22 เม.ย. เวลา 11:00 • การศึกษา

## Episode115: Kinesiology of the Hand#9

Finger flexion and extension biomechanics ##
การเคลื่อนไหวของนิ้วมือเป็นการทำงานที่ซับซ้อนมาก เพราะต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อและเอ็นหลายตัว ในบทความนี้ผมจะมาพูดถึงกลไกการทำงานของการงอและเหยียดนิ้วมือกันครับ
การงอนิ้วมือ(finger flexion)เกิดจากการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อ 2 มัดหลักคือ "flexor digitorum superficialis(FDS)" และ "flexor digitorum profundus(FDP)" โดยเอ็นของกล้ามเนื้อทั้ง 2 ตัวนี้จะวิ่งผ่านอุโมงค์ที่เราเรียกว่า "flexor tendon sheath" ซึ่งทำหน้าที่เป็นรอกนำทางให้เอ็นเคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เอ็นของ FDS กับ FDP จะมีการจัดเรียงตัวที่น่าสนใจมากครับ โดยเอ็น FDS จะแยกออกเป็น 2 แฉก(split) ที่บริเวณ proximal phalanx แล้ววิ่งอ้อมไปเกาะที่ด้านข้างของ middle phalanx ส่วนเอ็น FDP จะลอดผ่านช่องที่แยกออกของ FDS นี้ (เหมือนการร้อยเข็ม) แล้ววิ่งต่อไปเกาะที่ฐานของ distal phalanx การจัดเรียงตัวแบบนี้ทำให้ FDS งอข้อ PIP ได้ดี ส่วน FDP จะงอได้ทั้งข้อ PIP และ DIP ครับ
ส่วนการเหยียดนิ้วมือ(finger extension) นอกจากจะเกิดจากการทำงานของ "extensor digitorum communis(EDC)" แล้ว ยังมีความน่าสนใจที่ "extensor hood" หรือที่เรียกอีกชื่อว่า "dorsal digital expansion" ครับ
.
extensor hood เป็นแผ่นเอ็นที่มีความหนา ประกอบด้วยเส้นใยจากหลายส่วนมารวมกัน ทั้งจาก EDC, interossei และ lumbrical muscles โดยจะคลุมอยู่บริเวณด้านหลังของ proximal phalanx และแผ่ขยายไปด้านข้างทั้ง 2 ข้าง
ถ้าเราดูการจัดเรียงตัวของ extensor hood จะพบว่าส่วนตรงกลางที่เราเรียกว่า "central slip" จะวิ่งตรงไปเกาะที่ฐานของ middle phalanx ส่วนด้านข้างจะมีแถบที่เรียกว่า "lateral bands" วิ่งเฉียงจากด้านข้างเข้าหากึ่งกลางทางด้านหน้า แล้วมารวมกันเป็น "terminal tendon" ไปเกาะที่ฐานของ distal phalanx นอกจากนี้ยังมีเส้นใยที่พาดขวางระหว่าง lateral bands ที่บริเวณข้อ PIP ที่เราเรียกว่า "transverse retinacular ligament" ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ lateral bands เลื่อนหลุดไปทางด้านหน้าตอนงอนิ้วครับ
การจัดเรียงตัวที่ซับซ้อนนี้ทำให้เกิดการเหยียดที่ข้อ PIP และ DIP ได้พร้อมกัน และยังทำให้เกิดการทำงานร่วมกัน(coupling motion)ระหว่างข้อ PIP กับ DIP ด้วย เช่น เวลางอข้อ PIP จะทำให้ lateral bands เลื่อนไปด้านหน้า ทำให้ข้อ DIP งอตามไปด้วย
นอกจากนี้ยังมีกล้ามเนื้อ intrinsic muscles ที่ช่วยในการงอและเหยียดนิ้วมือด้วย โดย "lumbrical muscles" จะช่วยงอข้อ MCP พร้อมกับเหยียดข้อ PIP และ DIP ส่วน "interossei muscles" จะช่วยในการกางและหุบนิ้ว พร้อมกับงอข้อ MCP เช่นกัน
ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ของการเคลื่อนไหว เราจะพบว่าการงอและเหยียดนิ้วมือมีความเชื่อมโยงกัน เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "tenodesis effect" เช่น เวลาที่เราเหยียดข้อมือ นิ้วมือจะมีแนวโน้มที่จะงอ และเมื่องอข้อมือ นิ้วมือจะมีแนวโน้มที่จะเหยียด เป็นต้น
.
ความสัมพันธ์นี้มีความสำคัญในทางคลินิก เพราะเราสามารถใช้ประโยชน์จากมันในการฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีปัญหาการทำงานของมือได้ครับ
ในการตรวจร่างกาย เราสามารถทดสอบการทำงานของกล้ามเนื้อแต่ละตัวได้ เช่น การทดสอบ FDP โดยให้ผู้ป่วยงอข้อ DIP ในขณะที่จับให้ข้อ PIP อยู่ในท่าเหยียด หรือการทดสอบ FDS โดยให้งอข้อ PIP ในขณะที่กดนิ้วที่ไม่ได้ทดสอบให้เหยียดเต็มที่ เพื่อยับยั้งการทำงานของ FDP เป็นต้น
โดยสรุปแล้ว การงอและเหยียดนิ้วมือเป็นการทำงานที่ซับซ้อน ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อและเอ็นหลายตัว การเข้าใจกลไกการทำงานเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถประเมินและรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวของนิ้วมือได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ผมฝากกด like กดแชร์ กดติดตามเพจphysioupskillด้วยนะครับ ส่วนถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรก็commentไว้ด้านล่างได้เลยครับ
_PhysioUpskill_
#Physioupskill
⭐สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถอ่านบทความอื่นๆได้ที่ https://physioupskill.com/บทความ/ หรือดูรายละเอียดคอร์สเรียนของเพจได้ที่ https://physioupskill.com/คอร์สเรียน/ ได้เลยครับ
Ref.
Neumann, D. A. (2017). Kinesiology of the musculoskeletal system: Foundations for Rehabilitation. Mosby.
Nordin, M., & Frankel, V. H. (2012). Basic biomechanics of the musculoskeletal system. Lippincott Williams & Wilkins.
โฆษณา