ตีกินจนพุงกาง
.
เมื่อคืนผมนอนหลับฝันดี พอตื่นขึ้นมาโอ้ววหุ้นเมกาขึ้นกระจุยเลย
.
ทรัมป์ประกาศปรับเพิ่มภาษีแต่ล่ะประเทศ 10% เป็นระยะเวลา 90 วัน เพื่อให้แต่ละประเทศมีเวลาเจรจา แต่จะเพิ่มภาษีการนำเข้าจากจีนเป็น 120% มีผลทันที
.
พอนั่งอ่านข่าว ผมก็ได้แต่ อืมมมมม มันก็เป็นอย่างนี้แหละ
.
อย่างที่ Live ไปเมื่อ 8-9 เม.ย. ครับ ตัวเลขบ้าบอที่ทรัมป์ประกาศจะเก็บจากแต่ละประเทศนั้น ที่มาของตัวเลขมันหยาบเกินไป หมายถึงการคำนวณตัวเลขมันคิดมาแบบมั่วๆซั่วๆ
.
มันทำให้ตัวเลขดูเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่เริ่มเลย
.
ขึ้นไหม เค้าขึ้นแน่ แต่เค้าต้องมีตัวเลขที่แท้จริงที่ประเมินมาอย่างดีแล้วว่า จะเอาตัวเลขนี้แหละ ดังนั้นไอ่ตัวเลขที่บอกมาตอนแรก มันจึงเป็นตัวหลอก
.
เพื่อล่อให้ทุกคนวิ่งเข้าหา และเข้าหาแบบยอมสยบเพื่อขอรับการผ่อนปรน
.
ต้องยอมรับว่าทรัมป์ฉลาดมากก และ …จริงๆ
.
ลองคิดดู หากเค้าประกาศขึ้นภาษีตอบโต้ Reciprocal 10% ในทีแรก แทนทีจะประกาศขึ้นภาษีแบบสุดโต่งอย่างที่ทำตอนนี้ มันจะเป็นอย่างไร
.
เชื่อได้เลยว่าเราจะไม่ได้เห็นภาพแต่ล่ะประเทศยอมจำนน ต่อแถวคลานคุกเข่าขอเข้าพบแบบนี้ เพราะเกือบทุกประเทศยกเว้นไทย เค้าเตรียมตัวสำหรับภาษีไว้ที่ 5-15% กันอยู่แล้ว (ฟังจาก Live ผมก็ได้พูดอยู่ทุกวัน 5-15%)
.
เกมนี้ทำให้ทรัมป์กลายเป็นผู้ใหญ่ใจดี มีเมตตาลดโทษให้เด็กๆ แถมได้ตังค์จากภาษีเพิ่ม ได้ส่งออกเพิ่ม และได้ข้อตกลงพิเศษเพิ่ม
.
แบบว่าตัวเองไม่เสียอะไรเลย
.
และที่สุดๆคือ ได้ปั่นหุ้นอีกต่างหาก ตลาดเหวี่ยงไปมา +/-10% สุดท้าย S&P500 กลับมาเทียบเท่าวันที่ประกาศ reciprocal วันแรก ลองนึกภาพนอมินีคนใกล้ตัวทรัมป์จะรวยเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่ ทั้งขา Short ทั้งขา Long
.
สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากแท็คติกของทรัมป์ก็คือการ เค้ามีนิสัยชอบตบหัวแล้วลูบหลัง ดังนั้นอะไรที่มันสุดโต่ง อะไรที่มันดูเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายแล้วเค้าจะไม่ทำ
.
เค้าสามารถปรับท่าทีตามบทในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ บีบให้แน่นและชิงประกาศผ่อนปรนก่อนที่ทุกอย่างจะพังจนเลยเถิดเอาไม่อยู่
.
เค้าไม่ใช่คนบ้า แต่เค้าเป็นคนฉลาด (ฉลาดมาก) หากจะสุดโต่งลุยสุดซอย เค้าทำไปแล้วตั้งแต่เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก สังเกตุได้ว่าตอนนั้น แม้จะประกาศแบบโฉ่งฉ่าง แต่ก็ยังเป็นขั้นเป็นตอน เจรจา แล้วปรับขึ้น เจรจาอีก แล้วก็ปรับขึ้นอีก ทำไปทีล่ะขั้น
.
มาคราวนี้คงเห็นแล้วว่าถ้าเป็นเดิมคือค่อยๆเรียกมาเจรจามันได้ผลช้าไป สู้เฆี่ยนให้เชื่องไปเลยได้ผลเร็วกว่า
.
ดังนั้นภาษีที่บอกว่าจะเก็บเพิ่มจากจีน 125% มันก็จะเป็นเหมือนที่ผมบอกไปในทุกสื่อที่ผมได้ให้สัมภาษณ์ว่า "มันเป็นเรื่องโจ๊ก" แค่ 50% ก็ไม่ต้องทำการค้ากันแล้ว จะมาเก็บ 100% มัน overbluffing เกินไป สุดท้ายเดี๋ยวก็มั่วนิ่มหาทางลงมาได้เอง
.
อย่างไรก็ตาม ภาษีการค้าไม่ได้หายไป สุดท้ายยังไงๆทุกประเทศก็ต้องโดนเพิ่ม คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดคือสหรัฐได้ภาษีเพิ่ม ไ้ด้ส่งออกเพิ่ม ได้เงินไปลดภาษีในประเทศ ขณะเดียวกันราคาสินค้าในประเทศก็จะไม่ได้สูงขึ้นมากอย่างที่คนกลัวกันในตอนแรก งานนี้ยิ้มหวานกันเลยทีเดียว
.
ส่วนไทย การโดนภาษีเพิ่มมาอีก 10% กระทบกับ GDP แน่ แต่ยังได้เรื่องการลดดอกเบี้ยนโยบายมาช่วย GDP Growth ปีนี้น่าจะยังประคองตัวได้ที่ 2%
.
SET Index อยู่ในจุดที่มี Valuation น่าสนใจ (เมื่อวานผมได้ Live ไปแล้ว) จากนี้โอกาสที่จะลงหลุดร่วงจนถึง 1 พันจุด เริ่มน้อยลง และน่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นไปเหนือ 1,150 จุดได้ไม่ยากนัก เรื่องนี้ต้องขอบคุณมาตรการของ ตลท. ที่ออกมาทันท่วงทีด้วย
.
ประกิต สิริวัฒนเกตุ
กรรรมการผู้จัดการ บล.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด(มหาชน)
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
