9 เม.ย. เวลา 23:56 • สุขภาพ

🪞กระจกสะท้อนรัก: 7 วันเพื่อการกลับมาเข้าใจตัวเอง 💜

สวัสดีค่ะทุกคน ลูกหว้า สุทินา จากเพจ The Love Mirror วันนี้อยากแบ่งปันเรื่องราวและแนวทางที่ได้จากทั้งประสบการณ์ส่วนตัวและการศึกษาเล่าเรียน ที่ตกผลึก เป็นเรื่องราวดี ๆ ที่อยากจะเขียนเป็นบทความมาแบ่งปันให้กับทุกคนค่ะ 
เคยไหมคะ ที่เรารู้สึกว่าแม้ภายนอกเราจะดูเข้มแข็ง ประสบความสำเร็จ แต่ภายในกลับยังรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ขาดหายไป? เหมือนเป็นความว่างเปล่าที่ไม่มีอะไรเติมเต็มได้
ตัวผู้เขียนเองก็เคยผ่านจุดนั้นมาค่ะ... แม้จะมีหน้าที่การงานที่มั่นคง แต่ทุกเช้าเมื่อตื่นขึ้นมา กลับมีความรู้สึกว่า "มีบางอย่างไม่ถูกต้อง" จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่หายไปก็คือ "การกลับมาอยู่กับตัวเอง" และ "การมองเห็นตัวเองอย่างแท้จริง"
จากจุดนั้นเอง ทำให้ได้เกิดการศึกษา แนวทาง "NOTE TO SELF" โปรแกรม 7 วันสำหรับการ กลับมารักและเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง ซึ่งผลคือตัวผู้เขียนได้นำมาใช้อย่างต่อเนื่องคิดทบทวนแบบนี้แล้วทำให้ค้นพบการกลับมารักตัวเองอย่างแท้จริงได้ค่ะ  โดยโปรแกรมนี้มีชื่อว่า:
โปรแกรม 7 วัน เพียงวันละ 5 นาที ✔️
แนวทางนี้เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ค่ะ เพียงแค่สละเวลา 5 นาทีต่อวัน ต่อเนื่อง 7 วัน เพื่อกลับมาอยู่กับตัวเอง
✨ วันที่ 1: ทุกสิ่งไม่เที่ยง จงเห็นคุณค่าของปัจจุบัน
นั่งลงสักครู่ และลองนึกถึงความจริงที่ว่า ทุกสิ่งในชีวิตล้วนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความสุขมาแล้วก็ไป ความทุกข์มาแล้วก็ผ่านเช่นกัน
ตัวผู้เขียนเองเคยยึดติดกับความเศร้าจากการสูญเสียคนที่รักอย่างมาก จนลืมมองว่า ทุกวันที่ผ่านไป ยังมีความงดงามและของขวัญเล็กๆ น้อยๆ รอให้เราได้ค้นพบ
*แบบฝึกหัด:* หลับตาและตั้งนาฬิกา 3 นาที ให้คุณคิดถึงสิ่งที่กำลังผ่านพ้นไปในชีวิต แล้วตามด้วยอีก 2 นาทีในการระบุสิ่งดีๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างน้อย 3 อย่าง เขียนลงไปในสมุดบันทึก
"ความเปลี่ยนแปลงไม่ใช่สิ่งที่ต้องกลัว แต่เป็นโอกาสให้เราได้เห็นความงดงามในรูปแบบใหม่"
✨ วันที่ 2: คุณไม่ใช่ความคิดของคุณ คุณคือผู้เฝ้าสังเกต
บ่อยครั้งเหลือเกินที่เรามักจะหลงเชื่อทุกความคิดที่ผุดขึ้นมา โดยเฉพาะความคิดในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเอง เช่น "ฉันไม่เก่งพอ" "ฉันทำอะไรก็ผิดพลาด" "ไม่มีใครรักฉันหรอก"
