10 เม.ย. เวลา 17:09 • ความคิดเห็น
..จุดหมายปลายทาง ..จิตเดินทางสู่ ธงชัยพระอรหันต์ ก่อนเข้าพระนิพพาน .เทพทุกพระองค์ ก็อยากไปแดนพระนิพพาน แต่ยังไปไม่ถึง ต้องลงมาเกิดสร้างบุญกุศลบารมี ชำระสะสางกรรมของตนเองที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ ..เป็นเทพได้ ..ก็ด้วยบุญกุศลพยุงจิต อยู่ ..บุญกุศลละลายเหมือนน้ำแข็ง ละลายหมด ก็ต้องลงมาเกิด.แต่เป็นเทพดีหน่อย เลือกสถานที่เกิด เลือกพ่อแม่ได้ เพราะต้องอาศัยกายพ่อแม่เป็นมนุษย์ มาสร้างบุญกุศลบารมี เค้าก็มองเห็นรู้จักพระคุณพ่อแม่ ที่ให้ธาตุทั้งสองมา นำมาสร้างบุญกุศล มีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่
1
..จิตที่มาจากอบายภูมิ มาได้กายเป็นมนุษย์ ..เค้าก็จะไม่สนใจ ที่จะตอยแทนพระคุณพ่อแม่ เหมือนที่เราเห็นสัตว์ทั่วไป พอโตขึ้น ก็แยกย้ายไปหากิน จากพ่อจากแม่ ไม่รู้จักพ่อแม่ บ้างก็กัดพ่อแม่ ที่อุ้มท้องมา ให้นมปกป้องชีวิตน้อยๆให้โต ..โตแล้ว ก็เรียกคำว่าพ่อแม่ไม่ได้ .
มันมีเรื่องราวที่แปลก เมื่อนำกายไป กราบพระ มีคนหนึ่ง ..พระท่านบอกให้ พูดซิ .พูดหน้าพระ ..จิตของข้าพเจ้า อาศัยอยู่ในเรือนกายของคุณบิดามารดา ข้าพเจ้าของนำกายบิดามารดามากราบพระ ..เค้าก็พูดออกมา ..เป็นเสียงอะไรก็ไม่รู้ ..พูดคำว่าบิดามารดาให้หูตัวเองได้ยินชัดๆไม่ได้ ..พูดที่อื่นได้ พูดหน้าพระไม่ได้ ..อึกอักๆ เกิดขึ้น..แล้วจิตดวงนี้ จะไปอยู่ที่ไหน เมื่อหมดกายมนุษย์
เรื่องราวการที่จะยุติ การเกิดนั้น ควรศึกษา เรื่องราวชาดกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องการบำเพ็ญทานบุญบารมี มาจากอดีตชาติ ต่อเนื่องกันมา ทำความเข้าใจ ในเรื่องราวของการให้ทานในสมัยพระเวสสันดร ที่จนมาถึงชาติพระสิทธัตถะ ทำไมต้องไปอยู่ป่า .ทำไมต้องไปคนเดียว ไปนั่งเป็นตุ๊กตา .ในป่า..รอยของท่านในป่านั่นทำอะไรบ้าง ..จนสำเร็จเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำไมท่านไม่นั่งตรัสรู้ในเวียงวัง ห้อมล้อมด้วยข้าทาสบริวาร
คราวนี้ ในเรื่องราวของการที่เข้าป่า ทิ้งทุกอย่าง ทิ้งโลภโกรธหลง ..ไม่พัวพันกับโลกอีก ไปอยู่ป่า ฉันผลไม้ใบไม้ ไปทำความเพียร ไม่ยึดกาย นั่งนิ่ง จิตเฉย ด้วยความขันติอดทน ให้มีปัญญาของจิต ตัดขาด ..ไม่ยึดติดเรื่องต่างในกาย นั่งนิ่ง เป็นวันเป็นขึ้น อากาศหนาวเหน็บ ฝนตกแดดออก นั่งไม่ลุกไปไหน ..มีสติในสิ่งที่เกิดขึ้น ..ว่าสิ่งต่างๆ อารมณ์ต่างนั่น มันมาจากไหน ก็ไม่ไปยึดถือ
