10 เม.ย. เวลา 01:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Easy Reading : สรุป Special Live! [‘วิกฤต’ รอบใหม่? เศรษฐกิจดิ่งนานแค่ไหน? หุ้นจะลงลึกถึงเท่าไหร่?]

เมื่อวันจันทร์ (7 เม.ย. 2025) Mr. เต่า มีโอกาสได้ฟัง Facebook Live ของเพจ Wealth Me Up ดำเนินรายการโดย คุณศิรัถยา อิศรภักดี ซึ่งเชิญ รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ และ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและการลงทุน มาพูดคุยเกี่ยวกับภาวะสงครามการค้าและการลงทุนตลาดหุ้นไทยเอาไว้น่าสนใจมากครับ
ผมเห็นว่ามีประโยชน์ เต่าน้อยลงทุน เลยขอสรุปเนื้อหากระชับๆมาให้อ่านกัน ดังนี้ครับ
ภาพจากรายการ Wealth Me Up
รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์
• มุมมองภาวะเศรษฐกิจโลก
o ภาวะเศรษฐกิจโลกในรอบนี้ “ไม่ได้แย่” เท่ากับวิกฤตครั้งก่อน
o ความขัดแย้งทางการค้าเพิ่งเริ่มต้น และ ปธน. Trump กำลังเล่นเกม ที่ชื่อว่า “Chicken Game” หรือ เกมปอดแหก ประเทศไหนที่อ่อนแอ ก็ต้องยอมเสียเปรียบสหรัฐฯ ส่วนประเทศไหนแข็งแรง จะสามารถต่อรองกับสหรัฐฯได้
ภาพแสดงแนวคิดทฤษฎีการเมืองแบบ Brinkmanship ที่ใช้ในช่วงสงครามเย็น - ภาพจาก www.thisdayinquotes.com/2025/01/origins-of-the-term-brinkmanship-aka-brinksmanship
o ปธน. Trump พยายามสร้างสถานการณ์ ให้เหมือนทุกประเทศกำลังจะเกิดวิกฤต เพื่อกดดันให้ประเทศคู่ค้าต้องยอมเข้ามาเจรจากับสหรัฐฯ (นโยบายแบบ Brinkmanship) ซึ่งจริงๆแล้ว สหรัฐฯก็เสียประโยชน์ด้วย แต่ก็ยอมทำ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของตัวเอง
o จีน ยังพอมีกระสุนเหลือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
o ยุโรป จะต้องโหวตเพื่อผลักดันมาตรการทางภาษีผ่านสภา ซึ่งประเทศสมาชิกยังมีความเห็นแตกต่าง ทำให้สหภาพยุโรป (EU) คงต้องรอให้มีการขึ้นภาษีวันที่ 9 เม.ย. ไปก่อน ถึงจะผลักดันมาตรการภาษีให้ผ่านได้
o ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจต่อการขึ้นภาษี จะเริ่มชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยอาจเป็นไปได้ 3 กรณี คือ
o เศรษฐกิจโลกยังเติบโตได้ แต่ชะลอตัว จาก 3% เหลือเพียง 1% (เป็นไปได้ค่อนข้างมาก)
o เศรษฐกิจประเทศต่างๆ รวมทั้งสหรัฐฯ ยุโรป จะเข้าสู่ภาวะถดถอย (เป็นไปได้)
o เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เหมือนช่วงปี 1929 และอาจลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 (มีโอกาสเกิดน้อยมากกกกกกกกกกก)
o ปัจจุบัน วาณิชธนกิจ Goldman Sachs เพิ่มความน่าจะเป็นที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็น 45%
• มุมมองนโยบายด้านการค้า
o เม็กซิโก และ แคนาดา ฉลาดในการดำเนินนโยบายตอบโต้สหรัฐฯ โดยเลือกใช้นโยบายมุ่งเป้าไปที่ฐานเสียงของ ปธน. Trump ที่เป็นชนชั้นกลาง เพื่อต่อรองไม่ให้ Trump ขึ้นภาษีต่อประเทศทั้งสองอย่างรุนแรง
o ปธน. Trump มีแผนลดภาษีนิติบุคคล ให้เหลือ 15% และกำลังหาเงินราวๆ 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการขึ้นภาษีมาอุดช่องโหว่ของงบประมาณตรงนี้
o เชื่อว่า ปธน. Trump กำลังรอให้ประเทศต่างๆเข้ามาเจรจากับสหรัฐฯ
o ยุโรป อาจ “ขึ้นภาษีบริการ” เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯเกิดดุลบริการกับยุโรปจำนวนมาก
o ประเทศต่างๆ ไม่สามารถรวมกลุ่มเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองกับสหรัฐฯได้ เพราะจะถูกสหรัฐฯโจมตีหนักขึ้น เลยไม่เลือกที่จะรวมกลุ่มกัน
o อย่างไรก็ตาม ประเทศต่างๆ อาจเลือกที่จะไม่เข้าเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯ อาจถูกโดดเดี่ยว
กลุ่มประเทศ Global North และ Global South – ภาพจาก www.britannica.com/topic/Global-North-and-Global-South
• ไทยต้องปรับตัวอย่างไร กับการขึ้นภาษีสินค้ารอบนี้ ?