แต่ความจริงแล้ว คุณไม่ใช่ความคิดของคุณ! คุณคือผู้ที่รับรู้และสังเกตความคิดเหล่านั้นต่างหาก
ตัวผู้เขียนเองเคยทุกข์ใจมากกับความคิดลบที่ว่า "ฉันไม่ดีพอ, ทำไมฉันต้องถูกเลือกให้ผิดหวัง เสียใจ" จนกระทั่งเริ่มฝึกสังเกตความคิดโดยไม่ยึดติด ค่อยๆ พบว่าความคิดนั้นเป็นเพียงเมฆหมอกที่ลอยผ่านไป ไม่ใช่แก่นแท้ของตัวเรา
*แบบฝึกหัด:*นั่งในที่เงียบสงบ 5 นาที เฝ้าสังเกตความคิดที่ผ่านเข้ามา โดยไม่ตัดสิน ไม่ยึดติด เพียงแค่รับรู้ แล้วปล่อยให้มันลอยผ่านไป เหมือนกำลังดูเมฆลอยผ่านท้องฟ้า จดบันทึกความคิดที่เกิดขึ้นซ้ำๆ
"เราไม่ใช่พายุ เราคือท้องฟ้าที่พายุผ่านมาแล้วผ่านไป"
✨ วันที่ 3: ความอยาก ความโลภ ความคาดหวังเป็นสารตั้งต้นของความทุกข์
ความอยากและความคาดหวังมักเป็นต้นตอของความทุกข์ในชีวิต เราอยากให้ชีวิตเป็นไปในรูปแบบที่เราวาดฝัน เราคาดหวังให้คนอื่นทำตามที่เราต้องการ
ตัวผู้เขียนเองเคยทุกข์ใจมากเพราะวางแผนชีวิตไว้อย่างดี คาดหวังว่าจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ได้แน่นอน ทั้งๆที่มุ่งมั่นและตั้งใจเป็นอย่างดี แต่แล้วทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คิด ความผิดหวังครั้งนั้นทำให้ดิฉันเข้าใจว่า บางครั้งการปล่อยวางแผนและความคาดหวัง กลับนำมาซึ่งของขวัญล้ำค่าที่ไม่คาดคิด
*แบบฝึกหัด:* ลองสำรวจความอยากหรือความคาดหวังที่ทำให้คุณทุกข์ใจในขณะนี้ เขียนลงในสมุดบันทึก จากนั้นถามตัวเองว่า "หากปล่อยวางความอยากนี้ ฉันจะรู้สึกอย่างไร" และ "มีทางเลือกอื่นที่อาจนำความสุขมาให้ฉันหรือไม่"
"บางครั้งการปล่อยวางสิ่งที่เราอยากได้ คือการเปิดประตูให้สิ่งที่เราจำเป็นต้องมี"
✨วันที่ 4: ความกตัญญูเป็นยาถอนพิษ
ความกตัญญูคือเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยถอนพิษออกจากจิตใจที่เต็มไปด้วยความคิดลบและความวิตกกังวล ความกตัญญูในที่นี้ไม่ใช่แค่การความกตัญญูต่อบิดามารดาเพียงเท่านั้น  แต่รวมถึงการรู้สึกขอบคุณต่อทุกสิ่งที่คุณมีในขณะนี้ ต่อสิ่งที่คุณได้รับในขณะที่ปัจจุบัน  แม้บางเรื่องจะเป็นเรื่องเล็กน้อยและเรียบง่าย ความเรียบง่ายเนี่ยแหละคือสิ่งที่มีค่าต่อการได้รับความขอบคุณจากเรา เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูในสิ่งที่เรามีอยู่แล้วในรูปแบบที่ดีมาก 