มันมีเรื่องราวต่างๆที่ว่าไหลออกจากธาตุทั้งสี่ เป็นอารมณ์ ไหลขึ้นไปที่ศีรษะ ตาหูจมูลิ้นกายใจ .มีอารมณ์โลภโกรธหลง มีแสงมีสีมีเสียงมีภาพ ให้จิตนั้นพิจารณา .เรื่องนี้ เรื่องของกรรม ของโลก ..จะไปหาธรรม จิตก็เฉยไม่ยึดสิ่งต่างๆ ที่สะสมมาในอดีต กับธาตุทั้งสี่ ..ที่ต้องทำให้ธาตุนั้นเป็นแก้วเจียรไน .ไม่มีมลทิน เหมือนเป็นหนี้ .ที่ต้องมาเกิดอีก
การที่จะไปเข้าป่า ไปนั่งเป็นตุ๊กตาในป่าได้ ท่านก็สะสมคำว่า ทานบุญกุศลบารมี สะสมปัญญาธรรม มาเป็นเอนกชาติกันทั้งนั้น
นั้นก็คือ เราเรียนรู้ศึกษา แนวทางที่ท่านกระทำ ..ทาน บุญ บารมี .. เราสะสมมามากน้อยแค่ไหน แล้วในชาตินี้ เราใช้กายที่พ่อแม่ให้อาศัย เอาไปทำอะไรบ้าง เราก็นำกายพ่อแม่ นั้นมาสร้างบุญกุศล ..การสร้างบุญนั้นทำอย่างไร จึงจะเกิดที่ว่าเป็นบุญเกิดขึ้น ที่ว่าให้กายเป็นบุญ ไปจนเรียนรู้จักว่า กายบุญนั้นเป็นอย่างไร
เมื่อ่าเกิดเป็นกายบุญ การนำกายมาประพฤติปฏิบัติธรรม .อุปสรรคต่างๆมันก็น้อยลงไป สามารถทำให้กายนั่นนิ่ง จิตนิ่งได้ ..ก็จะเกิดในสิ่งที่ว่า แสงธรรมนั้ส่องลงมาที่จิต ให้เราในศึกษาเรื่องราวต่าง เป็นมะโนทะศึกษา ที่ว่า เรื่องโลก เรื่องธรรม เรื่องกรรม เรื่องจิต ..เรื่องวิญญาณทั้งหก เรื่องราวของอารมณ์ . ที่เค้าว่า ทำธาตุทั้งสี่ให้เป็นแก้ว วิญญาณทั้งหก ก็เป็นแก้ว สะอาดสะอ้าน บริสุทธิ์ .
แล้วเรื่องหนึ่ง ที่ชาติสุดท้าย .จิตที่สะสมบุญกุศลบารมีมาเต็มที่ ท่านสร้างบุญกุศลบารมี ขึ้นไปอยู่ขั้นดุสิต ดาวดึงส์ ..ไปรอพระอาทิตย์ขึ้น .รอหลวงพ่อองค์พระศรีลงมาจุติ ตรัสรู้ ..มีพระอาทิตย์เกิดขึ้นในโลก จิตที่เป็นดอกบัว พร้อมจะบาน ก็ลงมาจุติ .เพื่อรับแสง สลัดเศษของกรรมที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ นั่นให้หมดสิ้น ..ไม่มีเหตุ ไม่มีภาระอะไรอีกแล้วกับธาตุทั้งสี่ ที่ต้องเกิด ..ยุติการเกิดได้
.แม้บรรลุธรรมแล้ว ก็ต้องพยุงสังขาร ไปจนครบสัญญากับดินฟ้าอากาศ เหมือนว่า ต้องเจียระไนแล้วเจียระไนอีก ก่อนเข้าพระนิพพาน หากพยุงสังขารไปไม่ครบสัญญา ก็ต้องกลับมาเกิดใหม่อีก..เริ่มต้นใหม่อีก มีพระอรหันต์ หลายพระองค์ ท่านยังมีสังขารที่บริสุทธิ์อยู่ ท่านอยู่ในสถานที่ ที่เข้าไปไม่ถึง บางพระองค์ท่านก็ อธิษฐานตอบแทนพระคุณพระพุทธเจ้า อยู่พยุงพระศาสนา ไปจนครบห้าพันปี ..
