12 เม.ย. เวลา 09:54 • ความคิดเห็น
ผมว่าหากแยกตัวบุุคคลออกจากสมมุติ เช่น สถานะ บทบาทหน้าที่ อาชีพ ฐานะ เพศ ฯลฯ จะเห็นว่าทุกคนมีโอกาสทุจริต โกงกินได้เท่ากันแหละครับ คือถ้าคนจะโกงก็หาทางโกงจนได้ ตัวอย่างคือ
ในอดีตประเทศไทยมี “นักธุรกิจธรรมดา” คนนึงไม่ได้เป็นข้าราชการประจำ ไม่ใช่นักการเมือง แต่มีจิตใจทุจริตเป็นปกติจึงเข้าหาผู้มีอำนาจ เสนอผลประโยชน์จนตัวเองได้สิทธิ์พิเศษในการผูกขาดธุรกิจรายเดียวทำให้มีเงินทองมหาศาล ถือว่าเป็นบรรพบุรุษ ”ไทยเทา“ ชนิดนึง
1
แต่ยังไม่พอใจต้องการอำนาจในการอนุมัติโครงการต่างๆ เอื้อประโยชน์ให้บริษัทตัวเองจึงเข้ามาเล่นการเมือง เมื่อเป็นนักการเมืองก็ติดนิสัยทุจริตมาใช้บริหารประเทศด้วย จึงเป็น ”นักการเมืองเทา“
1
เมื่อเป็นนักการเมืองเทาด้วยความที่เคยมีอาชีพรับราชการเป็นตำรวจระยะนึงจึงใช้เส้นสาย พรรคพวกในระบบราชการทำเรื่องทุจริตต่อเนื่อง จึงเป็น
”ข้าราชการเทา“
1
เสียดายที่ไม่มีโอกาสเป็นคณะรัฐประหารเทา เพราะโดนรัฐประหารซะก่อน
จะเห็นได้ว่า “นักธุรกิจธรรมดา” ไม่ได้เป็นข้าราชการประจำ ไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่พาตัวเองเข้ามาในระบบเพื่อหาทางทุจริตจนได้ดังนั้นโอกาสทุจริตคงไม่ได้อยู่ที่สถานะ บทบาทหน้าที่ อาชีพ ฐานะ เพศ ฯลฯ อยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่าครับ
โฆษณา