8 เม.ย. เวลา 01:48 • หุ้น & เศรษฐกิจ

"The Art of the Tariff": เมื่อ 'ตำราทรัมป์' เขย่าขวัญเศรษฐกิจไทย และ AI ชี้ทางรับมือ! #Grok #Gemini

วันนี้อยากลองใช้ Grok และ Gemini มาดำเนินการ โดยมีไอเดียดังนี้
(พอดีกำลังจะเอา ai มารัน ว่า ai ถ้าอ่านตำราของเจ้าตัว The Art of The Deal มาศึกษาบุคลิกเจ้าตัว มาลองดูนโยบายเจ้าตัว มาลองดูบริบทประเทศไทย และลองวิศวกรรมย้อนกลับตำราทรัมป์เอง ประเทศไทยทำอย่างไร แบบห้อง ai ใช้ ai ดูจะเป็นอย่างไร เพื่อมาเขียนอะไรซักบทความ) โดยมี promt ยาวๆ เหมือนความเรียงว่า
อันนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเพราะจะเกี่ยวกับทุกท่านไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ในส่วนของการออมลงทุนต่างๆ ทั้งผู้ที่ออมเพื่อจะเกษียณ ออมเพื่อระยะสั้น ระยะยาวคือ มาตรการขึ้นภาษีของทรัมป์ มุมที่น่าสนใจคือเป็นการทำตามตำราของเขาเองชื่อ "The Art of The Deal " ลองอ่านเสริมได้ที่ https://brandinside.asia/think-like-donald-trump/
และจะไม่แปลกที่ทำไมเวลาทรัมป์สื่อสาร จะเป็นการจุดฉนวนทางบวกและลบในหน้าสื่อ หรือทำไมเป็นการตั้งเป้าหมายให้เพื่อมีการต่อรอง หรือทำไมคนจะคิดว่าพูดแล้วเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา (แต่จริงๆ เป็นวิธีการต่อรองตามตำราเขาเอง) ไม่นับเมื่อวานที่มีเกริ่นว่าจะขึ้นภาษีจีนอีก ที่จีนขึ้นภาษีตอบโต้ (ขึ้นเป็น 100%) (แต่การดำเนินการระดับประเทศ จริงๆ ก็ไม่น่าใช่มิติธุรกิจทั้งหมด เลยเป็นอะไรที่วูบวาปและเดิมพันสูง เสี่ยงสูงจริงๆ) คหสต
(พอดีกำลังจะเอา ai มารัน ว่า ai ถ้าอ่านตำราของเจ้าตัว มาศึกษาบุคลิกเจ้าตัว มาลองดูนโยบายเจ้าตัว มาลองดูบริบทประเทศไทย และลองวิศวกรรมย้อนกลับตำราทรัมป์เอง ประเทศไทยทำอย่างไร แบบห้อง ai ใช้ ai ดูจะเป็นอย่างไร เพื่อมาเขียนอะไรซักบทความ) เพิ่มเติมประเด็นจากประเทศไทย แนวทางจะเป็น รุก รับ ปรับ ถอย และ ปรับ เปลี่ยน ปลง ไป
มีโจทย์ทั้งหมดตามด้านบน เรียงทุกประเด็นและทำตอบทุกประเด็น
ในการดำเนินการแรกเริ่มจะใช้โหมดในการวิจัยคือ
1. Grok 3 deepersearch
เมื่อได้ข้อมูลตามด้านบน ก็ Prompt ต่อให้ง่ายขึ้นในที่นี้ทำเหมือนกันทั้ง Grok และ Gemini โดยเริ่มจาก ชื่อเรื่อง
จากด้านบนตั้งชื่อให้น่าสนใจ จะโพสในช่องทาง blockdit
Prompt ให้ AI
คำตอบจาก Grok
"ทรัมป์ขึ้นภาษี: กลยุทธ์จาก The Art of the Deal สะเทือนไทยและโลก - AI ช่วยวิเคราะห์ทางรอดได้ยังไง?"
ชื่อนี้สั้น กระชับ ดึงดูดความสนใจ และเหมาะกับแพลตฟอร์มอย่าง Blockdit ที่เน้นเนื้อหาที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยครอบคลุมประเด็นหลักทั้งนโยบายทรัมป์ ผลกระทบต่อไทย และการใช้ AI ในการวิเคราะห์
คำตอบจาก Gemini
แน่นอน นี่คือตัวเลือกชื่อที่น่าสนใจสำหรับโพสต์ Blockdit ของคุณ:
"The Art of the Tariff": เมื่อ 'ตำราทรัมป์' เขย่าขวัญเศรษฐกิจไทย
เกมการค้าหักเหลี่ยม: ไทยจะรับมือ 'สงครามภาษี' ทรัมป์อย่างไร?