..เรื่องราวของพระอเสขะ ท่านก็เรื่อนรู้บรรลุธรรม หมดแล้ว แต่ยังสะสางกรรม ที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ ยังไม่หมด ท่านก็ต้องกลับมาเกิดใหม่ ชำระสะสางกรรมของท่านให้หมดจด
เรื่องราวที่เล่ามา อย่าเชื่อ ..ก็ทำไปตามที่ท่านบอกว่า ทำด้วยกายวาจาใจของตนเอง สร้างบุญกุศลขึ้นมา .สร้างบุญฝากไว้ ในศาสนาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะได้มีสัญญา บันทึกไว้กับธาตุทั้งสี่ของจิต ..เกิดมา พบพระศาสนา สร้างบุญกุศลต่อไปทุกชาติ ..เดินตามรอยของพระ สะสมไปทุกชาติ ให้ได้กายพ่อแม่เป็นมนุษย์ มีความกตัญญูรู้คุณ .ขอให้พบพบธรรมโลกุตระ เพื่อสร้างบุญกุศลบารมี หนีกรรมไปทุกชาติ ..
..เรื่องหนึ่ง ที่เรานั่นยากจะได้เรียนรู้ . เรื่องราวของพระ ..ท่านสอนวิชาพายเรือ .เมื่อได้กายเป็นมนุษย์ ครบอาการสามสิบสอง ..ก็นำมาฝึกหัดพายเรือขึ้น ..พายเรือทวนกระแสน้ำ ขึ้นไปหาท่าของบุญกุศลบารมี ไปพักจิตที่นั้น .. ไม่ต้องมีภาระ ไปหาน้ำเลือดน้ำหนองมาหล่อเลี้ยงกาย มีกายเป็นเทพยดาอินทร์พรหม มีแสงของบุญหล่อเลี้ยง มีความสุข
เมื่อ..หมดบุญ ก็ลงมาเกิดใหม่ ..มาพายเรือใหม่ ..พายทวนน้ำ ..ขึ้นไปใหม่ ..เรือที่จะนำมาพายทวนน้ำ ต้องต่อมาด้วยคำว่า บุญกุศลบารมี ..บำเพ็ญจิต อยู่ในคำว่า สมาธิ ปัญญา คัดเอ้าท์กรรม
เรื่องของจิต ..นั่นหมดกาย ..ก็ไปหาที่เกิด .เกิดในนรก สัตว์ เปรต อสุรกาย .ทำไมไปเกิดในมีกายอย่างนั้น แล้วอะไรทำให้ต้องไปเกิด เป็นเทพยดาอินทร์พรหม ..ใครนำพาไปเกิด ..
เรื่องราวคำสอนขององค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ชี้ทางเดิน ..ชี้ชองทางไว้ไห้ จิตที่ไม่สะสมบุญกุศลมา ..ก็ไม่สามารถ จะนำกายมาสร้างเป็นบุญบุญกุศลบารมี เพื่อขยับขยายจืิต ปลดเปลื้อง อารมณ์กรรมออกไปจากกายจากจิตได้ ที่จะช่วยให้จิต นั่นเบาบางจากกรรมได้
แล้วทางเส้นนี้ ..ก็จะเลือนหายไป จะมีแต่ทางที่เกิดมา สร้างแต่เวรกรรม ปฏิเสธเรื่องราวการสร้างบุญกุศลบารมี จึงเห็นเกจิอาจารย์ ..ท่องมนต์คาถา ให้คนเค้าไปบูชา ร่ำรวยๆ ที่ว่ามีแต่นักบวชจูงผี ที่จะจูงคนนั้น หายากมากๆ บ้างก็เขียนตำรับตำรา เจ็ดวันบรรลุธรรม ..เก่งกว่าพระพุทธเจ้าเยอะแยะเลย ..
โฆษณา