สนุกสุดเหวี่ยง ปลอดภัยรับสงกรานต์ เคล็ดลับสุขภาพดี จากใจเภสัชกร
สวัสดีครับทุกคน สงกรานต์เวียนมาอีกครั้ง บรรยากาศแห่งความสุข เสียงหัวเราะ และความเย็นฉ่ำจากการสาดน้ำกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ใครๆ ก็อยากสนุกให้เต็มที่ใช่ไหมครับ แต่ท่ามกลางความสนุกสนานนั้น ก็มีเรื่องสุขภาพเล็กๆ น้อยๆ ที่เราไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เทศกาลแห่งความสุขนี้ไม่กลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำ
ในฐานะเภสัชกร ผมอยากชวนทุกคนมาเตรียมตัวให้พร้อม ดูแลสุขภาพกันสักนิด เพื่อให้เราทุกคนสามารถเฉลิมฉลองสงกรานต์ได้อย่างสนุกสนาน ปลอดภัย และสุขภาพดีกลับบ้านกันทุกคน
การดูแลสุขภาพง่ายๆ ไม่กี่ข้อ จะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ภาวะขาดน้ำ ผิวไหม้แดด ฮีทสโตรก หรือแม้แต่โรคที่มากับน้ำ ซึ่งอาจทำให้ทริปสงกรานต์ของคุณสะดุดลงได้ มาดูกันครับว่าเราจะเตรียมตัวอย่างไรได้บ้าง
1. ดื่มน้ำให้พอ สู้ร้อนอย่างฉลาด
สงกรานต์บ้านเราจัดในช่วงที่อากาศร้อนที่สุดของปี ประกอบกับการวิ่งเล่นสาดน้ำกลางแจ้ง ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ไปกับเหงื่อมากกว่าปกติ ภาวะขาดน้ำ (Dehydration) จึงเป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นอันดับต้นๆ เลยครับ สังเกตอาการง่ายๆ เช่น รู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าปกติ วิงเวียนศีรษะ ปากแห้ง คอแห้ง นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังต้องการน้ำแล้วนะครับ
เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ผมแนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ โดยตั้งเป้าหมายการดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับกิจกรรมและสภาพอากาศ ควรจิบบ่อยๆ ตลอดวันแทนการดื่มในปริมาณมากในครั้งเดียว นอกจากนี้ หากมีการเสียเหงื่อมากจากการเล่นน้ำ หรือรู้สึกอ่อนเพลีย การดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการชดเชยเกลือแร่ที่สูญเสียไป แต่ควรเลือกชนิดที่มีน้ำตาลไม่สูงจนเกินไป
สิ่งที่ควรจำกัดในช่วงสงกรานต์คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น หากต้องการดื่ม ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสมและสลับกับการดื่มน้ำเปล่าเสมอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและรักษาสุขภาพในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีอากาศร้อน
2. ปกป้องผิวสวย ท้าแดดสงกรานต์
ถึงแม้ว่าน้ำที่สาดใส่จะช่วยให้เรารู้สึกเย็นสบาย แต่ต้องไม่ลืมว่าแดดในเดือนเมษายนนั้นแรงมากจริงๆ การสัมผัสแดดจัดเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกัน อาจทำให้ผิวไหม้แดด (Sunburn) แสบ แดง ลอก ซึ่งนอกจากจะทำให้หมดสนุกแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังในระยะยาวด้วยนะครับ และในกรณีที่รุนแรง อาจนำไปสู่ภาวะลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke) ได้ ซึ่งอันตรายถึงชีวิต
ผมแนะนำให้เตรียมพร้อมด้วยการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ ขึ้นไป และมีคุณสมบัติกันน้ำ ควรทาครีมกันแดดให้ทั่วผิวก่อนออกไปเล่นน้ำประมาณ 15-30 นาที และสิ่งที่สำคัญคือต้องทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือบ่อยกว่านั้นหากเล่นน้ำตลอดเวลา เนื่องจากครีมกันแดดจะถูกชะล้างออกไปกับน้ำและเหงื่อ
นอกจากครีมกันแดดแล้ว การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าก็มีความสำคัญ ควรเลือกเสื้อผ้าสีอ่อนๆ ที่มีเนื้อผ้าโปร่งสบายและระบายอากาศได้ดี การสวมเสื้อแขนยาวหรือกางเกงขายาวที่ไม่หนาจนเกินไปก็สามารถช่วยป้องกันแสงแดดได้อีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ ควรหาโอกาสพักในที่ร่มบ้างระหว่างการเล่นน้ำ เพื่อให้ร่างกายได้ระบายความร้อนและลดความเสี่ยงจากอันตรายของแสงแดด
3. ระวังภัยจากน้ำ เรื่องไม่ควรมองข้าม
