11 เม.ย. เวลา 04:09 • นิยาย เรื่องสั้น
มหาวิทยาลัยโมนาช

จากบ้านหินกองสู่ Clayton #6/14

[------คอมพิวเตอร์เมื่อ 30 ปีที่แล้ว------]
จันทร์ที่ 28 มิถุนายน 37
เจฟฟรี่ขับรถพาผมไปยังเมือง Kew ห่างจากนอมันบี้ราว 20 กม. ไปที่ร้าน Bass Computer สั่งคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เป็นเครื่องประกอบ อีก 3 วันเขาจะมาส่งที่หอนอมันบี้
พอวันที่ 1 กรกฎาคม 37 ตอนหัวค่ำก็มี PC มาส่ง อยากรู้ไหมสมัยนั้น spec. เป็นยังไง :
486DX2-66, 8 MB RAM, 420 MB HD, 15” XGA monitor, Microsoft Mouse, OS เป็น Windows 3.11
ราคาทั้งชุดคือ 2,545 AUD เอา 20 คูณจะได้ 50,900 บาท เป็น spec. ค่อนข้างสูงของตอนนั้น
ช่วงนั้น Windows 95 ยังไม่ออก พอปีต่อไปที่มันออกมา ปรากฏว่า “หนุ่ม-สันติ” ที่ทั้งรวยและมีความอดทน ได้ไปต่อแถวรอซื้อ Windows 95 อยู่ที่ร้านในตัวเมือง ซึ่งน่าจะเป็นคนไทยคนแรกแถวนั้นที่มี Windows 95 ใช้
ตอนที่ผมทำงานวันสุดท้ายในตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ของบริษัทเงินทุน ตอนนั้นยังใช้ MS-DOS v.6.0 + Netware
โปรแกรมที่ใช้ทำงานก็มี Lotus 1-2-3, Word จุฬา, Foxbase
PC ที่บริษัทก็เป็น IBM PS/2 ราคาเครื่องละแสนกว่าบาทใช้ในงานธุรการทั่วไปและให้บริการแสดงความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นให้ลูกค้า และมีระบบ AS/400 เครื่องละประมาณ 10 ล้านบาทสำหรับงานเงินทุน เนื่องจากบริษัทเงินทุนที่ทำอยู่กำลังอู้ฟู่ หน้าจอคอมพ์ก็ยังเป็นจอเขียวหรือไม่ก็จอดำ เครื่องพิมพ์ก็ยังวิ่งเจาะกระดาษ จ๊อด ๆ ๆ
พอไปถึงนอมันบี้ ที่นั่นก็ใช้ Windows 3.1 มี Laser printer และใช้ MS Office 3.0 น่าตื่นเต้นมากเลย
ส่วนอินเตอร์เน็ทที่เราสามารถใช้ได้ในห้องคอมพ์ของนอมันบี้ ผมก็ได้ใช้กันแค่ Pine email ที่เป็น text เท่านั้น ตอนนั้นถึงจะมี Windows แล้ว แต่ทางฝั่ง application ยังออกมาน้อย
ด้านการเรียนการสอนแม้แต่ในระดับปริญญาโทที่ผมเรียนส่วนมากก็ยังเป็น DOS base อยู่ เช่น C++, COBOL, DB II เข้าใจว่าบรรดาอาจารย์กำลังปรับตัวอยู่
ถ้าเป็นพวกที่มี GUI – Graphical User Interface ก็จะมีเนื้อหาเบาๆ เช่น HTML, VB เป็นส่วนหนึ่งของวิชาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ไม่ได้สอนลึกแบบที่ต้อง coding หนัก ๆ
ผู้ให้บริการทางอินเตอร์เน็ทเอกชนก็มีเหมือนกัน ผมเคยเห็นแค่ 2 รายที่ให้บริการแถวนั้น มียี่ห้อ Aardvark และ Ocean ค่าบริการ 58 AUD ต่อเดือน ใช้กับโมเด็มเสียบสายโทรศัพท์ ความเร็วราว 9.6 Kbs ผมเพิ่งได้เล่นอินเตอร์เน็ทที่บ้านก็ราวปี 2539
[------ปีกแข็งแล้วจ้า..หาบ้านอยู่เถอะ------]
พอเริ่มเข้าปลายเดือนผมก็เตรียมย้ายออกจากหอแล้ว นั่นก็คือปีกแข็งพอที่จะบินไปอยู่ที่อื่น ผมใช้วิธีหาบ้านเอาตามประกาศที่บอร์ดของนอมันบี้เองและก็ที่บอร์ดใน union ด้วย
