เมื่อวาน เวลา 08:42 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Bill Ackman เตือน ภาษีของทรัมป์ พาเศรษฐกิจเข้าสู่ฤดูหนาว ตลาดพัง ธุรกิจหยุดลงทุน เลิกจ้างงาน

Bill Ackman คือมหาเศรษฐีนักลงทุน และผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง
ที่ผ่านมา เขามักให้มุมมองด้านการลงทุน เศรษฐกิจ และการเมือง เป็นระยะ ๆ ซึ่งมีนักลงทุนทั่วโลกที่ติดตามเขา
และครั้งนี้ก็ด้วยเช่นกัน ที่เขาได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเตือนว่า การเก็บภาษีในวงกว้าง อาจนำไปสู่ "ฤดูหนาวทางเศรษฐกิจ"
Bill Ackman ได้โพสต์แสดงมุมมองต่อเรื่องนี้ บนแพลตฟอร์ม X ว่า..
ประเทศของเรา สนับสนุนประธานาธิบดีอย่างเต็มที่ ในการแก้ไขระบบภาษีการค้าโลกที่เอาเปรียบสหรัฐอเมริกา มาโดยตลอด
แต่โลกของธุรกิจคือเกมแห่ง “ความเชื่อมั่น (Confidence)” และความเชื่อมั่นนั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ “ความไว้ใจ (Trust)”
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยกระดับประเด็นเรื่องภาษีการค้า ให้กลายเป็นหนึ่งในประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของโลก และเขาก็ประสบความสำเร็จในการดึงความสนใจจากทุกฝ่าย
จนถึงตอนนี้ ก็ถือว่าทำได้ดี
และใช่ ประเทศอื่น ๆ ได้หาผลประโยชน์จากสหรัฐฯ มายาวนาน ด้วยการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศของตัวเอง ในขณะที่สร้างความเสียหายต่อ “งานหลายล้านตำแหน่ง” และการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
แต่ในทางกลับกัน การใช้มาตรการภาษีที่รุนแรงและไม่สมดุล กับทั้งพันธมิตรและศัตรู ในเวลาเดียวกัน กลับกลายเป็นการประกาศ “สงครามเศรษฐกิจระดับโลก”
และสหรัฐฯ กำลังทำลายความเชื่อมั่นที่โลกมีต่อสหรัฐฯ ในฐานะ “คู่ค้าทางการค้า” “สถานที่ทำธุรกิจ” และ “ตลาดสำหรับการลงทุน”
ตอนนี้ทรัมป์ มีโอกาสที่จะประกาศ “หยุดพัก 90 วัน” เพื่อเข้าสู่การเจรจาและแก้ไขข้อตกลงภาษีที่ไม่เป็นธรรมเหล่านี้ และถ้าทำได้สำเร็จ อาจนำมาซึ่งการลงทุนระดับหลายล้านล้านดอลลาร์ เข้าสู่ประเทศของเรา
แต่ถ้าหากในวันที่ 9 เมษายนนี้ สหรัฐฯ ตัดสินใจเปิดฉาก “สงครามเศรษฐกิจนิวเคลียร์” ต่อทุกประเทศในโลกพร้อมกัน
การลงทุนของภาคธุรกิจ จะหยุดชะงักทันที ผู้บริโภคจะปิดกระเป๋าสตางค์ของพวกเขา
และเราจะทำลายภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ อย่างรุนแรง จนต้องใช้เวลาเป็น “หลายปี” หรืออาจจะ “หลายสิบปี” กว่าจะฟื้นกลับมาได้..
ในสถานการณ์แบบนั้น CEO คนไหน หรือบอร์ดบริหารชุดไหน จะกล้าทำการลงทุนระยะยาวในประเทศ ที่กำลังอยู่ท่ามกลางสงครามเศรษฐกิจระดับโลก ?
ผมยังไม่รู้จักแม้แต่คนเดียว ที่จะกล้าทำเช่นนั้น..
เมื่อตลาดพัง การลงทุนหยุด ผู้บริโภคหยุดใช้จ่าย ธุรกิจก็จะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากลดการลงทุน และเลิกจ้างพนักงาน
และมันไม่ได้กระทบแค่บริษัทใหญ่เท่านั้น ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก และผู้ประกอบการ จะได้รับผลกระทบที่เจ็บปวดยิ่งกว่า
แทบไม่มีธุรกิจไหนที่สามารถ “ผลักภาระต้นทุนที่พุ่งขึ้นอย่างมหาศาลในชั่วข้ามคืน” ไปให้ลูกค้าได้
และนี่ยังไม่นับรวมความจริงที่ว่า ระบบการเงินสหรัฐฯ ในปัจจุบัน “มีภาระหนี้สินในระดับสูงมหาศาล”
1
ธุรกิจคือเกมแห่งความเชื่อมั่น และตอนนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังสูญเสีย “ความเชื่อมั่นจากผู้นำธุรกิจทั่วโลก”
ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศของเรา และต่อประชาชนหลายล้านคน ที่เคยสนับสนุนประธานาธิบดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คนที่มีรายได้น้อย” ซึ่งกำลังเผชิญกับความกดดันทางเศรษฐกิจอยู่แล้ว จะเลวร้ายอย่างรุนแรง
นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราเลือกไว้ในการลงคะแนนเสียง
ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังมีโอกาสในวันจันทร์ ที่จะขอหยุดพักสงครามภาษี และใช้เวลานั้นเพื่อแก้ไขระบบภาษีที่ไม่เป็นธรรมอย่างจริงจัง
แต่ถ้าไม่ เรากำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ "ฤดูหนาวทางเศรษฐกิจ" ที่เราก่อขึ้นกับตัวเอง และเราควรเริ่มเตรียมตัวรับมืออย่างจริงจัง..
“ขอให้คนที่มีสติ มีความเยือกเย็น และมีเหตุผล เป็นฝ่ายชนะ“
โฆษณา