Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
sansati ศานสติ
•
ติดตาม
11 เม.ย. เวลา 14:15 • การศึกษา
If the looks can kill...
คนเราสมัยนี้เห็นรูปร่างหน้าตาสำคัญกว่าอย่างอื่น ให้ความสำคัญถึงขนาดที่ว่าต้องไปทำศัลยกรรมกันเลยทีเดียว เพราะเชื่อว่าจะได้เปรียบในทางสังคม ไม่ว่าจะด้านการงาน ความรัก ชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งเงินทอง ความเชื่อที่ว่าจะได้โอกาสพิจารณาก่อนในการสมัครเข้าทำงาน หรือมีคนเชื่อถือในคำพูดมากกว่าเวลาขายของ หรือเป็นผู้เลือกในด้านความรัก ไม่ใช่ต้องรอเป็นฝ่ายถูกเลือก
เป็นผู้ได้เปรียบและกำหนดกฎเกณฑ์ ในการที่จะนำมาซึ่งประโยชน์ส่วนตนทั้งหลาย The winner kills & takes all เราถูกโลกวัตถุนิยม psycho ว่าจะต้องดู perfect ที่สุด และเรายังดูดีได้มากกว่านี้เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในเพศไหนภายนอกต้องสวย หล่อ ดูดี เพราะฉะนั้นเราจึงต้องดิ้นรนขวนขวายทำทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องทรมานตัวเองด้วยวิธีการต่างๆสารพัด เพื่อทำให้ตัวเองดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
จุดประสงค์คือ เป็นผู้กำโอกาสเหนือผู้อื่น คงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า ทำบุญสวยชาติหน้า แต่ทำหน้าสวยชาตินี้ เป็นสิ่งที่ได้ยินกันจนคุ้นหูสำหรับคนสมัยนี้ แต่การที่สนใจแต่เปลือกนอกนี้ ทำให้เราเสพติดรูปลักษณ์ภายนอกไปโดยปริยาย สิ่งเหล่านี้ทำให้เรายึดถืออัตตาตัวตนอย่างเหนียวแน่น หารู้ไม่ว่านำมาซึ่งความทุกข์
อย่าให้ต้องรอแก่เลย แค่เป็นสิวก็ทำให้ทุกข์ได้อย่างยิ่งแล้ว เมื่อคนเราไม่เชื่อมั่นในความดีงามภายในใจของตัวเอง จึงเน้นเฉพาะหน้าตาดูดี แต่ใจดำ มีความเหม็นอยู่ในจิตวิญญาณ ไม่ได้หอมหวลด้วยศีลด้วยธรรม
ในทางพุทธเชื่อว่าคนที่เกิดมาหน้าตาดี แสดงว่าเคยรักษาศีลดีมาก่อน แต่พอเกิดมาชาตินี้แล้วก็หลงในบุญเก่าของตัวเอง เอามาทำไม่ดีไม่มีศีลมีธรรม ด้วยความหลงในความสวยงามของรูปร่างหน้าตาของตัวเอง ปฏิบัติต่อคนอื่นไม่ได้ดีดั่งหน้าตา ถือเนื้อถือตัว ดูถูกผู้อื่น ใช้ประโยชน์จากความหลงในรูปของผู้อื่น โดยไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจ ไม่พ้นไหลลงสู่ที่ต่ำ ด้วยวิบากกรรมตามมาสนอง
เรื่องร่างกายในทางพุทธสอนให้เห็นตามความจริงที่ว่า ร่างกายไม่ใช่ของสวยงามเป็นอสุภะ เป็นถุงหนังบรรจุของเน่าเหม็น ขับของเสียออกมาตลอดเวลา เป็นรังของโรค และยังมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดาอีกด้วย ตัวอย่างความเสื่อมที่เห็นได้ชัดๆคือ ขี้ไคล มันคือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ต้องขัดออกทำความสะอาดทุกวัน ผมร่วงวันละเป็นสิบๆเส้นเป็นเรื่องธรรมชาติ ร่างกายเสื่อมสภาพและตายลงในทุกๆนาที แต่เราไม่เคยตระหนักรู้อย่างแท้จริงเลย
พระพุทธเจ้าจึงสอนให้พิจารณาร่างกายเพื่อปลงรูปสังขาร ให้เห็นโทษของความยึดถือในร่างกาย เห็นว่าร่างกายไม่เที่ยง ครูบาอาจารย์บอกว่า ไม่ว่าจะดูแลดีแค่ไหน ร่างกายมันก็ยังทรยศเราอยู่ดี ตอนแรกเราได้ยินแล้วเอ๋อมาก ถึงขั้น “ทรยศ” เลยเชียวเหรอ? แต่พอคิดๆดูก็อ๋อ รู้เลยว่าที่ท่านพูดนั้นถูกต้องทุกอย่าง เพราะไม่ว่าจะบำรุงดีแค่ไหน