union นี่ผมไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไรดี น่าจะประมาณว่า “ตึกกิจกรรม” ละกัน มันเป็นตึกสองชั้นที่ภายในมีร้านอาหาร, ธนาคาร, ร้านขายเครื่องเขียน, บอร์ดกิจกรรม, ร้านหนังสือ, ไปรษณีย์, ห้องสมุด, ร้านเช่าชุดครุย, ร้านกาแฟ และอะไรอีกก็จำไม่ได้ เอาว่าถ้าเหงา ๆ ไม่รู้จะทำอะไรก็เดินจากนอมันบี้มาประมาณ 15 นาทีก็ถึง และมักจะเจอคนรู้จักอยู่บ่อยๆ เพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้จะไปไหน ที่นั่นถ้าไม่มีรถส่วนตัวก็ไปไหนลำบาก
ถ้าเราอยากจะไปซื้อของกินหรือของมาทำอาหารเราจะไปที่ Clayton Shopping Center ด้วยรถเมล์สาย 631 หรือ 733 หรือถ้าหากต้องการไปในเมือง เราก็ต้องขึ้นรถเมล์สาย 630 ไปลงที่สถานีรถไฟ Huntingdale
ไม่ว่าเราจะไป Clayton Shopping Center หรือจะเข้าเมืองเราก็ต้องเดินจากนอมันบี้แล้วทะลุผ่าน union ไปลอดใต้ตึก Menzie ไปยัง bus loop ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์จอดรถเมล์บริเวณนั้น
เพื่อนกำลังรอรถที่ bus loop-ขับเองขายตั๋วเองนักเลงพอ
แต่ก่อนจะไปถึง bus loop ก็จะมีสนามหญ้าขนาดใหญ่อยู่ระหว่างทางเดินตึก union กับตึก Menzies ที่ผมอยากจะเรียกว่า “ลานกอดสาว”
เมื่อไหร่ที่อากาศดี อุณหภูมิไม่สูงไม่ต่ำมาก มีแดดสวยเห็นฟ้ากระจ่าง คนเอเชียอย่างเราก็จะเห็นเป็นบุญตาถึงการแลกเปลี่ยนสารคัดหลั่งทางชีวภาพกลางสนามหญ้า ซึ่งมักจะมีมากกว่า 1 คู่ เมืองน้อกกกกเมืองนอก
บอร์ดที่ตึก union จะมีประกาศหลากหลายจากนักศึกษาที่ต้องการซื้อ-ขาย-ให้เช่า เช่น ทีวี, หนังสือ, ที่นอน, ฮีตเตอร์, ที่อยู่อาศัย ฯลฯ
บอร์ดประกาศขายของ-ให้เช่าบ้าน ฯลฯ
มีของแปลกใหม่ที่ผมเพิ่งเคยเห็นก็คือแผ่นที่ประกาศนั้นเขามักจะเป็นกระดาษ A4 โดยพื้นที่กระดาษด้านบนจะบรรยายสิ่งของที่ต้องการซื้อขาย แล้วทางด้านล่าง เขาจะมีเบอร์โทรศัพท์ 8 หลักตามแนวตั้ง แล้วใช้คัทเตอร์ซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ หลาย ๆ ชิ้นเป็นริ้ว ๆ ให้คนสนใจฉีกเก็บไว้เอาไปโทรถามได้โดยไม่ต้องจดเอง เป็นไอเดียที่เพิ่งเคยเห็น
ผมได้เบอร์โทรติดต่อมา 2-3 รายที่อยู่ใกล้ ๆ u. โทรไปถามบ้าง นัดไปดูบ้าง จนได้ไปดูบ้านของ “แบ๋ม” ที่กำลังจะย้ายออก
บ้านนี้อยู่ริมถนน Wellington ตรงข้าม u. พอดี บ้านนี้แบ๋มแชร์อยู่กับสาวสวยชาวฮ่องกง ชื่อ เมยฟ่ง ผมเข้าไปดูแล้วรู้สึกว่าบ้านทึบเกินไปก็เลยไม่เช่าต่อ เมยฟ่งก็เมยฟ่งเถอะ
Wellington Road
ตอนหลังแบ๋มมาบอกว่ามีคนมาดูห้องหลายคนเหมือนกัน แต่เมยฟ่งบอกว่าอยากให้ผมอยู่มากกว่า ขอผ่านจ้ะ... ก็เธอมีแฟนแล้วนี่จ๊ะ
จนมีคนแนะนำให้มาดูบ้านของ “อ้อย-อัจฉราวรรณ” ที่แชร์กับพี่ติ๊กซึ่งอีกสักพักนึงจะย้ายออก
ผมเจอกับอ้อยแทบทุกวันอยู่แล้วเพราะเรียนนอมันบี้เหมือนกันแต่คนละห้อง พอผมได้ไปดูผมก็ถูกใจมาก บ้านนั้นโปร่งโล่ง ด้านข้างเป็นกระจกกว้างโดยมีมู่ลี่ปิดเปิดได้ ครัวก็กว้าง เครื่องครัวครบ บ้านนี้อายุน่าจะราวสิบกว่าปี ตู้เย็น-เตาแก๊ส-ฮีตเตอร์ส่วนกลาง สภาพเก่าแต่ใช้งานได้ แถมวันนั้นอ้อยยกน้ำพริกกะปิปลาทูมาให้กินด้วย
โห.... คนบ้าน ๆ ที่ทนกินอาหารฝรั่งไม่ไหวได้มาเจอของชอบอย่างนี้ก็ไปไหนไม่รอดสิ ตกลงว่าผมจะย้ายเข้ามาหลังจากที่พี่ติ๊กย้ายออกแล้ว
โฆษณา