4 เม.ย. เวลา 06:27 • ไลฟ์สไตล์
อารมณ์นั้นมัมมาเหมือนคลื่น เหมือนสายน้ำ จิตเรานั้น เหมือนนั่งอยู่ในเรือลำน้อยๆ กำลังพายเรือโลดแล่น ไปตามสายน้ำแห่งอารมณ์ สายน้ำนั้น ก็มีสิ่ง ปฏิกูล ..อะไรลอยมา หมาเน่าลอยมา มาชนมากระแทก หัวเรือ ที่เรากำลังพาย .มีคลื่นที่กระจายออกมาจากตัวเรือ ออกไปรอบข้าง คือ กายที่เสียดสีกับกระแสน้ำ คลื่นของอารมณ์ ..มีน้ำไหลกระเซ็นขึ้นมาที่หัวเรือ ที่หูตาจมูกลิ้นกายใจ
แล้วก็..มีน้ำที่ไหลเป็นคลื่น ใต้น้ำ ปะทะที่ตัวเรือ ยิ่งพายเรือต้าน กระแสน้ำที่แรงมาจากใต้น้ำ น้ำนั้นก็ดันขึ้นไปที่หัวเรือ ให้หัวเรือ สกปรก เลอะเทอะ พล่ามไปได้ ..สิ่งที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนที่หีวเรือ
คราวนี้ พอหัวเรือมันเลอะเทอะ ก็พอมีสติขึ้นมาหน่อย ก็ไม่รู้จะแก้ไข สับสน ไม่รู้จะเอาของเลอะเทอะ เอามาออกไปได้อย่างไร ก็ได้แต่รำพึงรำพัน ..ทำไม่ถึงเป็นอย่างนั่นอย่าง ทำไมเรื่องอย่างนี้ ต้องมาเกิดกับเรา
เรื่องราวนี้ เป็นเรื่องที่มีพระ ท่านมาสอนวิชาพายเรือให้ . เป็นเรื่องราวเหมือนที่ว่า จิตเรานั้น เดินอยู่สายน้ำที่สกปรก มีอารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ..ก็ต้องมาเกิดมาแก่ตายในสายน้ำนี้ ไม่สามารจะไปพายเรื่อ ในสายน้ำที่สะอาดสะอ้าน ที่ว่า พายเรือ ด้วยศีล สมาธิ ปัญญาได้ เกิดมาทีไร ก็พายในสายน้ำโลกโกรธหลง มีหมาเน่า ลอยมา ก็เอาหัวเรือ ไปกระแทกไปชนหมาเน่า บางที่ก็ลากขึ้นมาเรือีก ก็เลยเหม็นเน่าไปทั่งลำเรือ ให้ผู้ที่นั่งในเรือได้ เสพ สัมผัสในสิ่งที่ลอยมากับสายน้ำ ที่เรือนั้นกายนั้นไปสัมผัส ติดยึดเข้ามาในเรือ
นี่ก็เป็นเรื่องราว การพายเรือ .ที่ต้องอาศัยการเดินจงกรม มาฝึกหัด ให้รู้จัก เรื่องราวของอารมณ์ รับรู้เรื่ิองของคลื่นแห่งอารมณ์ เพื่อพายเรือทวนน้ำ ไปหาท่าของคำว่า .บุญ ท่าที่มีกายเป็นบุญ กายเทพยดาอินทร์พรหม
โฆษณา