย่างไรก็ตาม นักพรตไป่เหมยและแม่ทัพหลี่แห่งราชสำนักชิงไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านี้ พวกเขายังคงออกตามล่าผู้รอดชีวิตจากเส้าหลินเพื่อกำจัดให้สิ้นซาก และเมื่อไป่เหมยต้องการควบคุมสำนักง้อไบ๊ เขาจึงวางแผนลอบสังหารเจ้าสำนักเดิม ส่งผลให้ศิษย์หญิงคนสำคัญของสำนักง้อไบ๊ " อู่เหมย " ต้องหลบหนีและออกตามหาจื้อส้านเพื่อแจ้งข่าว
ขณะเดียวกัน จื้อส้านได้เริ่มรับศิษย์ใหม่เพื่อสืบทอดวิชากังฟูของเส้าหลิน มีหงซีกวน หลี่จิ่นหลุน ถงเชียนจิน และกุ้ยเจี่ยวฉี พวกเขาต่างเป็นบุคคลที่มีความแค้นกับราชวงศ์ชิงและพร้อมจะต่อสู้เพื่อฟื้นฟูเส้าหลิน เมื่อไป่เหมยและกองทัพชิงบุกเข้าสู่กวางตุ้ง พวกเขาเริ่มสังหารผู้ต่อต้าน รวมถึงหลี่ซั่นเหรินผู้เคยช่วยเหลือจื้อส้าน เหตุการณ์นี้ผลักดันให้เหล่าศิษย์ของจื้อส้านรวมตัวกันบุกเข้าไปในเมืองเพื่อล้างแค้น นำไปสู่ศึกครั้งใหญ่ระหว่างนักสู้เส้าหลินกับไป่เหมย
ในการเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย จื้อส้านและเหล่าศิษย์ใช้สุดยอดวรยุทธ์ของเส้าหลินเอาชนะไป่เหมย, แม่ทัพหลี่, และนักพรตจากดินแดนตะวันตก พวกเขาจึงสามารถหนีออกจากกวางตุ้งและเดินทางไปยังฝูเจี้ยน ที่นั่นพวกเขาเริ่มต้นสร้าง วัดเส้าหลินใต้ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการต่อต้านราชวงศ์ชิงและสืบทอดมรดกของเส้าหลิน
แม้ว่าศึกมหาประลัยเลือด จะมีโครงเรื่องคล้ายกับหนังเส้าหลินหลายเรื่องที่กล่าวถึงการเผาทำลายวัดเส้าหลิน แต่จุดที่แตกต่างคือ
หนังโฟกัสที่หลวงจีนจื้อส้าน ขณะที่ ถล่มเจ้าระฆังทอง Executioners From Shaolin (1977 ) และฤทธิ์หมัดฝังเข็ม Clan of the White Lotus (1980) เน้นที่หงซีกวนและศิษย์ฆราวาสของเส้าหลิน ส่วนศึกมหาประลัยเลือดกลับเลือกให้หลวงจีนจื้อส้านเป็นตัวเอก และเน้นไปที่การฟื้นฟูเส้าหลินใต้ มากกว่าการแก้แค้น
บทบาทของสำนักง้อไบ๊ หนังเรื่องนี้เชื่อมโยงการล่มสลายของเส้าหลินกับการลอบสังหารเจ้าสำนักง้อไบ๊ ซึ่งเป็นแง่มุมที่ไม่ค่อยมีในหนังเส้าหลินเรื่องอื่น ๆ เล่ามากนัก
มิติของนักพรตไป่เหมย ที่ไม่ได้เป็นเพียงตัวร้ายที่วรยุทธเก่งกาจ แต่ยังเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังการทำลายทั้งเส้าหลินและง้อไบ๊ ทำให้เขากลายเป็นศัตรูสำคัญในเรื่อง เข้าสู่โหมดคนเลวสมบูรณ์แบบ
เหอเมิ่งหัวเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่มีบทบาทสำคัญต่อวงการหนังจีนกำลังภายใน โดยเฉพาะผลงานที่สร้างให้กับ Shaw Brothers อย่างไรก็ตาม ในศึกมหาประลัยเลือดแม้ว่าจะมีฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้นและธีมเรื่องที่แข็งแกร่ง แต่โครงสร้างของบทหนังกลับไม่ลงลึกในรายละเอียดตัวละครมากนัก ทำให้แม้จะมีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นตลอดทั้งเรื่อง แต่กลับขาดมิติทางอารมณ์ในบางช่วง เหมือนหนังเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นหนังเส้าหลินที่ได้รับความนิยมสูงสุด ศึกมหาประลัยเลือดก็ยังถือเป็นหนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวของยุคสมัยที่ราชวงศ์ชิงกวาดล้างเส้าหลินได้อย่างเข้มข้น การเปลี่ยนมุมมองไปที่การสร้างเส้าหลินใต้แทนการแก้แค้น ทำให้หนังมีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
โฆษณา