4 เม.ย. เวลา 03:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ
1. ให้ฝึกเริ่มคิดอย่างง่ายๆ ก่อนค่ะว่า ราคาทองคำจะขึ้นหรือลง ด้วยเหตุผลอะไรก่อน ราคาทองคำก็เหมือนสินค้าทั่วไป เพียงแต่ตัวมันเอง "อาจ" มีมูลค่าสูงขึ้น หรือต่ำลงได้ในบางช่วงเวลาที่กำลังดำเนินไปในอนาคต เพราะมันเป็นแร่ธาตุสำคัญที่หายาก มีอยู่จำกัด ไม่ต้องการการบำรุงรักษา เก็บเป็นแท่งๆไว้เฉยๆได้นาน และมันยังต้องใช้ในอุตสาหกรรมสำคัญๆ มันจึงเกิดการเปลี่ยนมือซื้อขายในตลาด ด้วยสภาพคล่องที่สูง มากกว่าทรัพย์สินดาษดื่นทั่วๆไปนั่นเอง
2. ทองคำราคาสูง แสดงว่าเจอแรงกดดันจากความต้องการที่แท้จริงในภาคอุตสาหกรรม และ/หรือ "การหนีจากตลาดหุ้นที่กำลงร่วง" และ/หรือ "การทุ่มซื้อเพื่อการครอบครอง" เพราะนายทุนต้องการครอบครอง จึงอาจปั่นราคาช่วงสั้นๆ ให้คุณโลภ และตัดสนใจนำออกขาย ถ้าทองคำทั้งโลกมาอยู่ในมือคุณคนเดียว คุณก็คือเจ้าโลก! คราวนี้ คุณจะกำหนดราคาทองคำในตลาดเท่าไหร่ก็ได้ รวยเละกันไปข้างหนึ่ง! จริงไหม?
3. ตัดกลับมาดูการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐ เพราะสหรัฐคือขาใหญ่การนำเข้า ประกอบกับความแข็งของมูลค่าทางศก. ที่มีต่อค่าเงินดอลล่าสรอ. มันจึงยังคงเป็นพ่อทุกสถาบัน เมื่อสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้า หลายบริษัทอาจมีปัญหาผลประกอบการ คนถือหุ้นก็เร่งขายออก ตลาดหุ้นก็ร่วงจากราคาหุ้นที่ร่วง สรุปคือราคาหุ้นที่ร่วง เพราะคนถือหุ้นขายออกมากกว่าซื้อ หันไปเก็บเงินสด หรือโยกไปลงทุนในทรัยพ์สินอย่างอื่น
เก็บเงินสดแล้วยังไง?
ก็หากเก็บเฉยๆ ก็แพ้เงินเฟ้อไง ครั้นจะเอาไปลงทุน
ก็ไม่รู้จะลงทุนอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ศก.ยังอึนๆอยู่
ก็ไม่พ้นจะโยกไปลงทุนในทรัพย์สิน ที่สภาพคล่องสูง
เพื่อรอดูสถานการณ์ศก.ฟูๆ อีกครั้ง
และจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากถือ "ทองคำ"
......................
วนกลับไปอ่าน ข้อ 1 และ 2
โฆษณา