Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าเมาเมาแมน
•
ติดตาม
7 เม.ย. เวลา 12:02 • ข่าวรอบโลก
เขาประท้วงอะไร อย่างไร และเพื่ออะไร ?
ก็อย่างที่ทราบข่าวกันไปนะครับ ว่าที่สหรัฐมีการประท้วงทรัมป์
เมื่อวานวันอาทิตย์ ตามคอนเซ็ปท์เพจนี้
จะไม่เขียนการเมือง เลยยกมาเขียนวันนี้
หนึ่งวันผ่าน ผมพบว่าสื่อไทยส่วนมาก ค่อนข้างเลอะเทอะ
ทำตัวเหมือนนักสร้าง propaganda.
บางรายตีความวุ่นวายถึงสงครามกลางเมือง
และการล่มสลายของสหรัฐ
ตามสูตร ที่ไม่รู้ทุนนอกที่ไหนให้มา…
หรือกระทั่งสหรัฐจะมีรัฐประหาร
…ไปโน่น….
น้อยมาก ที่จะเอาสาเหตุจริงๆ และวัตถุประสงค์ที่คน
อเมริกันประท้วง มาพูดให้ฟังกัน มีไม่กี่เจ้า…
สิ่งแรกที่ต้องรู้เลย คือ นี่ไม่ใช่การ “ไล่ทรัมป์”
สื่อไทยเลยเถิดไปมากในประเด็นนี้
ผมไม่แน่ใจว่าเพราะปกติคนไทยไม่ค่อยแยกรึเปล่า
ของเรานี่ประท้วงขี้หมูขี้หมาอะไร ก็ไล่รัฐบาลไปด้วยหมด
แต่ในสหรัฐ นี่คือการประท้วง แสดงความไม่เห็นด้วย
กับ นโยบาย และการกระทำ เสียมากกว่า
ถ้าเราดูที่หัวข้อหลัก คือ “ Hand off “ นั้น มันก็ชัดเจน
ว่าคนอเมริกันไม่ได้สื่อสารถึงการไล่ทรัมป์ (Get out)
แต่หมายถึงว่า พวกเขาไม่ต้องการให้นโยบาย
ไปยุ่งกับบางเรื่อง เสียมากกว่า
…ในทางกฎหมายแล้ว ชาวอเมริกันทราบดี ว่าการเปลี่ยน
ขั้วทางการเมืองนั้นเป็นไปไม่ได้ ต่อให้ทรัมป์ลาออก
ก็จะเป็นรองประธานาธิบดี จากฝั่งรีพับลิกันอยู่ดี
เนื่องจากตามกฎหมายสหรัฐ เขาไม่ได้ให้อำนาจยุบสภา
เอาไว้กับประธานาธิบดี….
…ดังนั้น การประท้วงจึงไม่ได้มีเป้าหมายที่การไล่ทรัมป์
หรือพรรครีพับลิกันในลักษณะของบุคคล เพื่อล้างบาง
เลือกตั้งใหม่ อย่างที่สื่อไทยบางเจ้าเสี้ยม….
…ว่าเป็นความพยายามก่อหวอดของฝ่ายเดโมแครตเพื่อ
หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง….
แล้วนโยบายอะไรล่ะ ที่ชาวอเมริกันประท้วง ?
เรื่องนี้ต้องบอกว่า ในการประท้วง Hand off
ประเด็นหลักคือนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต
ของชาวอเมริกันโดยตรงมากกว่า
ซึ่งมันชี้ไปที่ DOGE ของ อีลอน มัสก์ มากกว่าอย่างอื่น
และภายใต้ประเด็นหลักก็ยังมีผู้ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย
ต่างๆ ในประเด็นรองๆลงไป เข้าร่วมด้วย
เช่น ผู้ไม่สนับสนุนสงครามในกาซ่า , ผู้ไม่เห็นด้วยกับการวางตัวของสหรัฐในสงครามยูเครน หรือกระทั่งกลุ่ม LGBT
แต่คนกลุ่มนี้จะค่อนข้างน้อย
ในบรรดาผู้เข้าร่วมเพราะประเด็นรองทั้งหมด
พบว่ากลุ่มชาวมุสลิมที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์นั้น
มีจำนวนมากที่สุด จนมีการโจมตีจากผู้สนับสนุน
ฝั่งรีพับลิกันว่า ชาวอาหรับเหล่านี้ เป็นชาวลาตินอพยพ
เนื่องจากหน้าตาคล้ายๆกัน เอามามั่วได้ง่ายนั่นเอง
…และประเด็นยิบย่อยที่มากมาย ก็มาเข้าร่วม
มันจึงเป็นเหมือนกับ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับทรัมป์ทุกคน
ทุกเรื่อง ออกมาแสดงพลัง ก็เลยเยอะอย่างที่เห็นกัน