ตัวผู้เขียนเอง ในอดีตเป็นคนคิดเยอะ คิดมากและวิตกกังวล กับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่เมื่อเริ่มฝึกฝนการมองเห็นและซาบซึ้งในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวจึงเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจอย่างน่าอัศจรรย์
*แบบฝึกหัด:* ทุกเช้าและก่อนนอน ให้เขียนสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณอย่างน้อย 3 อย่าง โดยเน้นที่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น รอยยิ้มของคนแปลกหน้า กลิ่นกาแฟหอมๆ แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า
"ความกตัญญูเปลี่ยนสิ่งที่เรามีให้เป็นสิ่งที่เพียงพอ"
✨ วันที่ 5: เราคือผู้เก็บเกี่ยวสิ่งที่เราหว่าน
ทุกความคิด คำพูด และการกระทำของเรา เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่เราหว่านลงไปในดิน สักวันหนึ่ง มันจะงอกงามและกลับมาหาเรา
ตัวผู้เขียนเองเคยมีช่วงเวลาที่มองโลกในแง่ร้าย พูดจาตรงไปตรงมาตามที่คิด ใจร้อน โดยขาดการไตร่ตรองที่ดี และบางครั้งอาจทำให้เผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป ซึ่งอาจจะทำร้ายจิตใจคนที่รับฟัง ผลลัพธ์คือ ชีวิตเต็มไปด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นและความเครียด จนกระทั่งเริ่มเปลี่ยนแปลงสิ่งที่หว่าน โดยเริ่มจากความคิดและคำพูดที่เมตตาทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น
*แบบฝึกหัด:* สำรวจว่าวันนี้คุณได้ "หว่าน" อะไรลงไปบ้าง ทั้งความคิด คำพูด และการกระทำ จดบันทึกและไตร่ตรองว่า เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นจะเติบโตเป็นอะไรในอนาคต มีสิ่งใดที่คุณอยากเปลี่ยนแปลงหรือไม่
"แทนที่จะกังวลกับผลลัพธ์ จงใส่ใจกับสิ่งที่คุณกำลังหว่านในปัจจุบัน"
✨วันที่ 6: ดังนั้นจงหว่านเมล็ดด้วยความตั้งใจ
ชีวิตของเราจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับเมล็ดพันธุ์ที่เราเลือกหว่าน และความตั้งใจในการบ่มเพาะมัน
ตัวผู้เขียนเองเคยมีปัญหาความสัมพันธ์ซ้ำซาก ทุกครั้งที่เริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ มักจะนำความกลัวและบาดแผลจากอดีตมาด้วย จนกระทั่งตระหนักว่า เรากำลัง "หว่าน" ความกลัวและความไม่ไว้ใจ จึงเริ่มเปลี่ยนมาหว่านความไว้วางใจ ความเปิดกว้าง การให้อภัย และความมีเมตตาแทน
*แบบฝึกหัด:*ใคร่ครวญถึงสิ่งที่คุณอยากเห็นเติบโตในชีวิต แล้วตั้งใจที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์ที่สอดคล้องกับสิ่งนั้น วันนี้คุณจะหว่านอะไร เพื่อให้อนาคตเป็นไปตามที่คุณปรารถนา?
