“จีน”ไม่ยอมสหรัฐจี้ยกเลิกมาตรการภาษีฝ่ายเดียวทันที
“จีน”ไม่ยอมสหรัฐจี้ยกเลิกมาตรการภาษีฝ่ายเดียวทันที : คอลัมน์ลวดลายมังกร โดย...พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้กับคู่ค้าทางการค้า ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของจีนระบุว่า จะคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อเรื่องนี้ และจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเอง
ทั้งนี้ ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์จีน โดยโฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ได้กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 เม.ย. 2568 ว่า สหรัฐฯ อ้างว่า ตนได้รับความสูญเสียในการค้าระหว่างประเทศ และได้ขึ้นภาษีกับหุ้นส่วนทางการค้าทั้งหมดโดยอ้างเหตุผลว่า "มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน"
การปฏิบัตินี้ละเลยสมดุลของผลประโยชน์ ที่ได้มาในการเจรจาการค้าพหุภาคีตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังละเลยข้อเท็จจริงที่ว่า สหรัฐฯ ได้ประโยชน์อย่างมากมาย จากการค้าระหว่างประเทศมาเป็นเวลานานแล้ว
โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ยังกล่าวอีกว่า “ภาษีศุลกากรซึ่งกันและกัน” ที่สหรัฐฯ กำหนดขึ้นจากการประเมินแบบอัตนัยและฝ่ายเดียวนั้น ไม่สอดคล้องกับกฎการค้าระหว่างประเทศ สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และถือเป็นการกลั่นแกล้งฝ่ายเดียวโดยทั่วไป ในทางกลับกันพันธมิตรทางการค้า จำนวนมากได้แสดงความไม่พอใจอย่างมากและการคัดค้านอย่างชัดเจน
โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน ได้เน้นย้ำว่า ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า การขึ้นภาษีไม่สามารถแก้ไขปัญหาของสหรัฐฯ เองได้ ซึ่งจะไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เองเท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลก และเสถียรภาพของการผลิตและห่วงโซ่อุปทานอีกด้วย
ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า และไม่มีทางออกสำหรับการค้าคุ้มครอง จีนขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการภาษีฝ่ายเดียวทันที และแก้ไขความขัดแย้งกับหุ้นส่วนทางการค้าอย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาที่เท่าเทียมกัน
ภายใต้การประกาศของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับภาษีศุลกากรตอบโต้กับพันธมิตรทางการค้า สหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษีศุลกากรใหม่ 34% สำหรับสินค้าจีน เมื่อรวมกับภาษี 20% ที่บังคับใช้ในช่วงต้นปีนี้ อัตราภาษีสำหรับสินค้าจีนที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 54%
“จีน”ไม่ยอมสหรัฐจี้ยกเลิกมาตรการภาษีฝ่ายเดียวทันที
ก่อนหน้านั้น พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ก็ได้ประมวลข้อมูลเกี่ยวกับเกมใหม่ระหว่างจีน และสหรัฐฯ ต่อกรณีท่าเรือและทรัพยากร เพื่อการทำสงครามการค้ารอบใหม่กับจีน เนื่องจากผลการแข่งขันสงครามการค้ารอบที่แล้วพบว่า ปริมาณการค้าของจีนกลับเพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง ดังนั้น สถานที่ที่สหรัฐฯ ต้องการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ อาจเปลี่ยนไปสู่ทิศทางใหม่ที่อันตรายยิ่งกว่า นั่นก็คือ การขนส่งและทรัพยากร กล่าวคือ
1.การขนส่ง โดยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมนีมีความแข็งแกร่งมากทั้งในด้านเทคโนโลยีและตลาด แล้วทำไมเยอรมนีถึงแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 เหตุผลหลักประการหนึ่งคือ เยอรมนีเป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ และกระสุนที่จำเป็นสำหรับสงครามทำจากทองแดง และลำกล้องปืนทำจากเหล็ก
ประเทศเยอรมนีกำลังขาดแคลนทรัพยากรเหล่านี้ และเยอรมนีจำเป็นต้องขนส่งทรัพยากรเหล่านี้ เข้ามาในประเทศทางทะเลอย่างต่อเนื่อง ในการขนส่งทางทะเลจะผ่านช่องทางการขนส่งเชิงยุทธศาสตร์ เช่น ช่องแคบอังกฤษ และ ช่องแคบโดเวอร์ ในเวลานั้นฝ่ายตรงข้ามของเยอรมนีอย่างอังกฤษและฝรั่งเศส เห็นจุดนี้ และปิดกั้นช่องทางเหล่านี้ทีละช่องทาง
สงครามกลายมาเป็นสงครามแบบถ่วงเวลาในระยะหลัง เมื่อทรัพยากรถูกใช้จนหมดและไม่สามารถขนส่งเข้ามาได้ เยอรมนีก็ไม่สามารถทนต่อสิ่งนี้ได้ จึงพ่ายแพ้ไป การควบคุมช่องทางการขนส่งทำให้มหาอำนาจทางเทคโนโลยีสามารถถูกใช้ไปในระยะยาว และล้มเหลวในที่สุด ใครก็ตามที่ควบคุมช่องทางการขนส่งก็สามารถควบคุมประเทศอื่นๆ ได้