DOGE คือประเด็นหลัก
สื่อนอกใช้คำว่า DOGE UNDER FIRE ก็ตามนั้นแหละ
เนื่องจากชาวอเมริกันมองว่า การจัดการกับหน่วยงานรัฐ
ของ DOGE นั้น มีผลกับความเป็นอยู่ของพวกเขาโดยตรง
มากที่สุด
สิ่งที่ DOGE ทำแล้ว มันส่งผลให้ลูกจ้างภาครัฐ ตกงานไปแล้ว
กว่า 2 แสนคน ซึ่งแน่นอนว่าครอบครัวของคนเหล่านี้ก็ต้อง
ได้รับผลกระทบไปด้วย จึงน่าจะออกมากันพร้อมคนตกงาน
แต่คนตกงานจากภาครัฐ
ก็ยังไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของม็อบอยู่ดี
มันกลายเป็นคนอเมริกันที่ไม่ใช่ลูกจ้างรัฐ ธรรมดาๆเอง
แต่ได้รับผลกระทบในปัจจุบัน และกังวลถึงอนาคตเสียมากกว่า
เพราะ DOGE นั้นเข้าไปวุ่นวายไปหมดทุกเรื่องจนน่าห่วง
เช่น
กรณีของการยุบกระทรวงศึกษาธิการ
การปลดคนที่ทำให้บุคคลากรไม่พอ
จนบริการภาครัฐมีปัญหา ในทำนองนี้ เป็นต้น
และที่สำคัญ อีลอนและทรัมป์ ยังเคยหลุดปาก
ถึงเรื่องการแก้ไขระบบ “ประกันสังคมและสวัสดิการ”
ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่และอ่อนไหวมาก ในสังคมอเมริกัน
จากแนวทางของมัสก์ที่ผ่านมาผ่าน DOGE มันทำให้
สังคมอเมริกันนั้นกังวลอย่างมาก ถึงคุณภาพ สิทธิต่างๆ
จากบริการประกันสังคม การศึกษาและบริการอื่นๆ
ว่าจะมีการปรับลดลงในอนาคต จึงต้องออกมา “ปราม”
…ต้องบอกว่า ชาวอเมริกันนั้น ประท้วงเพราะประเด็น
ทาง “สังคม” มากกว่า “การเมือง” แบบนั้นจะถูกที่สุด…
น่าสังเกตว่ารีพับลิกันชนก็เยอะมากในม็อบ แม้แต่รัฐสีแดง
ส่วนการเมือง แม้เป็นประเด็นรอง แต่ก็น่าสนใจ
เนื่องจากว่า เอาไปเอามา มันก็หนีไม่พ้นวิธีคิด
จากการทำงานของ DOGE อีกอยู่ดีนั่นแหละ
ชาวอเมริกันนั้นมองว่า DOGE คือการทำงานของคน
ที่ไม่มีลักษณะค่านิยมหลักของสังคม ซึ่งก็คือประซาธิปไตย
มันเป็นการตัดสินของคนไม่กี่คน โดยพุ่งเป้าไปที่ อีลอน มัสก์
เนื่องจากมัสก์นั้นไม่ค่อยฟังใคร และประกาศสนับสนุน
พรรคการเมืองขวาจัดในยุโรป ซึ่งคนอเมริกันก็มองว่า
เมื่อเขามีแนวคิดแบบนี้ ย่อมไม่เคารพเสียงส่วนมาก
ซึ่งผิดกับหลักการของสังคม
ทรัมป์เองก็สนับสนุนมัสก์เต็มที่ และมีแนวคิดสนับสนุน
ขวาจัดสุดโต่งเช่นกัน ทั้งปูติน , เลอแปง
มันก็ยิ่งทำให้คนอเมริกันกังวลถึงแนวทางการบริหารประเทศ
ยิ่งทรัมป์ล่าสุด ประกาศสนับสนุนนาง มารี เลอแปง
ในฝรั่งเศสด้วย มันยิ่งไปกันใหญ่ ยิ่งกว่าปูตินอีก
เนื่องจากว่า เลอแปง มีแนวคิดขวาสุดโต่ง
ปฏิเสธสวัสดิการสังคม และเหยียดเชื้อชาติ แบบเปิดเผย
ซึ่งคนอเมริกันจะเกลียดคนลักษณะนี้มากกว่าขวาจัด
สายสงครามแบบปูตินเสียอีก
ความกังวลต่อวิธีคิดของทรัมป์และอีลอน
กลัวว่าจะเอาวิธีคิดแบบขวาๆ มาใช้บริหารประเทศ
มันทำให้ชาวอเมริกัน จับมาผูกรวมกับ DOGE
จนยิ่งสร้างความไม่พอใจ แล้วออกมาม็อบนั่นเอง
…แต่มันไม่ใช่พวกเขาบอกว่า ทรัมป์ไม่ใช่ประชาธิปไตย
หรือกลัวว่าทรัมป์จะเปลี่ยนประเทศเป็นเผด็จการแต่อย่างใด…
…ป้ายที่โชว์ว่าทรัมป์เป็นเหมือนคณะเผด็จการนั้น
เป็นความหมายเชิงประชดประชัน เปรียบเทียบเสียมากกว่า…
ประเด็นภาษี ?
