อนาคตของ Software Development: Coding กับ Vibe Coding
หากคุณเป็นคนไอทีและติดตามข่าวสารเทคโนโลยีบน Social Media คุณน่าจะได้เห็นคำนี้ผ่านตามาบ้าง เพราะเมื่อไม่นานมานี้บนโลกออนไลน์ต่างพากันพูดถึง Vibe Coding! ดังนั้นบทความนี้จะมาพูดถึง อนาคตของ Software Development: Coding กับ Vibe Coding
บน Social Media มีคำถามเกิดขึ้นมากมายในช่วงที่ผ่านมา
Vibe Coding จะมาแทนที่ Coding หรือไม่?
Software Engineer จะหายไป และอาจถูกแทนที่ด้วย AI หรือไม่?
เนื่องจากมีคนมาโชว์ว่า
“คุณไม่จำเป็นต้องเขียน Code แค่ Vibe Coding ก็พอ”
“สามารถสร้าง App ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง”
“สามารถสร้าง Netflix Clone ภายในเวลาเพียงหนึ่งนาที”
ทำให้บน Social Media โดยเฉพาะ Twitter เต็มไปด้วยโพสต์เกี่ยวกับ Vibe Coding
มาดูกันสิว่าใครเริ่มนำเสนอคำว่า Vibe Coding?
Karpathy on Twitter
หากคนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร มาพูดคำนี้เราก็คงจะรู้สึกเฉย ๆ ไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่นี่คือคนที่มีชื่อเสียงในวงการไอทีอย่าง Andrej Karpathy เขาเป็น Director of AI ของ Tesla และ Co-founder ของ OpenAI ดังนั้น เราก็ต้องติดตามสักหน่อยว่ามันคืออะไร
บางคนถึงกระทั่งนำ Vibe Coding ก้าวไปสู่อีกระดับ ยกตัวอย่างเช่น Peter Levels หนึ่งใน OGs ของ Indie Hacking ได้สร้าง App ทั้งหมดโดยใช้ AI และทำรายได้มากกว่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐในเวลาเพียงไม่กี่วัน แม้ว่าคุณ Levels จะเป็นคนดัง แต่คนทั่วไปอาจคิดว่า “เขาประสบความสำเร็จในครั้งนี้ เพราะชื่อเสียงและประสบการณ์ของเขา” ดังนั้น จะขอยกตัวอย่างอีกคนที่เปิดตัวอะไรทำนองเดียวกัน และเขาไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก อย่างคุณ Levels
“หากคุณดำเนินการอย่างรวดเร็ว คุณจะได้รับคำติชมหรือคำวิจารณ์เร็วขึ้นมากเท่านั้น”
แต่คุณคิดว่าอนาคตจะเป็นแบบนี้ไหม? คุณแค่สั่งให้ Cursor หรือ WindSurf เขียน Code สำหรับ App ทั้งหมดของคุณเท่านั้นได้ใช่ไหม?
คุณคิดจริง ๆ หรือว่า อนาคตของ Coding นั้นจะไม่จำเป็นต้องเขียน Code อีกต่อไป?
แนวคิดที่ไม่ต้องเขียน Code เลยอาจฟังดูเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หรืออาจถึงขั้นน่ากลัวสำหรับ Developer แบบดั้งเดิมก็ว่าได้
หากคุณเป็น Software Engineer ที่มีประสบการณ์ทำงานด้านเทคโนโลยี Vibe Coding อาจเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องเขียน Code เองตั้งแต่ต้น คุณเพียงแค่ต้องเขียนอธิบายสิ่งที่คุณต้องการลงไป แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่เคยสร้าง App จริง ๆ มาก่อนเลย และเลือกใช้ Vibe Coding เพื่อสร้าง App ใหม่ ซึ่งโอกาสที่เมื่อคุณไปถึงระดับที่มีความซับซ้อน และคุณไม่เข้าใจ Code นั้นก็มีสูง คุณก็จะต้องเจอปัญหาใหญ่แน่ ๆ
แต่หากคุณเป็นคนที่เข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ คุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจาก Vibe Coding เนื่องจากคุณสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ในเวลาอันรวดเร็ว จนบางทีคุณอาจเรียกตัวเองว่า 10X Engineer ก็ได้ ดังนั้น ถึงว่าแม้ว่า Code จะทำงานได้ แต่บางทีมันก็จะเป็นกับดัก
นี่เปรียบเสมือน Code ที่คาดเดาไม่ได้ ที่คุณอาจจะได้รับมาจาก AI
ดังนั้น แม้ว่าการเขียน Code ด้วยความช่วยเหลือของ AI จะช่วยให้ Developer ประหยัดเวลาในการเขียน Code แต่ก็อาจทำให้เกิดตรรกะที่ไม่คาดคิดได้เช่นกัน เช่น เพิ่ม if (user.isHappy) { deleteDatabase(); } ลงใน Payment Gateway ของคุณ
ซึ่งไม่ได้บอกว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริง ๆ แต่ก็มีโอกาสที่มันจะเกิดขึ้น ดังนั้น จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณทำผิดพลาดเพียงเล็กน้อยและ Database ทั้งหมดของคุณหายไป? มันเหมือนกับว่าคุณต้องเป็น100X Debugger เสียก่อน
สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน:
บริษัทต่าง ๆ กำลังไล่พนักงานออก
Developer รุ่นเก่าก็กำลังเครียด
คนที่จบจาก Bootcamp ก็กำลังวิตกกังวล
แล้ว CEO ทำอะไรอยู่? พวกเขากำลังเขียนร่าง เรื่องการเลิกจ้างที่มีชื่อว่า “การเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากรในยุค AI” สำหรับผู้ถือหุ้นของพวกเขาอยู่ 555+
แม้ว่าคุณจะสร้าง 100 Projects และเพิ่มเข้าในเรซูเม่ของคุณ แต่ดันเป็นเรซูเม่ที่สามารถตั้งชื่อได้ว่า “Built 100 Vibe Apps” มันก็คงไม่มีความหมายเลย หากคุณไม่สามารถแก้ไข Memory Leak หรือเข้าใจพื้นฐาน
ดังนั้น AI จะไม่มาแย่งงานของคุณ แต่เด็กที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและทำงานด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อได้เร็วกว่าคุณ 3 เท่านั้นแหละที่อาจจะมาแทนที่คุณได้
และสุดท้ายภาพนี้คงเหมาะกับบทความนี้มากที่สุด (ขอบคุณเจ้าของภาพ)
ISM เชี่ยวชาญในธุรกิจ IT Recruitment & IT Outsourcing โดยเฉพาะ ได้เปิดทำการมาแล้วกว่า 30 ปี มีพนักงานทุกสายและทุกระดับทางด้าน IT ที่ได้ร่วมงานกับลูกค้าองค์กรใหญ่ที่มีชื่อเสียงและบริษัทข้ามชาติมากมาย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