"เมื่อคุณตั้งใจหว่านความรัก ความเมตตา และการให้อภัย คุณจะพบว่ามีดอกไม้งอกงามในทุกที่ที่คุณก้าวเดิน"
✨ วันที่ 7: จิตใจสามารถฝึกได้และการฝึกเริ่มต้นวันนี้
จิตใจของเราเปรียบเสมือนกล้ามเนื้อ ยิ่งฝึกฝน ยิ่งแข็งแรง การฝึกจิตให้สงบ มั่นคง และเปี่ยมด้วยเมตตาไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในวันเดียว แต่เป็นการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
ทุกครั้งที่คุณสังเกตความคิดโดยไม่หลงไปกับมัน ทุกครั้งที่คุณเลือกความคิดเชิงบวกแทนความคิดเชิงลบ ทุกครั้งที่คุณแสดงความเมตตาต่อตัวเองและผู้อื่น คุณกำลังฝึกจิตของคุณให้แข็งแกร่งขึ้น
*แบบฝึกหัด:*ทบทวนสิ่งที่คุณได้เรียนรู้และฝึกฝนมาตลอด 6 วันที่ผ่านมา เขียนลงในสมุดบันทึกว่า คุณจะนำการฝึกฝนเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร วางแผนการฝึกอย่างต่อเนื่องที่เหมาะกับชีวิตของคุณ
"การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้เกิดจากการกระทำครั้งใหญ่ครั้งเดียว แต่เกิดจากการทำสิ่งเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอ"
⭐️ สะท้อนความรู้สึกหลังจาก 7 วัน
ตัวผู้เขียนเองเชื่อว่า การเยียวยาตัวเองอย่างแท้จริงไม่ใช่การก้าวข้ามความเจ็บปวดหรือปัญหาอย่างรวดเร็ว แต่เป็นการกล้าเผชิญหน้ากับมันอย่างอ่อนโยนและด้วยการยอมรับ
ทุกคนในโลกนี้ล้วนแสวงหาความสุขและหลีกหนีความทุกข์ ไม่มีใครที่ต้องการความเจ็บปวด แต่บางครั้ง เราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความรู้สึกเหล่านั้น เพื่อให้มันสอนบทเรียนและปล่อยเราไป
หากคุณกำลังรู้สึกหลงทาง สับสน เสียใจหรือเจ็บปวด ขอให้รู้ว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์ คุณไม่ได้อยู่คนเดียว และคุณไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด การกลับมารักตัวเองอาจเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยว แต่เป็นเส้นทางที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิต
💜ความห่วงใยจากเพจ The Love Mirror
เราเชื่อว่า ทุกคนมีความสามารถในการเยียวยาตัวเองและเติบโตจากความเจ็บปวด แต่บางครั้ง เราอาจต้องการกระจกที่สะท้อนให้เห็นความงดงามและพลังที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเรา
ขอเพียงแค่คุณเริ่มต้น แม้เพียง 5 นาทีต่อวัน การเปลี่ยนแปลงจะค่อยๆ เกิดขึ้น อาจไม่ใช่วันนี้หรือพรุ่งนี้ แต่สักวันหนึ่ง คุณจะหันกลับมามองและประหลาดใจกับการเดินทางของตัวเอง
"กระจกสะท้อนรักที่แท้จริงอยู่ภายในตัวคุณ เพียงแค่คุณกล้าที่จะมองมัน"
ด้วยความรักและความเชื่อมั่นในตัวคุณ
ลูกหว้า สุทินา เพจ The Love Mirror
*หากคุณกำลังประสบปัญหาด้านความเครียด วิตกกังวล รู้สึกทุกข์กับเรื่องราวที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน  ต้องการหาคนรับฟังและคนเข้าใจคุณอย่างแท้จริง โปรดพิจารณาลูกหว้า ซึ่งคือตัวผู้เขียนค่ะ ผู้เขียนเป็นโค้ชชีวิต รับปรึกษาปัญหาชีวิต ความสัมพันธ์ การพัฒนาตัวเอง สุขภาพจิต และการเยียวยาทางจิตใจ สำหรับบุคคลและองค์กร | Life & Relationship Coaching, Mental Health, Wellness & Psychological Healing
ลูกหว้าเปิด Healing Coaching แล้วนะคะ ใครอยากคุยกับคนที่เข้าใจจริง ๆ ทักมาได้เลย 💌 อยู่ข้างคุณเสมอค่ะ หรือศึกษาประวัติและรายละเอียดงานที่เปิดรับเพิ่มเติมใน Website Fastwork  ได้เลยค่ะ คลิกลิ้งค์ที่นี่ 👇🏻
https://fastwork.co/user/lookwahbliss/counseling-84815354?source=seller-center_my-service_share-link
เพราะความช่วยเหลือ อาจเป็นสิ่งจำเป็นในบาง
กรณี ลูกหว้าปรารถนาให้ทุกคนมีความสุขอีกครั้ง* #บทความ #ความสุข #สุขภาพจิต #ฮีลใจ #พลังบวก #ที่ปรึกษา #พัฒนาตนเอง
โฆษณา