8 เม.ย. เวลา 09:11 • ธุรกิจ

วิกฤตภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และผลกระทบและแนวทางรับมือของภาคเกษตรไทย

การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทยเป็น 36% โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความกังวลอย่างมากต่อภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมแปรรูปของไทย โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกหลัก ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น ความสามารถในการแข่งขันลดลง และอาจทำให้ยอดส่งออกลดลงถึง 20-30% ซึ่งกระทบโดยตรงต่อรายได้ของเกษตรกรและผู้ประกอบการ
สินค้าที่ได้รับผลกระทบได้แก่ ข้าว ผลิตภัณฑ์ประมง อาหารสัตว์เลี้ยง มะพร้าว และสับปะรดกระป๋อง โดยบริษัทผู้ส่งออกรายใหญ่ เช่น TU, CFRESH, COCOCO, MALEE และ AAI อาจเผชิญรายได้ลดลงหากไม่หาตลาดใหม่ได้ทันเวลา
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า GDP ไทยในปี 2568 อาจโตไม่ถึง 2% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิม และส่งผลต่อภาคการผลิต การบริการ และการจ้างงาน โดยอาจเกิดการเลิกจ้าง กระทบต่อกำลังซื้อและเศรษฐกิจโดยรวม
อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวทางรับมือ เช่น การเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อลดภาษี การปรับกลยุทธ์การค้าให้สมดุลมากขึ้น การหาตลาดใหม่ เช่น จีนและอาเซียน รวมถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้งด้านเงินทุน เทคโนโลยี และการวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า
แม้ว่าการขึ้นภาษีจะเป็นความท้าทายใหญ่ แต่หากไทยมีการเตรียมรับมือที่ดี ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะช่วยให้ประเทศพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรอย่างยั่งยืนและยืดหยุ่นในระยะยาว
โฆษณา