อันนี้จะบอกว่าไม่มีเลยคงไม่ได้ เพราะราคาข้าวของนั้น
มีแนวโน้มสูงขึ้นมากหลังจากนี้ โดยเฉพาะสินค้าจำเป็น
มันอาจจริง ที่คนเลือกทรัมป์เพราะนโยบายการขึ้นภาษี
โดยหวังว่าจะกลับมามีการจ้างงานชาวสหรัฐให้มากขึ้น
แต่ทรัมป์ไม่เคยบอกชาวบ้าน ว่าจะทำในลักษณะที่ทำอยู่
ในการหาเสียง ประเด็นภาษีของทรัมป์นั้นมีเป้าหมายหลัก
ที่จีน และประเทศบางประเทศที่ชาวสหรัฐนั้นไม่ชอบอยู่แล้ว
หรือใช้เพื่อกดดันให้แก้ปัญหาผู้อพยพ ในกรณีเม็กซิโก
คนจึงมองว่า ไม่มีปัญหา และเลือกทรัมป์เข้ามา
แต่พอเอาเข้าจริงๆ ทรัมป์กลับทำเกินการหาเสียงมาก
การขึ้นภาษีไปทั่ว ในสินค้าทุกรายการ มันไปกระทบ
ชาวอเมริกันเองมากเกินไป เช่น สินค้าสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม
จากทางเอเซียใต้ หรือผลิตภัณฑ์อาหารจากบางประเทศ
ซึ่งสหรัฐก็ไม่มีปัญญาผลิดเองได้พอ
ชาวอเมริกันมองว่า สิ่งนี้ “เกินเลย” การที่ทรัมป์หาเสียงเอาไว้
และสร้างผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจของตัวเองมากกว่าดี
แน่นอน ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี ของแพง คนอเมริกันเอง
จะเดือดร้อนกว่าชาติที่โดนขึ้นภาษีเสียอีก พวกเขาจึงมองว่า
มันเป็นนโยบายที่ผิดพลาด เกินเลย และควรวางมือจากนโยบาย ก่อนที่อะไรๆมันจะแย่ไปหมดนั่นเอง….
…ชาวอเมริกันนั้น สัมผัสกับผลกระทบจากนโยบายภาษี
อย่างรวดเร็ว ผ่านตลาดหุ้น เนื่องจากพวกเขามักมีพอร์ต
ลงทุนติดตัวกันแทบทุกคน มากบ้านน้อยบ้าง ตามฐานะ…
…การที่หุ้นมันตกระนาวแบบนี้ ก็แน่นอนว่าชาวอเมริกัน
ส่วนมากจะได้รับผลกระทบไปแล้ว โดยไม่ต้องรอให้นาน
ทั้งจากการถือตรง และถืออ้อมผ่านบริษัทลงทุน กองทุนต่างๆ
…สิ่งนี้จึงยิ่งทำให้คนอเมริกันซึ่งเสียเงินโกรธ
จนตัองออกมาแสดงพลังผ่านการประท้วงนั่นเอง….
