9 เม.ย. เวลา 00:51 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

ศึกนี้ไม่ใช่สงครามปืนใหญ่ แต่เป็น "สงครามการค้า"ที่กลายเป็น"สงครามจอเงิน"

เมื่อสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ งัดไม้เด็ดขึ้นภาษีสินค้าจีนสูงลิ่วถึง 54% แถมขู่จะอัปเลเวลเป็น 104% หากจีนไม่ยอมถอย ฝั่งแดนมังกรก็ไม่ยอมเป็นฝ่ายตั้งรับ เตรียมสวนกลับด้วยอาวุธลับจากโรงหนัง “แบนนำเข้าหนังฮอลลีวูด” ซึ่งเป็นข่าวที่ influencer จีนออกมาให้ข่าวว่ารัฐบาลของท่านสีกำลังพิจารณาแนวทางนี้
งานนี้เหมือนสหรัฐฯ ส่งภาษีมาแลกส่วนลดบัตรหนัง ส่วนจีนก็สะบัดตั๋วหนังฮอลลีวูดทิ้งจากแผงรอบฉาย แม้จะดูเหมือนว่าจีนถือไพ่เหนือกว่าในสนามหนังตลาดจีนเพราะคนท้องถิ่นดูหนังของตนเองมากกว่าหนังต่างประเทศ ฮอลลีวูดมีฐานแฟนคลับอยู่ทั่วโลกดูเหมือนช่วงหลังๆจะพ่ายแพ้ในตลาดจีนหนังทำเงินไม่ค่อยเข้าเป้าแต่ถึงแม้ไม่เข้าเป้ารายได้จากจีนก็ยังเป็นหลักหลายร้อยล้าน
งานนี้อเมริกาออกจะเมาหมัดสักเล็กน้อยอาจจะโวยกรรมการได้ว่าคู่แข่งชกใต้เข็มขัด เพราะสินค้าภาพยนตร์นั้นถือว่าเป็นสินค้าบริการ ไม่ใช่สินค้าปกติที่ถูกกำแพงภาษีเล่นงาน มันคนละหมวดกัน แต่เวลาคุณลงสนามชกกันจริงๆแล้วมันคงไม่แบ่งแยกประเภทอาวุธหมัดอาวุธเท้าคงจะต้องสวนกันอุตลุดแบบนี้ล่ะครับ
หันมามองประเทศสารขัณฑ์แล้วก็ให้สงสัยว่าจะมีแนวทางโต้กลับยังไงหรือว่าจะรอเป็นฝ่ายโดนชกอย่างเดียว
เรื่องนี้ยังไม่จบง่าย ๆ เพราะการแลกหมัดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ยังดำเนินต่อไป... เข้าทำนอง "สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร"
โฆษณา