"รุก รับ ปรับ เปลี่ยน ปลง": คู่มือประเทศไทยฝ่าวิกฤตภาษีทรัมป์
จาก "The Art of The Deal" สู่ "The Art of the Tariff": ประเทศไทยในสมรภูมิการค้าโลก
เดิมพันสูงของทรัมป์: มาตรการภาษีที่ไทยต้องรู้และรับมือ
เมื่อลัทธิ "America First" กระทบไทย: กลยุทธ์อยู่รอดในยุคกีดกันทางการค้า
ไม่ใช่แค่เรื่องไกลตัว: ผลกระทบของภาษีทรัมป์ต่อเงินในกระเป๋าทุกคน
AI วิเคราะห์เกมการค้า: ประเทศไทยจะใช้กลยุทธ์ไหนในยุคภาษีทรัมป์?
"Liberation Day" หรือวันแห่งความท้าทาย? ภาษีทรัมป์กับอนาคตเศรษฐกิจไทย
ถอดรหัส "Trumpnomics": ประเทศไทยต้องปรับตัวอย่างไรในโลกที่ผันผวน
เลือกชื่อที่คุณคิดว่าดึงดูดผู้อ่านบน Blockdit ได้มากที่สุดนะครับ
พอได้ชื่อเรียบร้อยเข้าขั้นตอนสุดท้าย คือสรุปในมุมว่า จากเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไร และในมุม AI ที่แนะนำในมุมประเทศไทย
เริ่มจาก Grok
แล้ว AI ช่วยได้ยังไง?
ลองนึกภาพ: ถ้าเราให้ AI อ่าน "The Art of the Deal" ศึกษานิสัยทรัมป์ วิเคราะห์นโยบายเขา แล้วดูบริบทไทย AI จะแนะอะไร?
ขั้นแรก AI อาจบอกว่า ทรัมป์ชอบขู่แรงๆ แต่พร้อมเจรจา ไทยควรเตรียม "รุก" ด้วยการหาตลาดใหม่ เช่น อินเดีย หรือเวียดนาม
ขั้นรับ เตรียมรับมือด้วยการเจรจาลดภาษี หรือเพิ่มการค้าภายในประเทศ
ขั้นปรับ ปรับตัวด้วยนวัตกรรม ทำสินค้าให้แข่งขันได้แม้เจอภาษี
ขั้นถอย ถ้าสู้ไม่ไหว ก็ลดพึ่งพาสหรัฐฯ หันไปหาคู่ค้าใหม่
AI ยังช่วย "วิศวกรรมย้อนกลับ" ได้ เช่น ดูว่าทรัมป์จะต่อรองยังไง แล้วไทยควรตั้งท่าต่อรองแบบไหนให้ได้เปรียบ เช่น ใช้จุดแข็งอย่างการเป็นฐานผลิตที่บริษัทจีนย้ายมา มาดึงดูดนักลงทุนแทน
สรุปง่ายๆ
นโยบายทรัมป์ไม่ใช่แค่เรื่องไกลตัว เพราะกระทบเงินในกระเป๋าเราทุกคน กลยุทธ์จาก "The Art of the Deal" ทำให้เขาดูเป็นนักเจรจาที่คาดเดายาก แต่ถ้าไทยฉลาดใช้ AI มาวิเคราะห์ ผสมกับการปรับตัวแบบ "รุก-รับ-ปรับ-ถอย" เราอาจหาทางรอดได้ไม่ยาก! เพื่อนๆ คิดยังไง ลองคอมเมนต์มาแชร์กันนะ!
ต่อด้วยของ Gemini อันนี้ขอดึงมาทั้งหมด มองว่าเป็นการสรุปของการเทสครั้งนี้
"The Art of the Tariff": เมื่อ 'ตำราทรัมป์' เขย่าขวัญเศรษฐกิจไทย และ AI ชี้ทางรับมือ!