o ไทยอาจจะต้อง “ผ่อนคลายนโยบายต่างๆ” ให้มากขึ้น เช่น ยอมนำเข้าน้ำมันและแก๊สธรรมชาติมากขึ้น, เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นของต่างชาติ, ลดกฎเกณฑ์การควบคุมด้านทรัพย์สินทางปัญญา หรืออาจต้องแสดงท่าทีที่สนับสนุนจีนน้อยลง เพื่อจูงใจให้สหรัฐฯหันกลับมาเจรจากับไทยมากขึ้น
o ไทยจำเป็นต้อง “เร่งเจรจาข้อตกลงการค้า (FTA)” กับประเทศต่างๆให้มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากการขึ้นภาษี
o การขึ้นภาษีสินค้าต่อไทย จะกระทบ “การส่งออก” ค่อนข้างมาก แต่อาจกระทบ “การท่องเที่ยว” ไม่มากนัก
o ขั้วอำนาจของชาติตะวันตก จะเริ่มเสื่อมอำนาจลง (The West is dead) และประเทศกำลังพัฒนา (Global South) จะเริ่มมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโลกเพิ่มมากขึ้นต่อจากนี้
o เศรษฐกิจไทย อาจเติบโตได้เพียง +1% ในปีนี้
ภาพจากรายการ Wealth Me Up
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
• มุมมองภาวะตลาดหุ้นโลก
o ตั้งแต่ปี 2009 ตลาดหุ้นโลกเข้าสู่ภาวะกระทิง เป็นยุคทองของการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก และตอนนี้ มันน่าจะจบลงแล้ว
o เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะชะงักงัน (Lost Decade) เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับประเทศญี่ปุ่นในทศวรรษ 1990
o การขึ้นภาษี จะทำให้การเจรจาทางการค้ายืดเยื้อ โดยไม่มีประเทศใดได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
o หากเกิดวิกฤตทางการเงิน ตลาดหุ้นโลก “มีโอกาสลดลง” อย่างน้อย -40% จากจุดสูงสุดเดิม ซึ่งตอนนี้ “ยังไม่ถึงจุดนั้น” และวิกฤตการเงินสมัยใหม่ จะเกิดเร็วและแก้ได้รวดเร็ว
o แนะนำ “ถือเงินสด” และ “รอความชัดเจน” จากการขึ้นภาษีก่อนที่จะเริ่มลงทุนอีกครั้ง
o น่าสังเกตว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับตัวลง “น้อยกว่า” ตลาดหุ้นอื่นๆในโลกเสมอ เมื่อเกิดวิกฤต บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งมาก
ภาพสร้างด้วย AI จาก www.canva.com/dream-lab
• กลยุทธ์และแนวทางในการจัดพอร์ตการลงทุน เป็นอย่างไร ?
