13 เม.ย. เวลา 04:27 • การเมือง

“เมื่อกฎแห่งกรรมยังน่าเชื่อถือกว่ากฎหมายของรัฐ”

เมื่อไม่นานมานี้ ผมมีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนคนหนึ่งที่เพิ่งผ่านประสบการณ์ไม่พึงประสงค์จากการขึ้นโรงขึ้นศาลในคดีเล็กๆ คดีหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเช่าบ้าน ซึ่งควรจะจบได้ง่ายๆ แค่ในระดับการตกลงกัน แต่เรื่องกลับยืดยาวจนกลายเป็นภาระทางจิตใจและเงินทอง
เขาบอกผมว่า:
“เราคิดว่าศาลจะช่วยไกล่เกลี่ยหรืออย่างน้อยก็ให้ความรู้สึกว่าคนเล็กๆ ยังพอมีที่พึ่งได้…แต่ที่เจอคือความล่าช้า, ความเงียบ และความรู้สึกเหมือนเป็นแค่เอกสารอีกหนึ่งปึกบนโต๊ะใหญ่ๆ”
คำพูดของเขาเหมือนตบหน้าผมเบาๆ ด้วยความจริงที่เราทุกคนรู้ แต่ไม่ค่อยได้พูดถึงกันตรงๆ: ระบบยุติธรรมไทยในปัจจุบัน ยังไม่ใช่พื้นที่ที่คนธรรมดารู้สึกว่า “ปลอดภัย” หรือ “เป็นกลาง”
เหตุผลที่ทำให้คนไทยยังไม่เชื่อในความยุติธรรม
การรับรู้ถึงความล่าช้าและไม่เป็นธรรม
จากการสำรวจระดับความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมไทย ปรากฏว่าประชาชนให้คะแนนแค่ 3 เต็ม 5 และยังเชื่อใน “กฎแห่งกรรม” มากกว่าศาลตำรวจและอัยการเสียอีก (4 กว่าๆ)
พูดง่ายๆ คือคนยังเชื่อว่า “เวรกรรมตามทัน” เร็วกว่ากระบวนการกฎหมายในโลกจริง
ต้นทุนทางอารมณ์และทรัพยากร
ไม่ใช่แค่ความล่าช้า แต่การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมยังเหมือนเดินเข้าเขาวงกตที่ใช้เวลาและเงินมากมาย โดยเฉพาะเมื่อคุณไม่มีทนายส่วนตัวหรือความรู้ด้านกฎหมายติดตัว
คดีการเมืองกับการถูกปฏิเสธสิทธิพื้นฐาน
รายงานล่าสุดชี้ว่ามีผู้ต้องหาคดีการเมืองกว่า 46 คนยังถูกคุมขัง โดย 29 คนจากคดีมาตรา 112 ไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว — แม้จะยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าผิด
หลักการ “สันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์” กลับถูกแทนที่ด้วยการตีตราทางการเมือง
แล้วเราจะทำอย่างไรได้?
หลายคนอาจบอกว่า "มันคือเรื่องใหญ่เกินจะเปลี่ยน" หรือ "นั่นเป็นเรื่องของนักกฎหมาย"
แต่ความจริงคือ — กระบวนการยุติธรรมไม่ได้เป็นของนักกฎหมายเท่านั้น มันเป็นของประชาชนทุกคนที่อยากเห็นสังคมเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ถ้าเราอยากเห็น
ระบบที่ โปร่งใส
กระบวนการที่ ตรวจสอบได้
และความยุติธรรมที่ เข้าถึงได้ ไม่ใช่แค่บนกระดาษ...
เราต้องเริ่มตั้งคำถามกับระบบที่มีอยู่
และเรียกร้องให้ ความยุติธรรมเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ ไม่ใช่เพียงความเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างกฎแห่งกรรม
เพราะในสังคมที่ยุติธรรม... คนไม่ควรต้องพึ่งบุญบารมีหรือหวังให้เวรกรรมช่วยตัดสิน
#ความยุติธรรม #สิทธิมนุษยชน #ระบบกฎหมายไทย #RuleOfLaw #JusticeForAll
P.S.
ลองนั่งคุยกับใครสักคนที่เคยผ่านคดีเล็กๆ ในศาลดู แล้วคุณจะเข้าใจว่า “ความรู้สึกไม่เท่าเทียม” มันเริ่มตั้งแต่หน้าประตูห้องพิจารณา ไม่ใช่แค่ในคำตัดสิน.
โฆษณา