ออกกำลังกาย จำกัดความเครียด กินอาหารดีๆ ยังมีอาหารเสริมของบำรุงที่สรรหามาสารพัด จัดเต็มคาราเบล ให้กินกันจนจะไม่ใช่คนอยู่แล้ว กินกันจนจะเป็นปลาทองอยู่แล้ว (อาหารเม็ด อาหารน้ำ อาหารผง ฯลฯ ) รวมทั้งการทำให้ภายนอกดูดี ด้วยการไปทำศัลยกรรมเสริมความงามต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นการหลอกลวงตัวเอง
เพราะเรารู้ไม่เท่าทันว่าร่างกายเป็นของไม่เที่ยง มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เราไม่อาจห้ามความแก่ ความเจ็บ ความตายที่เกิดกับร่างกายได้เลยแม้แต่น้อย ทำได้แค่ชะลอ นี่เป็นความทุกข์จากการเห็นผิด ยึดถือในร่างกายว่าเป็นตัวเรา เป็นของเรา ร่างกายนั้นเป็นของธรรมชาติ เราแค่ยืมมาใช้สุดท้ายก็ต้องปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ
ถ้าจะให้เปรียบร่างกายที่เราปรนเปรอ หาทุกสิ่งทุกอย่างมาบำรุงเพื่อให้เขาแข็งแรง และสวยงาม ดูดี ก็เหมือนแบงค์กงเต๊กที่เดินได้ เพราะไม่ว่าจะหมดเงินไปเท่าไหร่เพื่อการนั้น สุดท้ายก็ต้องเอาไปเผาอยู่ดี
หากคุณเกิดมาหน้าตาดี นั่นเป็นเครื่องบ่งบอกอย่างหนึ่งว่า อย่างน้อยคุณเคยรักษาศีลมาเป็นอย่างดีหลายภพหลายชาติ อาจจะถึงขั้นเป็นหลักร้อยหลักพัน หากเป็นพวกลูกรักพระเจ้าหน้าตาดีจัดๆ และการที่คุณรูปร่างหน้าตาดีนี้ ทำให้มีข้อต้องระวัง คือมีแรงดึงดูดทางเพศมากโดยธรรมชาติ จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้ผิดศีลข้อ 3 ได้ง่าย
หากชาตินี้คุณไม่มีศีล อย่าว่าแต่กลับมาหน้าตาดีเลย แม้แต่จะกลับมาเป็นมนุษย์ยังเป็นไปไม่ได้ ถ้าอยากรักษาความเป็นมนุษย์ให้รักษาศีล 5 ที่ถือว่าเป็นสมบัติของมนุษย์ ต้องรักษาให้ดีชั่วชีวิตคือ ทำจนติดเป็นนิสัย ถึงจะได้มีโอกาสกลับมาภพภูมิมนุษย์อีก ไม่งั้นอาจจะเป็นได้แค่หมาแมวหน้าตาน่ารัก
คนสวยคนงาม ก็แค่คนเคยมีศีล อยู่ต่อไปก็ไม่สวยไม่งามแล้ว ถ้าไม่มีศีลมีธรรม ดีไม่ดีก็จะตกนรกด้วย มันน่าตื่นเต้นอะไรนักหนาหรือ? อย่าหลงในรูปเพราะเป็นของไม่เที่ยง ร่างกายมันจะเจ็บ จะป่วย จะแก่ จะตายเราก็ไม่ทุกข์ ถ้าได้เห็นตามความเป็นจริงว่าร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ร่างกายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
แต่เราดันไปหลงรักหลงยึด เรารักของที่มันไม่เที่ยง แตกหักเสียหาย เปลี่ยนแปลงได้ วางใจไม่ถูกก็ทุกข์แน่นอน ถ้ามีสิ่งที่ควรฆ่า สิ่งนั้นคือ อัตตาตัวตน การหลงรูปลักษณ์ภายนอก ส่วนสิ่งที่ควรค่า คือ การมีปัญญามองเห็นคุณค่าของคนว่าวัดจากตัวตนภายใน
ขอบคุณรูปภาพจาก
https://www.pinterest.com/pin/287245282478188420/
#คุณค่าที่คู่ควร #คุณค่าภายใน #คุณค่าแท้ VS คุณค่าเทียม #มีรูปเป็นทรัพย์ #เนื้อแท้ #รูปร่าง VS จิตวิญญาณ #inner soul #good looking #soul searching
พัฒนาตนเอง
พุทธศาสนา
บทความ
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย