8 เม.ย. เวลา 12:05 • การเมือง

วิสัยหมาป่าจะไม่ยอมทิ้งเหยื่อ

แม้ พ.ร.บ.กาสิโน จะถูกเลื่อนจากกำหนดการเดิมที่จะเข้าสภาในวันที่ 9 เมษายน 2568 ออกไป แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะยกเลิกร่าง พ.ร.บ.นี้
ถอยไม่ได้แปลว่าถอน เพียงแค่รอจังหวะเหมาะๆ ค่อยเสียบเข้าไปใหม่
นายกอ้างว่ามีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องพิจารณาก่อน ทั้งเรื่องขึ้นภาษีของอเมริกา และเรื่องแผ่นดินไหว
ฟังดูดี
แต่มันย้อนแย้งกับพฤติกรรมในสัปดาห์ที่แล้วที่รัฐบาลเสนอญัตติซ้อนญัตติของฝ่ายค้าน พยายามผลักดันกฎหมายกาสิโน ลัดคิวร่างของฝ่ายค้านที่เขาเสนอเอาไว้ก่อน เพื่อให้พิจารณาให้ทันในวันที่ 9 เมษายน 2568 จนต้องโล้งเล้งกันลั่นสภา
ทำเอาประธานในที่ประชุมนั่งไม่ติด ต้องใช้กฎเหล็กด้วยการลุกขึ้นยืนเพื่อบังคับให้ฝ่ายค้านนั่งลง แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล ประธานต้องยอมเสียหน้า นั่งลงเอง
แต่ก็จบด้วยชัยชนะของรัฐบาล ที่มีเสียงมากกว่า ใช้วิธียกมือโหวตลงคะแนนเมื่อไร ก็ชนะเมื่อนั้น เรื่องธรรมดา
แต่ที่ไม่ธรรมดา กลายเป็นเสียงประชาชนนอกสภา ที่ทำให้ใครบางคนที่คอยกำกับการแสดงของรัฐบาลต้องคิดหนัก ถึงขนาดต้องร่อนเร่เป็นสัมภเวสีไปต่างประเทศ ไม่มีแผ่นดินจะอยู่อีกครั้งก็ไม่แน่
ขืนลุยฝ่ากองไฟไปตอนนี้ โอกาสรอดน้อยมาก จึงต้องส่งสัญญาณให้เลื่อนออกไปก่อน
เพราะเมื่อใกล้เวลาประชุมสภาเข้าจริงๆ เสียงประชาชนที่คัดค้านกาสิโนเริ่มดังขึ้นๆ ทุกที เหมือนเย้ยฝ่ายการเมืองที่เคยดูแคลนว่าม็อบจุดไม่ติด
แค่วันซ้อม ผู้คนก็หลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ มารวมกันที่จุดนัดพบหน้าทำเนียบรัฐบาล จุดหมายหน้ารัฐสภาในวันที่ 9 เมษายน 2568 ที่เป็นวันดีเดย์
ไม่เฉพาะแต่มวลชนที่เวที คปท.หน้าทำเนียบรัฐบาลซึ่งปักหลักรอมาเป็นเดือนเท่านั้น อีกหลายสิบจุดตามจังหวัดต่างๆ ก็รวมตัวกันตั้งเวทีปราศรัยแสดงจุดยืนคัดค้านกาสิโนกันอย่างเต็มที่
ที่น่าสนใจเป็นพิเศษ บรรดาเหล่าปัญญาชนระดับนำของประเทศ ในรูปแบบสมาคม องค์กร ครอบคลุมทุกสาขาอาชีพ ตั้งแต่สมาคมแพทย์ องค์กรทุกศาสนา อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อดีตกลุ่มสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ราชบัณฑิต สหภาพแรงงาน และอีกหลายองค์กร ต่างพร้อมใจกันประกาศแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน คัดค้านกฎหมายกาสิโน
คำว่าสังคมประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยที่แท้จริงต้องเป็นของปวงชน ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
เสียงส่วนใหญ่ในสภาที่นักการเมืองชอบยกมาอ้างถึงความถูกต้อง ในการออกกฎหมายบังคับใช้กับคนทั้งประเทศ จึงไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ที่แท้จริงของคนทั้งประเทศ
ดูตัวอย่างจากเหตุการณ์ที่รัฐบาลพยายามจะเข็นกฎหมายกาสิโน ให้ผ่านสภาครั้งนี้ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า การพนันเป็นอบายมุขตัวบ่อนทำลายชาติ ประชาชนต้องต่อต้าน คัดค้านเต็มที่
ก็ยังดันทุรัง สวนทางกระแสสังคม
จึงออกอาการปากกล้าขาสั่น ทั้งที่ใจจริงก็กลัว ที่จับได้ก็เพราะรัฐบาลไม่กล้าใช้ชื่อการพนันตรงๆ กลับเบี่ยงเบนให้ประชาชนสับสน ด้วยการตั้งชื่อเป็นภาษาฝรั่งว่าเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ที่ให้สนุกสนานบริการให้ความบันเทิงครบวงจร
ทั้งที่ความจริง รัฐบาลตั้งใจแอบซุกบ่อนพนันอยู่ในนั้น 10% ของพื้นที่ทั้งหมด และจะตามมาด้วยพนันออนไลน์ในอนาคต
ด้วยเสียงที่มากเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลสามารถผ่านร่างกฎหมายนี้ได้อยู่แล้ว
แต่คราวนี้ประชาชนทั้งประเทศ เล็งเห็นถึงความหายนะ หากปล่อยให้รัฐบาลเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมาย ที่จะทำลายประเทศชาติ ทำลายเยาวชน ในอนาคต
ทุกคนจึงร่วมแรงร่วมใจกันแสดงออกทุกช่องทางที่จะสื่อไปถึงรัฐบาลว่า ไม่ต้องการกาสิโน
จนในที่สุดนายกต้องแถลงข่าวว่า เลื่อนวาระกาสิโนออกไปก่อน
ถือว่าประสบความสำเร็จไปได้ระดับหนึ่ง ที่รัฐบาลตัดสินใจเลื่อนกำหนดการพิจารณากฎหมายนี้ออกไป
จะประสบความสำเร็จเต็มร้อย ต้องกดดันให้รัฐบาลต้องถอนร่างกฎหมายกาสิโนออกไป
ก็ต้องเข้าใจว่า ผลประโยชน์จากบ่อนการพนันมหาศาล จึงเป็นไปได้สูงที่จะยั่วยวนให้ใครบางคนที่คอยกำกับรัฐบาลต้องการส่วนแบ่งก้อนนี้ โดยไม่สนใจถึงความหายนะของประเทศ
ถ้าสมมุติฐานข้อนี้เป็นจริง ถือว่าเป็นอันตรายที่น่ากลัวอย่างยิ่งต่อสังคมไทย
ขอให้พลเมืองผู้รักชาติรักแผ่นดิน อย่าได้วางใจ ต้องคอยคุมเชิงและเฝ้าระวังประเทศไทยที่รักของเรากันต่อไป
เพราะวิสัยหมาป่าจะไม่ยอมทิ้งเหยื่อ
โดย.. พี่ชื่อวิช
โฆษณา