โดยสรุปแล้ว นี่คือการประท้วงต่อประเด็นทางสังคม
และปากท้องมากกว่าจะบอกได้ว่า เป็นเรื่องของอุดมการณ์
หรือการเมือง
มันไม่ใช่ว่าชาวอเมริกันโง่ หรือกลับไปกลับมา
เบื่อง่ายหน่ายเร็ว ที่ออกไปต่อต้านรัฐบาลอายุสามเดือน
หลักๆ เราอาจบอกได้ว่า ทรัมป์นั้นทำเกินสิ่งที่สัญญา
หรือผิดสัญญา กับชาวบ้านเอาไว้ผ่านการหาเสียง
จนทำให้ท่าทีของชาวบ้านนั้นเปลี่ยนไปมากกว่า
สิ่งที่ทรัมป์ทำ มันยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
ต่อความเป็นอยู่และปากท้องของชาวอเมริกัน
แบบไม่เลือกว่าเป็นผู้สนับสนุน รีพับลิกัน หรือเดโมแครต
ในการประท้วงนี้ จึงไม่เลือกสี มีรีพับลิกันชนจำนวนมาก
พอๆกับเดโมแครต ที่เข้าร่วมการประท้วงในครั้งนี้
นี่ยิ่งตอกย้ำว่า มันไม่ใช่ความขัดแย้ง
ระหว่างกลุ่มคนที่มีแนวคิดทางการเมืองต่างกันออกไป
การพูดถึงสงครามกลางเมือง หรือสังคมสหรัฐล่มสลาย
จากการประท้วงจึงเพ้อเจ้อมาก
ส่วนการรัฐประหารนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ในทางเปิดเผย
เนื่องจากสหรัฐนั้นมีกลไกการควบคุมทรัมป์ผ่านระบบสภาฯ
และการเลือกตั้งตั้งกลางเทอมให้แก้ไขอยู่แล้วนั่นเอง
สุดท้าย ถ้าถามว่าชาวอเมริกันจะม็อบเพื่ออะไร ?
ในเมื่อก็รู้ว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ตอนนี้
เรื่องนี้นักวิเคราะห์มองว่า ชาวอเมริกันต้องการแสดงพลัง
ให้ผู้สนับสนุนทรัมป์ โดยเฉพาะ ส.ส. , ส.ว. จากฝั่งรีพับลิกัน
ได้เห็น ว่าพวกเขาไม่พอใจนะ พวกนายต้องควบคุมเขาผ่าน
สภาฯ ทำหน้าที่ซะ ไม่งั้นพวกนายจะหมดอนาคต
รวมถึงผู้สนับสนุนทรัมป์ในระดับ deep state
ในทำนองว่า ถ้าพวกแกไม่อย่างให้บริษัทเป็นเหมือน Tesla
ก็กรุณาหยุดไอ้บ้านี่ซะ หรืออย่างน้อยก็ควบคุมมันบ้าง
นั่นคือเป้าหมายหลัก
คนอเมริกันนั้นทราบดี ว่ากลไกทางการเมืองของพวกเขา
เป็นอย่างไร และอำนาจมันอยู่ที่ใครบ้าง
เมื่อทรัมป์ไม่ห่วงอนาคตทางการเมืองอยู่แล้ว
และอีลอนสนุกกับการสนองตัณหากับรสนิยมทางการเมือง
แล้วรวมหัวกันทำอะไรบ้าๆไม่ฟังใคร
การประท้วง จึงมีเป้าที่คนที่พอจะมีอำนาจควบคุมสองคนนี้
…และไอ้พวกนี้ใหญ่จริงๆนะ จะบอกให้ ….
ในประเทศเสรีนิยม การประท้วงในลักษณะนี้ถือว่าไม่แปลก
และไม่น่าตื่นเต้นอะไรนัก
เพราะอย่างที่บอกมันคือการประท้วงเพื่อปราม
และควบคุมผู้มีอำนาจ ไม่ใช่การประท้วงขับไล่รัฐบาล
ยากมาก ที่จะลามปามเป็นเหตุรุนแรง
เนื่องจากผู้ไม่สนับสนุนทรัมป์นั้น ไม่ใช่พวกหัวรุนแรง
เหมือนที่ทรัมป์ขนมาก่อเหตุ หลังแพ้ไบเดน
มันไม่ได้น่ากังวล หรือโอเวอร์อย่างที่สื่อไทยบางเจ้า
พยายามใส่สีตีไข่เลย
ผมดูแล้ว น่าจะเป็นม็อบแบบ ม็อบวันหยุดอ่ะนะ เดี๋ยวก็เลิก
กลับไปทำมาหากิน ส่วนจะมาใหม่ไหม ก็แล้วแต่ว่าทรัมป์จะ
ปรับท่าทีบ้างรึเปล่า หรือจะยั่วชาวบ้านเพิ่ม…
…มันไม่ใช่ม็อบคนดีปิดถนนเศรษฐกิจ หรือม็อบอันธพาล
เผาบ้านเผาเมืองเอากันให้ฉิบหาย แบบบางประเทศ…
…อย่า เอามาตรฐานไอ้ประเทศนั้นไปวัดเขาดีกว่านะ…
ข่าว
https://www.investing.com/news/world-news/trump-opponents-ready-to-take-to-streets-with-nationwide-protests-3969443
https://www.telegraph.co.uk/world-news/2025/04/05/anti-trump-protests-angry-demonstrators-out-all-50-states/
ข่าว
สหรัฐอเมริกา
การเมือง
บันทึก
14
3
3
14
3
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย