12 เม.ย. เวลา 06:21 • หุ้น & เศรษฐกิจ

🎯 Bill Ackman คาดทรัมป์รวมกลุ่มทุบจีนใน Trade War 2.0 | กลยุทธ์ใหม่ แต่เป้าหมายเดิม

แอดมองว่า 4 โพสต์นี้จาก Bill Ackman นักลงทุนชื่อดังน่าสนใจมากๆ และเมื่อจับใจความมาร้อยเรียงกันแล้ว เห็นภาพยุทธศาสตร์การค้าโลกชัดเจนขึ้นมาก
1️⃣ โพสต์แรก Bill Ackman บอกชัดเจนว่า “เวลาไม่ใช่เพื่อนของจีน” เพราะบริษัทสหรัฐฯ กำลังพยายามถอนตัวออกจากซัพพลายเชนที่ผูกติดกับจีน ซึ่งการย้ายซัพพลายเชนนั้น ทั้งยุ่งยาก ใช้เวลา แพง แต่ถ้าย้ายได้เมื่อไหร่ ก็จะอยู่ยาว (sticky) อย่างถาวร เรียกว่าเป็นการบอกจีนเป็นนัยๆ ว่า “Tick Tock” เวลาของจีนกำลังหมดลงเรื่อยๆ
2️⃣ โพสต์ที่สอง Ackman ทำ thought experiment ขึ้นมาแบบน่าคิด โดยบอกว่าถ้าภายใน 89 วันข้างหน้า สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ยกเลิกภาษีระหว่างกันเองทั้งหมด กลายเป็นเขตการค้าเสรี แล้วหันมาเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีนแบบพร้อมเพรียงกันถึง 145% จากนั้นจึงร่วมกันตั้งโต๊ะเจรจากับจีนด้วยอำนาจต่อรองที่สูงมาก เพื่อกดดันให้จีนต้องยอมเปิดตลาดและยอมรับการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง
3️⃣ โพสต์ที่สาม Ackman อธิบายว่า ถ้าจีนรู้ว่าจุดจบแบบนี้จะมาถึงในที่สุด การที่จีนจะเลือกนั่งโต๊ะเจรจากับทรัมป์เพื่อหาทางออกร่วมกัน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด จีนมีศักยภาพสูงมากในการแข่งขันระดับโลกอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีปิดตลาดหรือขโมยทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ อีกต่อไป การเจรจาอย่างจริงจังจะทำให้ทุกฝ่าย win-win มากขึ้น
🎯 จาก 3 โพสต์นี้ แอดว่า มีความเป็นไปได้สูงที่นโยบายของทรัมป์ในรอบใหม่นี้ คือการสร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจ (โดยเฉพาะกับยุโรปและญี่ปุ่น) เพื่อ isolate จีนอย่างจริงจัง ซึ่งจะต่างกับ trade war 1.0 ที่ตีกับจีนคนเดียว
ซึ่งถ้าอ้างตามที่ทรัมป์อ้างคือ ตอนนี้มีดีลถึง 70 ประเทศวางอยู่บนโต๊ะแล้ว ก็ยิ่งน่าสนใจมากๆ เพราะมันอาจจะกลายเป็น 71 vs 1 ด้วยค่ะ (ลึกๆ แล้วแอดคิดว่าทุกประเทศมีไม่ชอบจีนอยู่แล้วในเรื่องของ การทุ่มตลาด และ overcapicity ค่ะ)
ในเอเชีย สหรัฐฯ แค่ดึง (แกมบังคับ) อินเดีย เวียดนาม และอินโดฯ มาเข้าข้างได้ก็จบ ซึ่งดูเหมือนว่าน่าจะได้ด้วย (ทุกคนวิ่งไปสหรัฐฯ ต่างกับ สี จิ้นผิง ที่ต้องบินออกมาเจอ)
ส่วนยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน… เดาไม่ยากเลยว่าจะไปเป็นพวกใคร
ดังนั้นการ isolate จีนในระดับที่ Bill Ackman วางไว้ อาจดูรุนแรง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ
สหรัฐฯ คงไม่ได้อยากบีบจีนถึงขั้นให้ไม่ต้องค้าขายกันเลย
แต่คงให้จีนทำให้ทุกอย่างเป็น fair trade มากขึ้น เลิกขโมย IP และลดบทบาทจีนในเวทีโลกค่ะ แล้วทำให้จีนเป็นเบอร์ 2 ต่อไปเรื่อยๆ และหากินกับคนในประเทศตัวเองเป็นหลัก 🤔
👉🏻 ส่วนเรื่องความผันผวนในตลาดหุ้นและพันธบัตรที่เกิดขึ้น ที่หลายฝ่ายมองว่าทำให้ทรัมป์เปลี่ยนใจ
ทางด้าน Bill Ackman ก็มองว่านักลงทุนและนักวิเคราะห์ตลาดกำลังตีความการเคลื่อนไหวของตลาดระยะสั้นมากเกินไป ทั้งในด้านอัตราดอกเบี้ย ค่าเงิน และหุ้น
เขาชี้ให้เห็นว่าความผันผวนรุนแรงในตลาดช่วงนี้น่าจะเกิดจากนักลงทุนที่ใช้ leverage สูง (กู้เงินมาลงทุน) ถูกบีบให้ปิดสถานะ มากกว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริง
พูดง่ายๆ ก็คือ ปัจจัยทางเทคนิคและการใช้ leverage มากเกินไป กำลังทำให้ตลาดผันผวนหนัก และตลาดจึงกลายเป็นตัวชี้วัดที่ไม่แม่นยำในการดูผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
โดยเฉพาะเมื่อ นักลงทุนในตลาดหุ้นสามารถกู้เงินได้สูงถึง 10 เท่า และตลาดตราสารหนี้และค่าเงินสามารถกู้เงินได้สูงถึง 100 เท่าแบบทุกวันนี้
🎯 สรุปง่ายๆ ก็คือ นักลงทุนสนใจการเคลื่อนไหวของตลาด แล้วตีโพยตีพายกันมากเกินเหตุค่ะ
โฆษณา