[PPTV Wealth] ปมศึก! เนสกาแฟ ผู้บริโภคหวั่นสินค้า ขาดตลาด เลิกขาย? ปมร้อนศึกฟ้องร้องระหว่างตระกูลมหากิจศิริ กับ เนสท์เล่ และกำลังจะทำให้แบรนด์กาแฟสำเร็จรูป “เนสกาแฟ” ขาดตลาด !!!

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

11 เม.ย. เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ปมศึก! เนสกาแฟ ผู้บริโภคหวั่นสินค้า ขาดตลาด เลิกขาย?

ปมร้อนศึกฟ้องร้องระหว่างตระกูลมหากิจศิริ กับ เนสท์เล่ และกำลังจะทำให้แบรนด์กาแฟสำเร็จรูป “เนสกาแฟ” ขาดตลาด !!!

ปมร้อนศึกฟ้องร้องระหว่างตระกูลมหากิจศิริ กับ เนสท์เล่ และกำลังจะทำให้แบรนด์กาแฟสำเร็จรูป “เนสกาแฟ” ขาดตลาด หลังศาลแพ่งมีนบุรี มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามมิให้เนสท์เล่ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์เนสกาแฟแต่เพียงผู้เดียว ดำเนินการผลิต ว่าจ้างผลิต จำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูป โดยใช้เครื่องหมายการค้าเนสกาแฟ Nescafé ในประเทศไทย จนทำให้ผู้บริโภคกังวลว่าจะขาดตลาด

ปมร้อนศึกฟ้องร้องระหว่างตระกูลมหากิจศิริ กับ เนสท์เล่ และกำลังจะทำให้ เนสกาแฟ ขาดตลาด !!!

ย้อนดูปมฟ้องร้อง

●
ปี 2564 เนสท์เล่ แจ้งยุติสัญญาให้สิทธิ บริษัท ควอลิตี้คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP)
●
31 ธ.ค.ปี 67 การยุติสัญญานี้มีผลสมบูรณ์ทางกฎหมาย

ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯทั้งสองฝ่ายไม่สามารถตกลงเรื่องการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท QCP ได้

●
มี.ค. - เม.ย. ปี 2568 นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อดำเนินคดีแพ่งกับบริษัทในเครือเนสท์เล่ และกรรมการ
●
3 เมษายน 2568 ศาลแพ่งมีนบุรี ได้ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามผลิต ขาย นำเข้า ภายใต้แบรนด์เนสท์เล่

จากนั้น เนสท์เล่ ออกแถลงการณ์ออกมาว่ายังไม่มีโอกาสเสนอข้อเท็จจริงต่อศาลก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งดังกล่าว แต่ให้ความเคารพต่อกฎหมายและได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลฉบับนี้ และจะเร่งแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างเร็วที่สุด รวมถึงการยื่นคำร้องคัดค้าน เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวต่อศาล พร้อมยื่นข้อมูลที่ครบถ้วนแก่ศาลแพ่งมีนบุรีเพื่อการพิจารณาคำร้อง เนสท์เล่ยังแสดงความเป็นห่วงลูกค้ารายย่อย ต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอีกด้วย

การเข้ามาของ เนสท์เล่ ในประเทศไทย

เนสท์เล่ เข้ามาในเมืองไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2436 ยาวนานกว่า 130 ปี แรกเริ่มผลิตนมข้นหวาน ชื่อ แหม่มทูลหัว ตั้งโรงงานปี พ.ศ.2510 และขยายโรงงานจนปัจจุบัน บริษัทเนสท์เล่ ประเทศไทย มีโรงงานทั้งหมด 8 แห่ง ซึ่งผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ทั่วประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียง เช่น เนสกาแฟ เนสท์เล่ตราหมี ไมโล เนสท์เล่เพียวไลฟ์ เนสวิต้า แม็กกี้ และเนสท์เล่ไอศกรีม ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงของเนสท์เล่

ร่วมทุนกับตระกูลมหากิจศิริ

การร่วมทุนกับตระกูลมหากิจศิริ ภายใต้ บริษัท ควอลิตี้คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด (QCP) เพื่อทำ เนสกาแฟ ในปี พ.ศ. 2532 จดทะเบียนธุรกิจ เป็นผู้ผลิตอุตสาหกรรมกาแฟสำเร็จรูป ทุนจดทะเบียน 500 ร้อยล้านบาท ในสัดส่วน 50:50 ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่คือคนในตระกูลมหากิจศิริ โดยเฉลิมชัย มหากิจศิริ 41.80% ผลประกอบการปี 2566 รายได้อยู่ราว 17,000 ล้านบาท กำไรกว่า 3 พันล้านบาท

ย้อนดูรายได้รวมตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 ตามข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

●
ปี 2562 รายได้ 15,177 ล้านบาท กำไร 3,389 ล้านบาท
●
ปี 2563 รายได้ 15,772 ล้านบาท กำไร 3,683 ล้านบาท
●
ปี 2564 รายได้ 15,459 ล้านบาท กำไร 3,704 ล้านบาท
●
ปี 2565 รายได้ 17,115 ล้านบาท กำไร 3,403 ล้านบาท
●
ปี 2566 รายได้ 17,183 ล้านบาท กำไร 3,067 ล้านบาท

จะเห็นว่ารายได้และกำไรอยู่ในระดับทรงตัว โดยเมื่อเทียบระหว่างปี 2566 กับ 2565 กำไร ลดลง -9.84%

ขณะที่ นีลเส็นไอคิว มีข้อมูลว่า ตลาดกาแฟสำเร็จรูป และกาแฟพร้อมดื่มในประเทศไทยโดยรวมปี 2566 อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท โต 3 - 5% ในขณะที่ภาพรวมปี 2567 คาดว่าโตประมาณ 5% และตลาดกาแฟสำเร็จรูปในไทยไตรมาสแรกของปี 2567 มีมูลค่าตลาดโดยรวม 5,700 ล้านบาท และเติบโต 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน เนื่องมาจากความต้องการที่สูงของผู้บริโภคชาวไทย

“เนสท์เล่” ถือเป็นยักษ์ใหญ่เบอร์หนึ่งโลก

ขณะที่ “เนสท์เล่” เองถือเป็นยักษ์ใหญ่ ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุม 185 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย และมีแบรนด์สินค้ามากกว่า 2,000 แบรนด์

ที่มา : เนสท์เล่ / กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/trick-trend/246629

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com

และช่องทาง Social Media

Facebook PPTV Wealth : https://www.facebook.com/PPTVWealth/

YouTube Wealth : www.youtube.com/@PPTVWealth

โฆษณา

ปมศึก! เนสกาแฟ ผู้บริโภคหวั่นสินค้า ขาดตลาด เลิกขาย?

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน