14 เม.ย. เวลา 10:35 • ไลฟ์สไตล์

การตายอย่างโดดเดี่ยว​เดียวดายของแก่ญี่ปุ่น

นายฮิโรอากิ ชายวัย 54 ปี ได้ถูกพบเป็นศพในอพาร์ทเมนท์หลังจากเสียชีวิตมานานกว่า 4 เดือน รอบๆ ห้องเต็มไปด้วยกองขยะ ถ้วยบะหมี่สำเร็จรูป กระป๋องเครื่องดื่ม หนังสือพิมพ์เก่าๆ ก้นบุหรี่ และฟูกที่นอนอับๆ
นายฮิโรอากิซึ่งอดีตเป็นเคยวิศวกรทำงานบริษัทใหญ่ๆเช่น นิสสัน ฟูจิตสึ แต่เป็นเพียงพนักงานจ้างตามสัญญาทำให้ไม่มีเงินใช้ยามชรา เขาหย่ากับภรรยามาหลายปีจึงต้องอาศัยอยู่คนเดียวในอพาร์ทเมนท์เก่าๆ
1
ช่วงบั้นปลายชีวิต นายฮิโรอากิก็เป็นเหมือนอีกผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นอีกหลายคนที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย และตายจากโลกนี้ไปโดยไม่มีใครรู้
3
นางอิโตะ อายุ 91 ปีอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์เก่าแก่ในชิบะ เธออาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนท์แห่งนี้มานานกว่า 60 ปี ตั้งแต่สมัยอพาร์ทเมนท์นี้เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ และถือได้ว่าทันสมัยมากในยุคนั้น เธอเคยอยู่ร่วมกับสามี ลูกสาว และลูกเลี้ยงอย่างมีความสุข
1
แต่เมื่อ 25 ปีก่อน สามีและลูกสาวกลับมาด่วนตายจากไปด้วยโรคมะเร็ง ลูกเลี้ยงของเธอก็ไปมีชีวิตของตัวเองและเพียงแค่ส่งการ์ดอวยพรให้เธอตามเทศกาลเท่านั้น
1
เธอต้องอาศัยอยู่อย่างเดียวดายเพราะเพื่อนสนิทและญาติๆ ของเธอล้วนจากโลกนี้ไปก่อนเธอ เธอคิดว่าการอยู่หรือตายของเธอคงไม่สร้างความแตกต่างให้กับโลกนี้มากนัก
เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการสวดมนต์ เขียนเล่าประวัติชีวิตส่วนตัว ดูรูปเก่าๆ และเดินเล่นรอบอพาร์ทเมนท์ เธอจะไปร่วมรับประทานอาหารกับคนชราคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่คนเดียวอาทิตย์ละครั้ง
2
นางอิโตะขอร้องให้เพื่อนบ้านช่วยมองมาที่ม่านหน้าต่างห้องเธอทุกๆ วันว่ายังปิดในตอนกลางคืนและเปิดในตอนกลางวันไหม หากวันใดม่านไม่ได้ปิดเปิดตามเวลา นั่นแปลว่า เธอได้จากโลกนี้ไปแล้ว
2
นางอิโตะยังได้เตรียมป้ายชื่อหลุมฝังศพตัวเอง และเงินทำพิธีเล็กๆ น้อยๆ ไว้พร้อมสำหรับวันที่เธอต้องออกเดินทางสู่อีกโลกหนึ่ง
นายคิโนชิตะ อายุ 83 ปี เพื่อนบ้านนางอิโตะได้ย้ายเข้าสู่อพาร์ทเมนท์นี้กว่า 14 ปีมาแล้ว เขาเป็นอดีตวิศวกรใหญ่ แต่บริษัทของเขาถูกฟ้องล้มละลาย ทำให้เขาต้องไปยืมเงินจากพี่น้อง ทำให้ถูกประนามว่า “เป็นความอัปยศของวงศ์ตระกูล”
2
เขาสูญเสียบ้านจากการทำธุรกิจทำให้ภรรยาของเขาบอกเลิกโดยให้เหตุผลว่า “ไม่มีใครทนอยู่กับสามีที่ขายบ้านตัวเองได้”
