11 เม.ย. เวลา 06:30 • การเมือง

“สรวงศ์” วอนเลิกพูดโมโตจีพีแลกกาสิโน เผย ยอดนักท่องเที่ยวสงกรานต์เริ่มกลับมาสูง

“สรวงศ์” ชี้ ยอดนักท่องเที่ยว-เที่ยวบินเริ่มกลับมาสูง เชื่อเม็ดเงินสะพัดสงกรานต์ แตะ 26,500 ล้าน ขอคนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดี รับ อยากให้เอกชนช่วยรัฐมากกว่านี้ปมต่อสัญญาโมโตจีพี หลังช่วยตั้งไข่มา 7 ปีแล้ว ขอเลิกพูดแลกกาสิโน
วันที่ 11 เมษายน 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงความมั่นใจช่วงโค้งสุดท้ายนักท่องเที่ยวก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ 2568 หลังประเทศไทยเกิดเหตุแผ่นดินไหว ว่า ขอพูดตรงๆ จะบอกว่าไม่ส่งผลกระทบเลยก็ไม่ใช่ เพราะจากการติดตามตัวเลขนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมถึงจำนวนเที่ยวบินที่มีการยกเลิกพอสมควร แต่ช่วงนี้พอถึงใกล้วันสงกรานต์ตัวเลขเหล่านั้นกลับมา
ทั้งนี้ ในวันที่ 10 เมษายน 2568 สนามบินสุวรรณภูมิ มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทยเป็นจำนวนมาก จนทำให้สนามบินเกือบแตก ถือว่ามีทั้งขึ้นและลง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวตนมองว่าคล้ายกับสถานการณ์ช่วงที่นักแสดงจีนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกข้ามแดนไปยังชายแดนไทย-เมียนมา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ยังไม่เคยมาเที่ยวประเทศไทย
และมาแบบกรุ๊ปทัวร์ ยืนยันว่าตัวเลข ณ ขณะนี้ไม่มีความน่าเป็นห่วง และขอเชิญชวนคนไทยให้ออกมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นเทศกาลที่คนไทยให้ความสำคัญ และเป็นกิจกรรมนอกอาคาร เพราะฉะนั้นขอให้ออกมาสนุกสนานกัน แต่ขอเน้นย้ำให้เป็นเจ้าบ้านที่ดี การทะเลาะวิวาทและการแต่งกายไม่เหมาะสม ฝากขอให้คำนึงภาพลักษณ์ของประเทศด้วย
ผู้สื่อข่าวถามต่อ รัฐบาลตั้งเป้าสงกรานต์ปีนี้ว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณเท่าไหร่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า หากเปรียบเทียบกับปี 2567 ที่รัฐบาลมีระยะเวลาการเตรียมงานได้ไม่นาน คาดว่าปีนี้จะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 26,500 ล้านบาท
ส่วนกลุ่มประเทศนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา คาดว่าจะเป็นกลุ่มประเทศที่ไม่เคยเข้าไทยมาก่อน เช่น ประเทศอินเดีย เพราะเรามีวัฒนธรรมประเพณีคล้ายๆ กับอินเดีย เช่น ประเพณีสาดสีของอินเดีย แต่ของไทยมีสาดน้ำ โดยขณะนี้อินเดียเริ่มมีการสาดน้ำกันแล้ว จึงทำให้อาจมาดูว่าต้นฉบับของการสาดน้ำสงกรานต์เป็นอย่างไร
นอกจากนี้ นายสรวงศ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพูดคุยการต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพจัดโมโตจีพี ว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำลังดำเนินการอยู่ อยากให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่านี้ การเป็นกีฬาอาชีพเมื่อรัฐช่วยตั้งไข่ขึ้นมาแล้ว จัดมาแล้ว 7 ปี ภาคเอกชนต้องเข้ามา เมื่อดูจากตัวเลขยอดผู้ชมและเม็ดเงินที่ทำได้ในช่วงแข่งขันโมโตจีพี มองว่าถ้าภาคเอกชนมีส่วนร่วมมากกว่านี้รัฐไปได้แน่นอน อยากให้เกิดขึ้นแต่รัฐต้องจ่ายเงินน้อยลงกว่านี้
ส่วนประเด็นที่มีการมองเรื่องนี้เชื่อมโยงกับการเมือง นายสรวงศ์ ยืนยันว่าไม่เกี่ยว การเมืองคือการเมือง อย่าเอาไปปนกัน กีฬาคือกีฬา สิ่งที่เป็นอีเวนต์ลักษณะนี้เหมือนกับที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พูดว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็แล้วแต่ พูดง่ายๆ เราเป็นลูกค้าเก่า จะต่อสัญญาก็ต้องคุยกันว่ามีอะไรบ้าง มีอะไรที่จะเอื้อให้กับคนไทยบ้าง ค่าลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นปีละ 5% เราต่อรองได้หรือไม่ แค่นี้เองไม่มีอะไร
“ยืนยันไม่เกี่ยวจะถูกนำไปต่อรองกับกาสิโน ไม่เกี่ยวเลย ไม่เกี่ยวหรอกครับ จริงๆ ไม่เกี่ยวเลย และเลิกพูดเสียทีกฎหมายกาสิโน เพราะมันคือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ขอให้ดูที่ 90% อย่าดูที่ 10% เพราะมันเป็นแค่กฎหมาย ซึ่งในนามรัฐบาลออกกฎหมายมาเพื่อจะดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนเท่านั้น ไม่ใช่ว่ารัฐจะไปสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มันเป็นกรอบกฎหมายเพื่อรองรับนักลงทุนที่จะเข้ามาเสนอ ถ้านักลงทุนสนใจก็สนใจ ถ้าไม่สนใจก็ไม่มี”
นายสรวงศ์ ยังกล่าวอีกว่า โมโตจีพีจะต้องมาก่อน F1 เพราะ F1 อยู่ระหว่างทำเอ็มโอยู ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเป็นเจ้าภาพ ซึ่ง F1 กำลังมองหา street circuit ซึ่งจากประสบการณ์ของ F1 ที่มีการพูดคุยกันที่จะสร้างรายได้ให้กับประเทศและบริษัท F1 เอง มันต้องเป็น street circuit เพราะการแข่งในสนามเมื่อแข่งเสร็จก็จบ ไม่ได้มีกิจกรรมต่อ โดยการพูดคุยกับ F1 ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งจะมีการขยับเวลาไปเป็นปี 2028
โฆษณา