#ภาษีทรัมป์ #เศรษฐกิจไทย #การลงทุน #TheArtOfTheDeal #AIวิเคราะห์เศรษฐกิจ #รุกรับปรับถอย #Blockdit
เพื่อนๆ นักออมนักลงทุนคงกำลังจับตาข่าวเศรษฐกิจโลกกันอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ของ "ทรัมป์" ที่ประกาศออกมาสดๆ ร้อนๆ ซึ่งเรื่องนี้ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด เพราะมันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเราโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นคนที่ออมเงินเพื่อเกษียณ หรือลงทุนระยะสั้นยาวก็ตาม
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมทรัมป์ถึงกล้าประกาศมาตรการที่ดูเหมือนจะสร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลกแบบนี้? 🤔 ลองย้อนไปอ่านหนังสือ "The Art of The Deal" ของเจ้าตัวดู จะพบว่าสไตล์การเจรจาแบบทรัมป์นั้นเน้นการตั้งเป้าหมายที่สูงไว้ก่อน เพื่อเปิดทางให้มีการต่อรอง และพร้อมที่จะใช้ทุกกลยุทธ์เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ซึ่งการขึ้นภาษีครั้งนี้ก็อาจเป็นหนึ่งใน "ตำรา" ของเขานั่นเอง
แล้ว AI จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์สถานการณ์นี้ได้อย่างไร? 🤔 นี่คือโจทย์ที่เราลองให้ AI อ่าน "The Art of The Deal" ศึกษาบุคลิก นโยบาย และบริบทของประเทศไทย เพื่อลอง "วิศวกรรมย้อนกลับ" กลยุทธ์ของทรัมป์ และดูว่าประเทศไทยควรมีแนวทางอย่างไร
ผลลัพธ์จากห้อง AI ชี้ให้เห็นว่า มาตรการภาษีของทรัมป์ในปี 2025 นี้ไม่ใช่แค่การขึ้นภาษีธรรมดา แต่เป็นการ "ขึ้นภาษีตอบโต้" โดยตั้งเป้าไปที่ประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ ซึ่งน่าเสียดายที่ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น 😥
ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย:
ภาษีนำเข้าพุ่ง: สินค้าส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ อาจโดนภาษีสูงถึง 36-37% ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2025  
สินค้าไทยเสียเปรียบ: สินค้าหลักๆ ที่จะโดนผลกระทบ เช่น โทรศัพท์มือถือ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยางรถยนต์ และอีกมากมาย ทำให้ความสามารถในการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ลดลง  
ตลาดข้าวหอมมะลิสั่นคลอน: ข้าวหอมมะลิไทยในสหรัฐฯ อาจสู้ราคาข้าวจากเวียดนามไม่ได้
ผลกระทบทางอ้อม: แม้แต่สินค้าที่ไม่ได้ส่งออกไปสหรัฐฯ โดยตรงก็อาจได้รับผลกระทบจากห่วงโซ่อุปทานโลกที่ปั่นป่วน  
เศรษฐกิจไทยชะลอตัว: คาดการณ์ว่า GDP ของไทยในปี 2025 อาจลดลง 0.2% ถึง 2% เลยทีเดียว  
เท่านั้นยังไม่พอ จีนก็ไม่ยอม! 🇨🇳 ได้ประกาศขึ้นภาษีตอบโต้สินค้าจากสหรัฐฯ 34% เช่นกัน ทำให้สถานการณ์การค้าโลกยิ่งตึงเครียดและผันผวน
แล้วประเทศไทยควรทำอย่างไร? 🤔 จากการวิเคราะห์ของ AI และแนวทางที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต เราสามารถมองเห็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจภายใต้แนวคิด "รุก รับ ปรับ ถอย และ ปรับ เปลี่ยน ปลง ไป"
รุก: เจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ เพื่อขอลดภาษี หรือหาทางทำข้อตกลงการค้าใหม่ๆ กับประเทศอื่นๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง
รับ: ออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เช่น ลดดอกเบี้ย หรือให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
ปรับ: ปรับเปลี่ยนสินค้าส่งออกให้เน้นสินค้าที่ได้รับผลกระทบน้อย หรือหาตลาดใหม่ๆ ที่มีความต้องการสินค้าไทย
ถอย: หากจำเป็น อาจต้องลดการพึ่งพิงภาคส่งออกบางประเภทเป็นการชั่วคราว และหันมาเน้นการเติบโตจากภายในประเทศ
ปรับ เปลี่ยน ปลง ไป: เตรียมพร้อมที่จะปรับตัวอยู่เสมอ เพราะสถานการณ์การค้าโลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การสร้างนวัตกรรม พัฒนาเทคโนโลยี และยกระดับทักษะแรงงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ
บทเรียนจากอดีต: ประเทศไทยเคยผ่านช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับการกีดกันทางการค้ามาแล้ว และเราก็สามารถปรับตัวและเติบโตได้ การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การมีสัมพันธ์ทางการทูตที่ดี และการเข้าร่วมในเวทีการค้าระหว่างประเทศอย่างแข็งขัน เป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ
เข้าใจ "ทรัมป์": การทำความเข้าใจบุคลิกและแรงจูงใจในการตัดสินใจของทรัมป์ก็สำคัญไม่แพ้กัน สไตล์การเจรจาที่เด็ดขาด ตรงไปตรงมา และคาดเดาได้ยาก อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหัน
สรุป: มาตรการภาษีของทรัมป์ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับเศรษฐกิจไทย แต่ด้วยการวางแผนกลยุทธ์ที่รอบคอบ การปรับตัวอย่างรวดเร็ว และการเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีต เราจะสามารถฝ่าวิกฤตนี้ไปได้แน่นอน 💪
เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้? มีแนวทางอื่นที่น่าสนใจอีกไหม? มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เลยครับ 👇
ก็จบไปสำหรับการเทส AI
โฆษณา