11 เม.ย. เวลา 12:30 • ข่าวรอบโลก

จีนโต้กลับ ขึ้นภาษีสหรัฐฯ 125% สีจิ้นผิงเผย "ไม่หวั่นไหว"

จีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% เพิ่มขึ้นจาก 84% ที่ประกาศเมื่อวันพุธ ซึ่งเท่ากับอัตราภาษีปัจจุบันของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีน โดยจะมีผลในวันที่ 12 เม.ย. นี้ ขณะที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง เผย "ไม่หวั่นไหว"
คณะกรรมการภาษีศุลกากรของคณะรัฐมนตรีจีนแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า จีนได้ขึ้นภาษีตอบโต้สินค้าจากสหรัฐฯ จาก 84% เป็น 125% จากแถลงการณ์ของโฆษกกระทรวงพาณิชย์ ดูเหมือนว่าจะเป็นการบ่งชี้ว่าจีนจะไม่ขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เกินกว่า 125%
โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า "การที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีจีนสูงเกินควรติดต่อกันหลายครั้งนั้นกลายเป็นเพียงเกมตัวเลขเท่านั้น ไม่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจที่แท้จริง เป็นเพียงการเปิดโปงการปฏิบัติของสหรัฐฯ ในการใช้ภาษีเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งและข่มขู่ จนกลายเป็นเรื่องตลก"
กระทรวงการคลังของจีนระบุในแถลงการณ์ว่า "การที่สหรัฐฯ จัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตราที่สูงผิดปกติ ถือเป็นการละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศและเศรษฐกิจ กฎหมายเศรษฐกิจขั้นพื้นฐาน และสามัญสำนึกอย่างร้ายแรง และถือเป็นการกลั่นแกล้งและบังคับฝ่ายเดียวโดยสิ้นเชิง"
"หากสหรัฐฯ ยังคงยืนกรานที่จะดำเนินเกมตัวเลขต่อไปด้วยภาษีศุลกากร จีนจะไม่เล่นเกมนี้ อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐฯ ยังคงทำร้ายผลประโยชน์ของจีนอย่างจริงจัง จีนจะใช้มาตรการตอบโต้และต่อสู้จนถึงที่สุด"
ทั้งนี้ จีนเผชิญอัตราภาษี 145% สหรัฐฯ โดยทำเนียบขาวยืนยันว่า อัตราภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศไว้ที่ 125% ไม่รวมภาษีนำเข้า 20%ในช่วงต้นปีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากจีน เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่เฟนทานิล ซึ่งเป็นยาแก้ปวดที่มีเป็นสารเสพติด ทะลักเข้าสหรัฐฯ
ด้านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่าจีน "ไม่หวั่นไหว" ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นต่อสาธารณชนครั้งแรกเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ตลาดต่างประเทศตกต่ำและทำให้เกิดความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
นายสี จิ้นผิง กล่าวกับนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ของสเปน ในกรุงปักกิ่งวันนี้ ว่า "การพัฒนาของจีนต้องอาศัยการพึ่งพาตนเองและการทำงานหนักมาเป็นเวลากว่า 70 ปี ไม่เคยพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากผู้อื่น และจีนไม่กลัวการปราบปรามที่ไม่ยุติธรรมใดๆ" "ไม่ว่าสภาพแวดล้อมภายนอกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนจะยังคงมั่นใจ มุ่งเน้น และมุ่งเน้นที่การจัดการกิจการของตนเองให้ดี"
ภายหลังจากการประกาศจากจีนว่าจะตอบโต้สหรัฐฯ อีกครั้ง ตลาดหุ้นยุโรปก็เข้าสู่ภาวะลบ โดยหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงเช้าของการซื้อขาย ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามดัชนีของยุโรปก็ปรับตัวลดลง ในอังกฤษ ดัชนี FTSE 100 ลดลง 0.47% ดัชนี Cac 40 ของฝรั่งเศสลดลง 0.92% และดัชนี Dax ของเยอรมนีลดลง 1.53%
ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงเป็นสัญญาณว่านักลงทุนคิดว่าบริษัทส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเห็นผลกำไรลดลง นั่นเป็นเพราะพวกเขาเชื่อว่าภาษีที่สหรัฐฯ และจีนกำหนดขึ้นจะส่งผลให้ความต้องการสินค้าลดลงและผลักดันให้ราคาสินค้าสูงขึ้น.
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign
โฆษณา