ประเทศฮอนดูรัสกำลังได้บทเรียนราคาแพงจากการเลือกข้างผิดในเกมการทูตสองขั้ว
ในปี 2023 รัฐบาลฮอนดูรัสตัดสินใจ “หักดิบ” ยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันที่มีมานาน แล้วหันไปซบอกปักกิ่งแทน ด้วยความหวังว่าจะได้อะไรติดมือกลับมาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ข้อตกลงการค้าเสรี” กับจีน ที่หลายฝ่ายมองว่าน่าจะเปิดตลาดใหม่ให้กับสินค้าเกษตรของฮอนดูรัส เช่น “กุ้งขาว” ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ
แต่เรื่องจริงมันไม่ได้เป็นแบบที่ฮอนดูรัสคิดไว้เลย
เพราะสิ่งที่ตามมาหลังจากฮอนดูรัสเลือกจีนก็คือ การถูก “เท” แบบหมดฟอร์ม! จากที่ก่อนหน้านั้น ไต้หวันเคยเป็นตลาดหลักที่รับซื้อกุ้งขาวจากฮอนดูรัสถึงเกือบ 40% ของยอดส่งออกทั้งหมดในปี 2022 แต่หลังจากตัดสัมพันธ์กับไต้หวัน การส่งออกกุ้งขาวของฮอนดูรัสกลับ “ทรุดหนัก” ถึง 67% ภายในเวลาแค่สองปีเท่านั้น ส่งผลให้แรงงานในอุตสาหกรรมกุ้งกว่า 14,000 คน ต้องตกงาน!
ยิ่งไปกว่านั้น สัญญาใจที่จีนเคยให้ไว้ตอนเจรจาสร้างความสัมพันธ์ว่าจะซื้อกุ้งขาวจากฮอนดูรัสในปริมาณมาก ก็กลายเป็นแค่ลมปากไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง
จีนเคยส่งตัวแทนมาลงพื้นที่ดูฟาร์มกุ้งถึงฮอนดูรัสเมื่อกลางปี 2024 แล้วก็ประกาศอย่างยิ่งใหญ่จะซื้อกุ้งถึง 250 ตู้คอนเทนเนอร์ แต่สุดท้าย ซื้อไปจริงแค่ 1 ตู้ เท่านั้นเอง! ทำเอาสมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแห่งชาติของฮอนดูรัส (ANDAH) ถึงกับออกมาด่าแรงว่าจีนเป็นประเทศที่น่ารังเกียจ
ขณะที่การส่งออกสินค้าจากจีนมายังฮอนดูรัสกลับพุ่งไม่หยุด ปีที่แล้วจีนส่งของมูลค่ากว่า 2,550 ล้านดอลลาร์ เข้าไปในฮอนดูรัส ขณะที่ฮอนดูรัสส่งออกไปจีนได้แค่ 35.9 ล้านดอลลาร์ ทำให้เกิด “ขาดดุลการค้า” มากกว่า 2,500 ล้านดอลลาร์ แบบที่ไม่มีอะไรมาอุดช่องว่างทางการค้านี้ได้เลย
ตอนนี้รัฐบาลฮอนดูรัสก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่าการตัดสัมพันธ์กับไต้หวันเพื่อแลกกับคำสัญญาที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากจีน เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างหนัก และกำลังพยายาม “ตีจาก” ปักกิ่ง เพื่อหาทางกลับมาเชื่อมต่อกับตลาดไต้หวันอีกครั้ง
ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหมือนตัวอย่างคลาสสิกของการเมืองโลกยุคใหม่ ที่ “ผลประโยชน์” และ “สัญญาทางการทูต” มักไม่ได้เป็นไปตามที่เห็นบนกระดาษ และเป็นบทเรียนระดับประเทศ ที่บอกว่า… “เลือกข้างผิด ชีวิตเปลี่ยน” ได้เลย
โดย : Suvipan Jampa
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
