แซมเคยเล่าไว้ในหนังสือที่เขาเขียนเอง “Sam Walton, Made in America: My Story” ว่า เขาได้เรียนรู้ตั้งแต่ยังเด็กว่า การช่วยหาเลี้ยงครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาในฐานะเด็ก ๆ ที่จะเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ เขาตระหนักในขณะที่รับราชการในกองทัพว่า เขาต้องการเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกและทำธุรกิจของตัวเอง
หลังออกจากกองทัพ แซมจึงได้ใช้เงินเก็บและเงินสนับสนุนจากพ่อตา เช่าร้านขายของเบ็ดเตล็ด Ben Franklin ในเมืองโรเจอร์ส รัฐอาร์คันซอ โดยดำเนินการภายใต้รูปแบบธุรกิจที่ไม่ค่อยเหมือนใครในยุคนั้น นั่นคือ “เน้นขายของถูก”
ในระหว่างทำธุรกิจร้าน Ben Franklin แซมมุ่งเน้นการทำให้ร้านของเขาสามารถแข่งขันได้โดยการซื้อสินค้าราคาถูกและนำมาขายในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ในทางทฤษฎี แม้ว่าจะมีอัตรากำไรที่ต่ำกว่า แต่จะได้ความต้องการที่สูงขึ้นและปริมาณการขายที่สูงขึ้น ซึ่งสามารถชดเชยกันได้
แนวคิดของแซมได้รับการพิสูจน์อย่างรวดเร็วว่าถูกต้อง เพราะมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าจาก 105,000 ดอลลาร์เป็น 250,000 ดอลลาร์ในช่วง 5 ปีที่เขาทำร้าน Ben Franklin
ในปี 1950 หลังจากที่ไม่สามารถต่อสัญญาเช่ากับ Ben Franklin ได้ แซมจึงเปิดร้าน “Walton’s 5&10” ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าราคาถูก ในเมืองเบนตันวิลล์ รัฐอาร์คันซอ ซึ่งปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์วอลมาร์ต