⚠️ ทำไม(เกือบ) ทุกประเทศถึงต้องยอมเจรจาแต่โดยดี และไม่ตอบโต้สหรัฐฯ
เคยสงสัยมั้ยคะว่าทำไมหลายๆ ประเทศทั่วโลกมักจะเลือกเจรจากับสหรัฐฯ แบบเงียบๆ แทนที่จะตอบโต้อย่างแข็งกร้าว?
👉🏻 เหตุผลหลักเลย คือ “สหรัฐฯ มีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจที่ใหญ่มากๆ” นั่นเองค่ะ
พูดง่ายๆ คือ สหรัฐฯ เป็นลูกค้ารายใหญ่ของโลก ซื้อสินค้าและบริการจากประเทศอื่นมหาศาล สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศคู่ค้า ดังนั้นประเทศไหนที่พึ่งพิงรายได้จากการส่งออกไปยังสหรัฐฯ สูงๆ ก็จะมีความอ่อนไหวต่อท่าทีของสหรัฐฯ เป็นพิเศษ
จากกราฟที่แสดง “สัดส่วนการส่งออกต่อ GDP ของแต่ละประเทศเทียบกับสัดส่วนการส่งออกของสหรัฐฯ ต่อ GDP สหรัฐฯ” จะเห็นว่าประเทศที่มีตัวเลขสูงๆ เช่น เวียดนามมีสัดส่วนสูงถึง 758% ฟินแลนด์ 293% หรือไทยเราเองที่ 167% ประเทศเหล่านี้พึ่งพารายได้จากสหรัฐฯ สูงมากเมื่อเทียบกับการที่สหรัฐฯ พึ่งพาพวกเขา
✅ พูดง่ายๆ ก็คือ ประเทศเหล่านี้ “ต้องการ” ตลาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ มากกว่าที่สหรัฐฯ ต้องการตลาดจากพวกเขาเสียอีก!
ดังนั้น ต่อให้ไม่พอใจยังไง ก็มักจะเลือกใช้วิธีเจรจาอย่างระมัดระวัง มากกว่าที่จะเผชิญหน้าตรงๆ เพราะกลัวว่าสหรัฐฯ จะงดซื้อสินค้า หรือเพิ่มภาษีนำเข้า ซึ่งจะกระทบเศรษฐกิจในประเทศอย่างหนักนั่นเองค่ะ
นี่คือเหตุผลง่ายๆ ว่าทำไม (เกือบ) ทุกประเทศทั่วโลกถึงไม่ค่อยกล้าตอบโต้สหรัฐฯ และเลือกที่จะยอมเจรจาอย่างละมุนละม่อมแทน
ส่วนคนที่พอจะกล้าหือกล้าอือหน่อย ก็มีแค่ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีนกับสหภาพยุโรป (EU) ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่และพึ่งพาสหรัฐฯ น้อยกว่าประเทศอื่นๆ นั่นเองค่ะ
ทรัมป์ รู้เรื่องนี้แน่ๆ เลยกล้าเล่นเกมกดดันประเทศต่างๆ ได้อย่างสบายใจค่ะ
และด้วยแต่ละประเทศมีระดับความพึ่งพาสหรัฐฯ แตกต่างกันมาก การจะรวมกลุ่มกันเพื่อไปต่อรองกับสหรัฐฯ จึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยากมากๆ ค่ะ
🎯 โดยทฤษฎีที่มักถูกนำมาอธิบายปรากฏการณ์การเจรจาต่อรองเพื่อเอาตัวรอดนั้นมีชื่อเรียกว่า Game Theory (ทฤษฎีเกม) นั่นเองค่ะ โดยเฉพาะแนวคิดที่เรียกว่า Prisoner’s Dilemma (ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก)
ทฤษฎีเกมอธิบายง่ายๆ คือ เมื่อแต่ละฝ่ายตัดสินใจโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก สุดท้ายทุกฝ่ายมักจะเลือกทางที่ปลอดภัยที่สุด หรือทางที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดก่อน (ซึ่งในกรณีนี้คือการเจรจาเพื่อรักษาผลประโยชน์และความอยู่รอด) แม้ว่าการร่วมมือกันตอบโต้จะให้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงสูงมากถ้าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหักหลังหรือไม่ร่วมมือด้วย
ดังนั้น ทฤษฎีเกม (Game Theory) จึงช่วยอธิบายได้ชัดเจนว่าทำไมประเทศต่างๆ จึงเลือกเจรจาอย่างระมัดระวัง แทนที่จะจับมือกันเพื่อต่อรองกับสหรัฐฯ นั่นเองค่ะ
- 61
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
