11 เม.ย. เวลา 09:16 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

รีวิวหนัง "เดอะสโตน: พระแท้ คนเก๊" แบบเน้นๆ

“เดอะสโตน พระแท้คนเก๊”
เป็นหนังที่กำกับการแสดง
และเขียนบทโดยเป้ อารักษ์
ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่เขาลงมือกำกับเอง
หลังจากเป็นดาราที่แสดงได้โดดเด่น
ใน 4kings และ วัยหนุ่ม
ซึ่งตัวผมเองไม่ได้อินผลงานเพลงเขาเท่าไหร่
แต่สำหรับฝีมือการแสดงก็ยอมรับว่าไม่ธรรมดา
พอได้ไปดูหนังจริงๆ ก็ต้องยอมรับไปอีกว่า
ยิ่งไม่ธรรมดากว่าเดิมที่เคยเป็น
ไม่นึกว่าจะทำหนังได้ยอดเยี่ยมทีเดียว
ทั้งที่เป็นเรื่องแรกของเจ้าตัว
โดยเป้เลือกเอาคู่หูอย่าง “จ๋าย ไททศมิตร”
มาร่วมแสดงในบทของเซียนพระ “เซ้ง พาราไดซ์”
ก่อนได้มาทราบเบื้องหลังจากปากของเป้ว่า
เซ้งเป็นชื่อของพ่อจ๋ายที่ทำมาค้าขาย
ในห้างพาราไดซ์ทางภาคใต้
เลยหยิบมาใช้ให้ดูว้าวขึ้น
ซึ่งจ๋ายก็สวมบทบาทได้อย่างสุดยอด
นับเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์คนหนึ่งทีเดียว
ทำให้ผมชื่นชอบเขามากกว่าการเป็น
โค้ชรายการ the voice หรือในบทบาท
ของนักร้องที่เป็นอยู่
ด้านดารานำในเรื่องนี้แสดงดีกันทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นน้อง “เจ้านาย” ลูกชาย
ของเจ เจตรินก็สวมบทดารานำได้ค่อนข้างดี
เป็นลูกไม้ที่หล่นไม่ไกลต้นคุณพ่อคุณแม่
“น้องอ๊ะอาย กรณิศ” สวมบทบาทเป็นเซียนหมวย
ที่สวยน่ารักและก็ซ่าส์เอามากๆ
เป็นตัวละครที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีสีสัน
และเป็นตัวเดินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ
“ฮิวโก้” ในบทชายลึกลับอย่าง “วิกเตอร์”
ก็ใช้ภาษากายในการแสดงได้อย่างถึงอารมณ์
และ “ตู่ นพพล” ที่มาไม่กี่ฉาก
แต่กระชากอารมณ์จากผู้ชม
ด้วยฝีมือระดับอาจารย์ในวงการแสดง
ทรงพลังและยิ่งใหญ่จริงๆ
ดาราประกอบคนอื่นๆ เช่น
“อั๋น สิรคุปต์ เมทะนี” ที่ห่างหายวงการไปนาน
ทำเอาเซอร์ไพรส์มากที่ดาราวัยโจ๋
รุ่น '80 อดีตพระเอกเรื่อง “เวลาในขวดแก้ว”
และ “โก้ นฤเบศร์ จินปิ่นเพชร” มาร่วมแสดง
ผอมคล้ำจนจำแทบไม่ได้
อีกทั้งดารารับเชิญ
อย่างคนที่ไม่ใช่ดาราอย่าง
“เสี่ยโบ๊ท ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์”
เจ้าของค่ายมวยและโปรโมเตอร์
สนามมวยราชดำเนิน
มาสวมบทเป็น “เสี่ยไพโรจน์”
โดยรวมดาราในเรื่องทุกคน
แสดงได้เยี่ยมมากถึงอารมณ์
บทภาพยนตร์ไม่เว่อร์ ดูสมจริง
การถ่ายภาพให้อารมณ์ภาพได้ดี
ดนตรีประกอบก็ดี การตัดต่อกระชับ
ต่อเนื่องและชวนติดตามทั้งเรื่อง ไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อ
ช่วงพีคท้ายๆเรื่อง ตรึงสะกดคนดูอยู่หมัด
และทิ้งท้ายสไตล์หนังฮอลลีวู้ด
ซึ่งผมดูแล้ว เป็นการเดินเรื่องแบบสไตล์ของ
“เควนติน ทารันติโน่” ยอดผู้สร้าง
และผู้กำกับมือฉมังของ Hollywood
จากเรื่อง Kill bill เข้าใจว่าเป้
คงชอบสไตล์นี้แน่นอนครับ
ดูจบแล้วอยากตั้งชื่อเป็นหนังจีนกำลังภายในว่า
“ศึกชิงพระเครื่อง” (555 แซวเล่นครับ)
ก็ถือว่าเป็นหนังไทยที่ดีอีกเรื่อง
อยากแนะนำให้ดูสำหรับปีนี้
ขอติที่ข้อผิดพลาดในบางประการในซีนท้ายเรื่องครับ
ไม่อยากลงรายละเอียดเพราะจะเป็นการสปอยล์หนัง
ให้คะแนน 8/10ครับ
ขอบคุณเป้ อารักษ์และทีมงาน
ที่ทำหนังดีดีมาให้ชม
หลุดจากปรักตมในอดีตอย่างไม่เห็นร่องรอย
ขอปรบมือดังๆ ให้ครับ
"มึงไม่ต้องกลัวว่าเป็นพระเก๊หรอก ขอแต่ให้มึงดูคนออกเป็นพอ"
เซียนหมวย
โฆษณา