2. ทรัพยากร ในสมัยโบราณ จีนถูกเรียกโดยชาวต่างชาติว่า อาณาจักรสวรรค์ เหตุผลที่สำคัญที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็คือ จีนเชี่ยวชาญเทคโนโลยีการถลุงเหล็กเป็นจำนวนมากในขณะนั้น ชนเผ่าเร่ร่อนในสมัยนั้น เช่น ชาวเซียนเป่ยและชาวเซียงหนู ต้องใช้เกราะและอาวุธเหล็กจำนวนมากในการสู้รบ แต่พวกเขาไม่มีเทคโนโลยีและทรัพยากรเพียงพอ แม้แต่หม้อเหล็กที่ใช้กินอาหารพวกเขาก็ทำไม่ได้
ในเวลานี้ สิ่งที่พวกเขาทำคือ การบูชาราชวงศ์ที่ราบภาคกลางเป็นพี่ใหญ่ และคิดหาวิธีเอาใจราชวงศ์ที่ราบภาคกลาง ด้วยการจ่ายเครื่องบรรณาการ ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรเหล็กเหล่านี้
เพราะฉะนั้นผู้ใดก็ตามที่ได้ทรัพยากรมา ก็สามารถควบคุมประเทศรอบข้างได้ ในโลกนี้ ใครก็ตามที่ควบคุมการคมนาคมและทรัพยากรได้ คือผู้ที่ควบคุมสิทธิในการพูดทิศทางใหม่ของเกม เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้สหรัฐฯ สามารถกดขี่จีนได้บ่อยครั้งในอดีตก็เพราะสหรัฐฯ เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อผลิตสินค้า ประเทศอื่นๆ ในโลกจะต้องเสียค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรต่างๆ ให้สหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯ สามารถสร้างโชคลาภจากนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเหล่านี้
เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ที่จีน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใช้ระบบปฏิบัติการของ Microsoft เนื่องจาก Microsoft เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ทุกครั้งที่จีนติดตั้งคอมพิวเตอร์ และใช้ระบบปฏิบัติการ Microsoft จีนต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรให้กับ Microsoft หากสหรัฐฯ สามารถรักษาความได้เปรียบทางเทคโนโลยีเอาไว้ได้ สหรัฐฯ ก็สามารถรับค่าลิขสิทธิ์ต่อไปได้
แต่ขณะนี้ ในประเทศจีน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ในขณะที่สหรัฐฯ ยังคงล้าหลังอยู่เล็กน้อย ในขณะนี้ ยุทธศาสตร์แรกที่ผู้มีอำนาจตัดสินใจของสหรัฐฯ เสนอคือ การกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพื่อปราบปรามฝ่ายตรงข้าม นับตั้งแต่ปี 2019 (พ.ศ. 2562) สหรัฐฯ ไม่เคยหยุดการปิดกั้นทางเทคโนโลยีและการคว่ำบาตรจีนเลย
แต่โดยพื้นฐานแล้วไม่ได้บรรลุผลตามที่คาดหวัง ในด้านเทคโนโลยี การแข่งขันโดยตรงไม่ประสบผลสำเร็จ และมาตรการคว่ำบาตรและปราบปรามก็ไม่มีประสิทธิภาพ สิ่งเดียวที่เหลือคือ การแก้ไขที่แหล่งที่มา และแหล่งที่มาคือทรัพยากรและการขนส่ง
เหตุใดทรัพยากรและการขนส่งจึงเป็นแหล่งที่มาของเทคโนโลยี เหตุผลก็เรียบง่ายมาก แม้ว่าจีนจะมีเทคโนโลยี แต่จีนก็ยังต้องมีวัตถุดิบ เพื่อแปรรูปให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ แม้แต่พ่อครัวฝีมือดีก็ไม่สามารถปรุงอาหารได้ หากไม่มีวัตถุดิบที่เหมาะสม เมื่อคุณมีเทคโนโลยีและทรัพยากรในการผลิตสินค้าแล้ว หากคุณต้องการจะขายสินค้า คุณจะต้องขนส่งสินค้าเหล่านั้น ปัจจุบันสินค้าของโลกมากกว่าร้อยละ 70 ได้รับการขนส่งทางทะเล
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตราบใดที่สหรัฐฯ สามารถควบคุมช่องทางการเดินเรือและผู้ผลิตทรัพยากรส่วนใหญ่ของโลกได้ ประเทศอื่นๆ ก็จะต้องฟังสหรัฐฯ ต่อไป เหตุการณ์ระดับนานาชาติที่สำคัญบางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้จึงสมเหตุสมผล
ไม่นานหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า จะยกเลิกคลองปานามา ซึ่งเป็นช่องทางเดินเรือที่สำคัญระดับโลก การยึดครองคลองปานามาถือว่าเทียบเท่ากับการสูญเสียปริมาณการค้าระหว่างสองทวีป คือ อเมริกาใต้และอเมริกาเหนือ นี่คือเหตุผลสำคัญที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องการครอบครองคลองปานามา
ในเวลานี้ ลี กาชิง ซึ่งเป็นอภิมหาเศรษฐีนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวฮ่องกง ได้เข้ามาและขายพอร์ตจำนวน 48 พอร์ตในมือของเขา ซึ่งมี 2 พอร์ตมาจากปานามา ให้กับบริษัทแบล็กร็อคของสหรัฐฯ พฤติกรรมแบบนี้มันคืออะไร เป็นกรณีทั่วไปของการยืนไม่ตรงแถว
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
