6 เม.ย. เวลา 13:50 • ข่าวรอบโลก

สื่อผู้ดีแฉ “เยอรมัน” เล็งขนทองคำแท่งหนัก 1,200 ตันฝากไว้ในห้องนิรภัยใต้ดินลับสุดยอดของ “สหรัฐฯ”

กลับบ้านหลัง "ทรัมป์" แผลงฤทธิ์ทำทั่วโลกป่วน
เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – มีรายงานเบอร์ลินกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะเคลื่อนย้ายทองคำแท่งจำนวนมหาศาลที่ฝากไว้ในนิวยอร์กหลังวิตกอย่างหนักถึงนโยบายที่ไม่สามารถคาดเดาได้ของผู้นำอเมริกันคนใหม่
เดลีเทเลกราฟของอังกฤษรายงานวันศุกร์(4 เม.ย)ว่า หนังสือพิมพ์เยอรมันบิลด์ (Bild) ออกมาเปิดเผยว่า ระดับสูงในพรรคคริสเตียนเดโมแครตยูเนียน CDU ที่มีกำหนดจะเป็นรัฐบาลเบอร์ลินชุดที่กำลังจะเข้าบริหารมีข่าวหารือการเคลื่อนย้ายทองคำแท่งจำนวนมหาศาลของเยอรมันที่ฝากไว้ในตู้เซฟใต้ดินของธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดที่แมนแฮตตันกลับมาเก็บในประเทศแทน
เกิดขึ้นจากความวิตกต่อพฤติกรรมประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ โดนัลด์ เจ ทรัมป์ ที่สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลกและสหรัฐฯภายใต้รัฐบาลทรัมป์กลายเป็นความไม่แน่นนอนภายในเหล่าชาติพันธมิตรทั้งหลายตั้งแต่ใช้วาทะรัสเซียเล่นงานนาโตและไม่เชื้อเชิญยุโรปตะวันตกเข้าร่วมในแผนสันติภาพยูเครน
แชตภายในที่แฉออกมาโดยนักข่าวแอตแลนติกยังแสดงให้เห็นว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯจากรัฐโอไฮโอ เจดี แวนซ์ เป็นปฎิปักษ์กับยุโรป และล่าสุดทรัมป์ยังทิ้งบอมบ์ด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีทุกประเทศทั่วโลก สหภาพยุโรป EU ถูกเก็บอัตรา 20% ท่ามกลางข่าวผู้นำอเมริกันคนใหม่ติดต่อกับปูตินบ่อยครั้งขัดธรรมเนียมปฎิบัติชาติปีกโลกเสรีทั้งหลาย
และล่าสุดภายในอเมริกาเกิดความโกลาหล ประชาชนอเมริกันตบเท้าประท้วงใหญ่ตามเมืองต่างๆทั่วสหรัฐฯวันเสาร์(5)ไม่อดทนกับนโยบายทรัมป์ล่าสุดใช้มาตรการภาษีที่จะกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนในอเมริกา หลังก่อนหน้าไข่แพง
ทรัมป์ยังสั่งยุบหน่วยงานรัฐทำเจ้าหน้าที่รัฐตกงานมหาศาล ราคาไข่แพงลิ่ว เนรเทศครั้งใหญ่ละเมิดอำนาจคำสั่งศาล ปิดปากการประท้วงภายในมหาวิทยาลัยชั้นนำ ชาติต่างๆในยุโรปออกคำเตือนพลเมืองเดินทางมาสหรัฐฯมีสิทธิ์ถูกส่งตัวกลับ เป็นต้น
เดลีเทเลกราฟรายงานว่า เป็นเวลานานหลายสิบปีที่เยอรมันได้เก็บทองคำแท่งจำนวน 1,200 ตันซึ่งเป็นกองทุนสำรองประเทศ และมีจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ
โดยทองคำแท่งเหล่านี้เก็บไว้ในห้องนิรภัยใต้ดินลับสุดยอดของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ที่แมนแฮตตัน
มาร์โก วันเดอร์วิตซ์ (Marco Wanderwitz) อดีตรัฐมนตรีเยอรมันพรรค CDU ได้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์บิลด์ว่า “แน่นอนที่สุด คำถามเกิดขึ้นมา”
วันเดอร์วิตซ์นั้นสนับสนุนมาอย่างยาวนานที่จะเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่เยอรมันสามารถตรวจสอบทองคำแท่งเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ หรือสามารถถอนออกไปได้ทั้งหมด
พบว่าก่อนหน้าเขาเคยพยายามล็อบบี้เพื่อเดินทางไปยังห้องนิรภัยใต้ดินของเฟดสหรัฐฯและตรวจสอบทองคำแท่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าคำขอของเขาถูกปฎิเสธในปี 2012
เยอรมันกลับมารุ่งเรือนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดเมื่อการส่งออกรุ่งเรืองส่งผลทำให้เบอร์ลินมีการเกินดุลทางการค้าอย่างมหาศาล
และทำให้การเกินดุลทางการค้ากลายเป็นทองคำแท่งสำหรับทุนสำรองประเทศภายใต้ระบบเบรตตัน วูดส์ (Bretton Woods system)
ขณะที่สมาชิกรัฐสภายุโรปจากพรรค CDU ของเยอรมัน มาร์คัส เฟอร์เบอร์ (Markus Ferber) เป็นอีกคนจากพรรค CDC ที่แสดงความเห็นว่า เจ้าหน้าที่เยอรมันสมควรได้รับอนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบทองคำแท่งของตัวเองได้
“ผมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบทองคำสำรองของเยอรมันอย่างสม่ำเสมอ เจ้าหน้าที่ตัวแทนจากธนาคารกลางเยอรมัน Bundesbank ต้องเป็นคนไปนับทองคำแท่งเหล่านั้นด้วยตัวเองและบันทึกผลการตรวจนับ”
เดลีเทเลกราฟรายงานว่า นักการเมืองทั้งสองต่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์บิลด์ก่อนประธานาธิบดีทรัมป์จะประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าดินแดนสหรัฐฯจากทั่วโลก
ทั้งนั้มีการคาดการณ์ว่า ทุนสำรองเยอรมันที่ฝากไว้ในห้องนิรภัยใต้ดินในสหรัฐฯมีมูลค่ารวมกัน 113 พันล้านยูโร และคิดเป็น 30% ของทองคำสำรองทั่วโลกทีเดียว
ไมเคิล เยเกอร์ (Michael Jäger )สมาชิกสมาพันธ์ผู้เสียภาษียุโรป (Taxpayers Association of Europe) แสดงความเห็นเช่นกันว่า จะเป็นการดีกว่าสำหรับเมืองเบียร์ในการนำทองคำแท่งทุนสำรองทั้งหมดของเยอรมันมาเก็บไว้ในแฟรงก์เฟิร์ตหรืออย่างน้อยควรเก็บไว้ที่ยุโรปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
เผยแพร่: 6 เม.ย. 2568 19:53
ปรับปรุง: 6 เม.ย. 2568 19:53
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
โฆษณา