ยูเครน = เยอรมันตะวันตก
“โฆษณาชวนเชื่อ” และ “การแก้แค้น”
บทความเผยแพร่บน The National Interest เมื่อ 2 เมษายน 2025 เขียนโดย Arman Mahmoudian นักวิจัยจากสถาบันความมั่นคงระดับโลกและแห่งชาติของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้เสนอแผนให้ฟื้นฟูยูเครนหลังสงครามในภาพลักษณ์และรูปแบบเดียวกันกับที่เกิดขึ้นของ “เยอรมันตะวันตก” หลังสงครามโลกครั้งที่สอง [1]
“ยูเครนหลังสงครามอาจกลายเป็นผู้สืบทอดมรดกต่อจากเยอรมันตะวันตกในยุคสงครามเย็น ซึ่งเป็นรัฐแนวหน้าที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ในทศวรรษหน้าซึ่งอาจพิสูจน์ได้ว่ามีความสำคัญพอๆ กับการต่อสู้ในช่วงสงครามในยุคปัจจุบัน” Mahmoudian กระตุ้นต่อมให้คิด
ตามคำกล่าวของผู้เขียน ยูเครนควรเป็น “ทั้งปราการต่อต้านการรุกรานของรัสเซียและประภาคารแห่งคุณค่าของยุโรป” ในเวลาเดียวกัน “นาโตควรจัดหาทรัพยากรและการสนับสนุนที่จำเป็นแก่ยูเครนเพื่อสร้างกองกำลังติดอาวุธที่คล้ายคลึงกับ Bundeswehr (กองกำลังติดอาวุธ) ของเยอรมนีตะวันตก ซึ่งจะทำให้เคียฟเป็นเขตกันชนที่ดีระหว่างรัสเซียและประเทศต่างๆ ในแถบยุโรปตะวันออกเฉียงใต้”
นอกจากนี้ยังมีข้อความที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเข้าร่วมนาโตของยูเครน “แม้ว่าความคืบหน้าของยูเครนในการเป็นสมาชิกนาโต แลดูเหมือนจะหยุดชะงักตลอดระยะเวลาที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สอง แต่ประเด็นนี้ก็ยังห่างไกลจากวาระสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐฯ ยังคัดค้านการเสริมกำลังอาวุธของเยอรมนีตะวันตกในยุคหลังสงคราม แต่เปลี่ยนจุดยืนเมื่อสงครามเย็นเกิดขึ้น เส้นทางของยูเครนอาจเดินตามไปในแนวทางเดียวกัน”
เครดิตภาพ: The Cold War
บทความได้มีการเปรียบเทียบเรื่องนี้ไว้บนพื้นฐานที่ว่า เยอรมนีตะวันตกก่อตั้งขึ้นในปี 1949 และ ต่อมาในปี 1955 หรือเพียงหกปีต่อมาก็ได้เข้าร่วมนาโตทันที ยูเครนจะได้รับเป็นตัวเลือกเดียวกันหรือไม่?
ความหมายทั่วไปของสูตร “ยูเครน = เยอรมนีตะวันตก” นั้นชัดเจน นั่นคือ การรักษาศักยภาพทางการทหารของยูเครนเอาไว้ การทำให้กองทัพยูเครนกลับมามีกำลังทหารอีกครั้ง การเข้าร่วมนาโตที่ต้องประวิงเวลา และสงครามที่ยืดยาวกับรัสเซีย แต่ยังรวมถึง “การแสดงโชว์ของโลกตะวันตก” บนดินแดนของยูเครนเพื่อจุดประสงค์ในการโฆษณาชวนเชื่อที่มุ่งเป้าไปที่ประชาชนทั้งสองฝั่งของชายแดน ผู้เขียนต้นเรื่องเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง
“หากการปรับโครงสร้างยูเครนที่นำโดยสหภาพยุโรปประสบความสำเร็จ มันจะสร้างทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่บนอีกฝั่งของชายแดนใหม่ ความสำเร็จทางเศรษฐกิจของยูเครนฝั่งที่เป็นประชาธิปไตย (เทียบกับตอนเยอรมันตะวันตก) และภาวะซบเซาที่ยังคงดำเนินต่อไปภายในรัสเซียอาจทำให้ชนกลุ่มน้อยที่พูดภาษารัสเซียในตะวันออกและใต้ [ของยูเครน] หมดกำลังใจและอยากจะออกห่างฝั่งรัสเซียหนีเข้าไปฝั่งตะวันตก”
นอกจากเรื่อง “การแสดงโชว์ของโลกตะวันตก” แล้ว เนื้อหาบทความต้นเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรใหม่มากนัก หากสังเกตเรื่องการเปรียบเทียบโลกสองฝั่งในอดีตดินแดนเดียวกันเกิดในช่วงที่สหรัฐกำลังหาทางปิดดีลเข้าสำรวจ (ยึด) ทรัพยากรธรรมชาติมีค่าในยูเครน ซึ่งเรื่องนี้ตอนนี้ก็ได้หยุดชะงักไปเพราะทีมเซเลนสกีดูท่าไม่ยอม
เรื่องนี้ “คิสซิงเจอร์” เคยเสนอให้ยุติความขัดแย้งในยูเครนตามแนวปะทะกับรัสเซียมาก่อนแล้ว โดยเขายกตัวอย่าง “เลือกช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่เข้าใจได้ง่ายมาเปรียบเทียบ” โดยเขายกกรณีตัวอย่างถึงเยอรมนี หรืออีกนัยหนึ่งการรวมชาติในขอบเขตอิทธิพลตะวันตกในปี 1990 (กำแพงเบอร์ลินทลาย) ซึ่งเป็นตัวอย่างของการเล่นเกมระยะยาว (รอเวลาเกิดผล) [2]
แต่ทว่าจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ เพราะจากคำแถลงและคำประกาศต่างๆจากฝั่งทางการรัสเซีย (ปูติน) ดูเหมือนพวกเขาไม่ต้องการ “โมเดลเยอรมันตะวันตก” เราคงต้องติดตามกันต่อไป
ภาพถ่ายเมื่อปี 2006 เครดิตภาพ: Dmitry Astakhov / AP
เรียบเรียงโดย Right Style
4th Apr 2025
- ■อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: REUTERS/Christian Mang>
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