หัวใจของสงกรานต์คือน้ำ แต่เราต้องตระหนักว่าน้ำที่ใช้เล่นสงกรานต์นั้น อาจไม่ได้สะอาดเสมอไป บางครั้งอาจมาจากแหล่งน้ำที่ไม่สะอาด หรือมีการปนเปื้อนเชื้อโรค แบคทีเรีย หรือสิ่งสกปรกต่างๆ การสัมผัสหรือเผลอกลืนน้ำเหล่านี้เข้าไป อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ เช่น ผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ เป็นผื่นคัน ตาแดง หรือแม้แต่โรคทางเดินอาหารอย่างท้องเสีย
จึงมีคำแนะนำเพื่อป้องกันอันตรายจากน้ำที่ไม่สะอาด โดยเน้นย้ำให้หลีกเลี่ยงการกลืนน้ำที่ใช้เล่นสงกรานต์ และระมัดระวังไม่ให้น้ำเข้าปากหรือจมูก หากมีบาดแผลเปิด ไม่ว่าจะเป็นแผลสด แผลถลอก หรือรอยขีดข่วน ควรรีบทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ จากนั้นปิดแผลด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ และหากพลาสเตอร์เปียกน้ำ ควรรีบเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
นอกจากนี้ การเลือกแหล่งน้ำที่นำมาใช้เล่นสงกรานต์ก็มีความสำคัญ หากเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำที่มาจากแหล่งที่ไม่น่าไว้วางใจ เช่น น้ำในคลอง หรือน้ำที่มีลักษณะขุ่นหรือสกปรกอย่างเห็นได้ชัด เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับเชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อาจปนเปื้อนอยู่ในน้ำ
4. ดวงตาคู่สวย ต้องดูแลเป็นพิเศษ
ดวงตาเป็นอวัยวะที่บอบบาง และมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบในช่วงสงกรานต์เช่นกัน ทั้งจากรังสี UV ในแสงแดดที่จ้า และจากน้ำหรือแป้งที่อาจไม่สะอาดกระเด็นเข้าตา ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ตาแดง หรือในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อดวงตาได้
เพื่อเป็นการป้องกันดวงตา ผมขอแนะนำให้สวมแว่นกันแดดที่มีคุณสมบัติในการป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ 100% ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องดวงตาจากแสงแดดที่จ้าแล้ว ยังสามารถช่วยป้องกันน้ำและแป้งกระเด็นเข้าตาได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย
หากมีน้ำ แป้ง หรือสิ่งสกปรกใดๆ เข้าตา ควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดในปริมาณมากทันที และหลีกเลี่ยงการขยี้ตา เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่กระจกตาได้ หากอาการระคายเคืองไม่ดีขึ้นหลังจากการล้างตา หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น ตาแดงมาก ปวดตา หรือมองเห็นไม่ชัดเจน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
5. ความปลอดภัยรอบด้าน และการให้เกียรติวัฒนธรรม
นอกเหนือจากเรื่องสุขภาพโดยตรงแล้ว ยังมีเรื่องความปลอดภัยอื่นๆ ที่ควรใส่ใจ โดยเฉพาะช่วง "เจ็ดวันอันตราย" ที่มักมีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงขึ้น การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะหรือแท็กซี่อาจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการขับขี่ด้วยตนเอง โดยเฉพาะหากมีการดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีคนแออัดมากๆ ก็ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคต่างๆ ได้
และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การเล่นสงกรานต์อย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน และเคารพในวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม เช่น การร่วมสรงน้ำพระ หรือการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ เพื่อสืบสานคุณค่าของเทศกาลสงกรานต์ต่อไป
สงกรานต์เป็นเทศกาลแห่งความสุข สนุกสนาน และการเริ่มต้นปีใหม่ไทย ผมเชื่อว่าการเตรียมตัวที่ดี การใส่ใจสุขภาพตามคำแนะนำง่ายๆ เหล่านี้ จะช่วยให้ทุกคนสามารถเฉลิมฉลองได้อย่างเต็มที่ ปลอดภัย และมีความทรงจำที่ดีกลับไป
ขอให้ทุกคนมีความสุข สนุกสนาน และปลอดภัยในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้นะครับ
แหล่งอ้างอิง:
WellMed Bangkok Clinic. (2025). Stay Safe This Songkran Water Festival In Thailand: Essential Health Tips
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