o ดร.นิเวศน์ เชื่อว่า แต่ละประเทศจะได้รับผลกระทบทางการค้าไม่เท่ากัน
o ดร.นิเวศน์ แบ่งพอร์ตการลงทุนเป็น 3 ส่วนเท่าๆกัน คือ หุ้นไทย 33%, หุ้นต่างประเทศ 33%และหุ้นเวียดนาม 33%
o สภาวะสงครามการค้าตอนนี้ เหมือน มีเสือตัวใหญ่ตัวหนึ่ง (สหรัฐฯ) กำลังที่จะเข้าโจมตีกลุ่มคน ซึ่งมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน (ประเทศต่างๆ) บางประเทศอาจเลือกที่จะหนีเสือ บางประเทศเชื่อว่าตัวเองจะสู้เสือได้ ก็เลือกที่จะสู้ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ต่างกัน เราจึงต้อง “ประเมิน” นโยบายของประเทศนั้นๆต่อสหรัฐฯ ว่าประเทศนั้นเลือกนโยบายแบบใด ก่อนที่จะลงทุน
o เวียดนาม เลือกใช้นโยบาย “หนีเสือ” ซึ่งทำได้อย่างรวดเร็ว ฉับไว และ ดร.นิเวศน์ มองว่าเป็นนโยบายที่ฉลาด เพราะไม่ต้องเสียแรง และจะได้ประโยชน์จากสงครามการค้า กรณีที่ประเทศอื่นๆส่งสินค้าไปหาสหรัฐฯน้อยลง แต่เวียดนามยังสามารถส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯได้
o สภาวะเศรษฐกิจของประเทศต่างๆหลังจากนี้ จะมีลักษณะที่แตกต่างกันมากขึ้น เราจึงต้องติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด
o การลงทุนในตลาดหุ้นไทย จะต้องเน้น “ลงทุนในหุ้นปันผลสูง” และ “มีธุรกิจอยู่ในประเทศ” เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากความไม่แน่นอนด้านนโยบาย
• มุมมองตลาดหุ้นไทย เป็นอย่างไร ?
o ตลาดหุ้นไทย มีโอกาสปรับตัวลง แต่อาจ “ปรับลงอีกไม่มาก” เทียบกับประเทศในภูมิภาค
o ตลาดหุ้นจะยังคงเคลื่อนไหวผันผวน ตามการเจรจาการค้าที่ยืดเยื้อ
o ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาเป็นเวลานาน จะทำให้ตลาดหุ้นสร้างผลตอบแทนได้น้อย
o สงครามการค้า ทำให้วิวัฒนาการของโลกในอดีตกลับตาลปัตรโดยสิ้นเชิง
o “หุ้นที่จ่ายปันผลสูง, มีอำนาจผูกขาดตลาด และเป็นหุ้นในอุตสาหกรรมที่อิ่มตัว” จะสามารถ “สร้างผลตอบแทนได้ดี” ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตช้าในปัจจุบัน
ข้อคิดที่ได้จากทั้งสองท่าน
สุดท้าย ทุกวิกฤตจะผ่านไป และอย่าลงทุนในสัดส่วนที่เยอะจนเกินไป
รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์
ความไม่แน่นอน คือ ความแน่นอน เพิ่มเงินสดและสภาพคล่องไว้บ้าง
รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์
มองการณ์ไกล
รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์
ทำในสิ่งที่ตนเองทำได้ดี และอย่าหยุดที่จะพัฒนาความเชี่ยวชาญของตัวเอง
รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์
อย่าไปคิดแข่งกับใคร แข่งกับตัวเอง
รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์
ทำตัวเองให้มีความสุข อย่าสร้างศัตรู และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ขอบคุณเพจ Wealth Me Up, รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์, ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร และคุณศิรัถยา สำหรับข้อมูลดีดี และจะติดตาม Live ที่น่าสนใจครั้งต่อไปครับ :]
โชคดีในการลงทุนนะครับ
Mr. เต่า
ค้นหาบทความเต่าน้อยลงทุนผ่าน Facebook ได้อีกช่องทางที่
#อัพเดตการลงทุน #เต่าน้อยลงทุน #ลงทุน #การลงทุน #กองทุนรวม #ข่าวต่างประเทศ #หุ้น #ตลาดหุ้นโลก #กองทุนรวม #ข่าวการลงทุน #ข่าวเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจโลก #WealthMeUp
ติดตามเพจ “เต่าน้อยลงทุน” ได้ที่
Source : เพจ Wealth Me Up สรุปโดย เต่าน้อยลงทุน
โฆษณา