..เรียนรู้จัก ใช้กายมนุษย์ให้เป็น .
เอ้า..ค่อยทบทวนดู เรารู้จักน้องคนหนึ่ง เป็นโรคภูมิแพ้ . สามีก็ชวนไปซื้อบ้านที่เขาใหญ่ อาการของเค้าก็ดีขึ้น เริ่มแข็งแรง .ขึ้น ..เราก็ดูเค้าผ่อนใส สดชื่น ..ดูมีความสุขขึ้น .ครอบครัวเค้าก็มาวัดป่อย ..พระท่านก็บอก เค้ามาอยู่ที่นั่นไม่ค่อยได้ใช้อารมณ์ .มันก็เลยผ่องใสขึ้น คราวนี้ เมือร่างกายแข็งขึ้น เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว แรกก็ขายไม่ค่อยไดไม่มาก คราวนี้ พระท่านก็แนะนำก่อนไปขายของก็ให้สวดมนต์ ทำบุญหน้าพระ ปฏิบัติธรรมห้าสิบนาที ภาวนาขึ้นมา
..ทีนี่คนเรามีบุญ ก็ขายมีรายได้ดี .พอผ่านไป .เราเห็นเค้าเดินโขยกเขยก .มาที่วัด .ก็บอกเค้าให้รีบพัก มาปฏิบัติธรรมก่อน เค้าบอกว่า ไม่ได้ ..กำลังขายดีเชียว เราไม่รู้เป็นยังไง พูดว่า ..ต้องให่เค้าบังคับหยุดใช่มั้ย ..จากนั้นไม่นาน .ก็เดินไม่ได้ เริ่มนั่งรถเข็นสักระยะหนึ่ง ก็จากไป
เรื่องเรา ที่เราไม่เคยรู้จักว่า .การที่เราใช้กายเคลื่อนที่ไป มีวิญญาณทั้งหก เป็นเหมือนหัวเรือ ..เรานำพากาย วิญญาณตาหูจมูกลิ้นกายใจ ..ไปสัมผัส ไปรับรู้เรืรองราวต่าง ทั้งมีชีวิตไม่มีชีวิต แล้วอารมณ์เกิดขึ้น ชอบใจไม่ชอบใจ หงุดหงิด โมโห .อะไรต่างนั้น มันทำให้หัวเรือมันหนัก มันเจ็บมันบอบช้ำ ด้วยอารมณ์ต่างๆ แล้วก็มีกายึด บรรจงลงไปในกายที่ประกอบด้วยธาตุทั้งสี่ อีกทั้งมีเรื่องราวของกรรมที่เราสะสมมาแต่ในอดีต อยู่กับธาตุทั้งสี ก็มีกรรมอยู่
เมื่อเราใช้ชีวิตด้วยอารมณ์ต่างๆ มีความโลภโกรธหลงอะไรต่าง เรามีแต่เก็บเกี่ยวเอากรรมเข้ามา เราจะไปโทษ social ก็ไม่ได้ เพราะเราเป็นผู้ที่ใช้กายนี้ ใช้วิญญาณนี้ ไปสัมผัส ไปยึดเข้ามาทับถมกายและจิตของตัวเอง เราเป็นผู้สร้างความเครียดให้แก่จิตเราเอง ไม่มีใครทำให้หรอก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