ความภูมิใจเดียวที่ยังเหลืออยู่ของนายคิโนชิตะ คือเขาเคยเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ของบริษัทยักษ์ใหญ่คาวาซากิ เฮฟวี่ อินดัสตรีย์ที่มีส่วนสร้างอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ
2
เขายังคงเก็บรูปถ่ายเมื่อครั้งได้ไปเยือนฝรั่งเศสและพวงกุญแจรูปอุโมงค์นั้นยังติดตัวเขาไปไหนมาไหนเสมอๆ ห้องของนายอิโตะเต็มไปด้วยเศษขยะและกลิ่นเหม็นๆ เศษอาหารและของเสียที่หมักหมมมานานหลายปี เขาไม่คิดแม้แต่จะมีป้ายชื่อหลุมศพตัวเอง
1
เพราะเขากล่าวว่า “ถึงจะมีป้ายหลุมศพก็คงไม่มีใครไปเคารพศพเขาอยู่ดี” เขาจึงบริจาคร่างกายให้กับสถาบันการแพทย์
เรื่องราวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมญี่ปุ่นในปัจจุบัน ที่มีผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 65 ปีที่ต้องอาศัยอยู่คนเดียวมากถึง 6 ล้านคน และมีมากถึง 12.71 ล้านครอบครัวที่เป็นครอบครัวที่มีแต่ผู้สูงอายุ หรือคู่สามีภรรยาสูงอายุ มากกว่าครึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นบอกว่ามีความยากลำบากในเรื่องรายได้ เนื่องจากอาศัยเพียงแค่เงินช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ไม่เพียงพอกับการเลี้ยงชีพ
2
สาเหตุหลักที่ทำให้มีคนสูงอายุที่ต้องตายอย่างโดดเดียว ได้แก่
#คนไม่แต่งงานมากขึ้น
ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ครองตัวเป็นโสด โดยต้องการมุ่งมั่นทำงานอย่างเดียวโดยไม่คิดมีครอบครัว เมื่อแก่ตัวลงจึงมีแนวโน้มต้องอยู่คนเดียว
#คนมีลูกน้อยลง
หลายๆ ครอบครัวตัดสินใจไม่มีลูก เพราะคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยากและเพิ่มภาระด้านค่าใช้จ่าย
1
#สังคมมีเพียงที่ทำงาน
วัฒนธรรมการทำงานตลอดชีพทำให้พนักงานญี่ปุ่นจำนวนมากมีเพียงกลุ่มเพื่อนที่ทำงาน โดยไม่มีสังคมอื่นๆ นอกจากนั้นเลย พอถึงวัยเกษียณจึงเหมือนตัดขาดจากสังคมไปด้วย
#ลูกๆไม่ดูแล
ลูกๆ หลายบ้านนิยมอยู่กันเองมากกว่าอยู่ดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่า และพ่อแม่เองก็กลัวจะเป็นภาระให้ลูกๆ จึงต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ประเด็นนี้ดิฉันคิดว่าค่อนข้างต่างจากไทยเรา เพราะคนญี่ปุ่นไม่ได้พูดเรื่องความกตัญญูเด่นชัดนักค่ะ
1
#สังคมแบบตัวใครตัวมัน
คนญี่ปุ่นที่อาศัยในเมืองมักจะไม่ค่อยสนทนากับเพื่อนบ้านอยู่แล้ว คืออยู่แบบตัวใครตัวมัน ทำให้ไม่มีสังคม ชุมชน หรือญาติพี่น้องแบบการอยู่กับครอบครัวใหญ่เหมือนเช่นสังคมชนบทค่ะ
1
น่าตกใจที่ได้ทราบว่ามีคนแก่ในประเทศญี่ปุ่นที่ต้องตายอย่างเดียวดายโดยไม่มีใครรับรู้มากถึง 30,000 คนต่อปีเลยทีเดียวค่ะ
1
บทความโดย : พิชชารัศมิ์ www.marumura.com
โฆษณา