14 เม.ย. เวลา 13:48 • การศึกษา

เทศกาลสงกรานต์ สะพานสู่การลวนลาม?

เทศกาลสงกรานต์ คือมรดกทางวัฒนธรรมอันงดงามของไทย เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ความสนุกสนาน การแสดงความเคารพต่อผู้ใหญ่ การทำบุญ และการเฉลิมฉลองด้วยการสาดน้ำคลายร้อน สร้างบรรยากาศแห่งความชุ่มฉ่ำและมิตรภาพ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความรื่นเริงนี้ กลับมีมุมมืดที่น่ากังวลแฝงอยู่ นั่นคือ ปัญหาการลวนลามและคุกคามทางเพศที่มักเกิดขึ้นในช่วงเทศกาล จนเกิดคำถามที่ชวนให้ขบคิดว่า สงกรานต์กำลังกลายเป็น "สะพาน" ที่ทอดไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่เจตนาหรือไม่?
☆ รากเหง้าแห่งความสุข สู่ช่องโหว่แห่งการฉวยโอกาส
สงกรานต์แต่ดั้งเดิมเน้นที่ความสุภาพ การรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ การสรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การสาดน้ำกลายเป็นกิจกรรมหลักที่เน้นความสนุกสนานและดึงดูดผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่หรือตามท้องถนนสายหลัก บรรยากาศที่เปิดกว้าง ความใกล้ชิดทางกายภาพที่หลีกเลี่ยงได้ยากในฝูงชน การแต่งกายที่คลายร้อน และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปัจจัยเหล่านี้ประกอบกันกลายเป็น "ช่องโหว่" ที่เอื้อให้ผู้ไม่หวังดีสามารถฉวยโอกาสกระทำการลวนลามได้ง่ายขึ้น
☆ การ "เล่นน้ำ" ที่ข้ามเส้น
การสาดน้ำ ปะแป้ง ซึ่งควรเป็นไปด้วยความสุภาพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน กลับถูกบิดเบือนไปในหลายกรณี การปะแป้งกลายเป็นการจับต้อง ลูบไล้ร่างกายโดยไม่ได้รับความยินยอม การฉีดน้ำใส่ส่วนต่างๆ ของร่างกายอย่างจงใจ หรือการใช้อุปกรณ์เล่นน้ำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ล้วนเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการคุกคามและลวนลามทั้งสิ้น
ที่น่าเศร้าคือ หลายครั้งการกระทำเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นเรื่อง "ปกติ" หรือ "แค่การหยอกล้อ" ในช่วงสงกรานต์ ทำให้ผู้ถูกกระทำจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะนิ่งเงียบ ไม่กล้าตอบโต้หรือแจ้งความ เพราะกลัวถูกมองว่าไม่สนุก หรือกลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อ หรือกลัวความยุ่งยากที่จะตามมา
☆ ปัจจัยที่ส่งเสริมปัญหา
☛ ทัศนคติที่ผิดๆ: การมองว่า "เล่นสงกรานต์ก็ต้องโดนแบบนี้" หรือการที่สังคม (บางส่วน) ยังคงมีมุมมองที่โทษเหยื่อ (Victim Blaming) เช่น การแต่งกายของผู้หญิง เป็นการลดทอนความร้ายแรงของปัญหาและทำให้ผู้กระทำผิดไม่รู้สึกถึงความผิด
☛ การดื่มแอลกอฮอล์: เครื่องดื่มมึนเมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ลดความยับยั้งชั่งใจ เพิ่มความก้าวร้าว และทำให้ขาดสติในการกระทำ
☛ ความหนาแน่นของฝูงชน: ทำให้ยากต่อการระบุตัวผู้กระทำผิด และยากต่อการหลบหนีหรือขอความช่วยเหลือของผู้ถูกกระทำ
☛ การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้มงวดพอ: แม้จะมีกฎหมายเอาผิด แต่ในสถานการณ์ชุลมุน การจับกุมและดำเนินคดีเป็นไปได้ยาก ทำให้ผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัว
ผลกระทบที่ร้ายแรงกว่าความสนุกชั่วข้ามคืน
การถูกลวนลามในช่วงสงกรานต์ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ความรู้สึกขุ่นมัวชั่วขณะ แต่มันสามารถสร้างบาดแผลทางจิตใจ (Trauma) ให้กับผู้ถูกกระทำได้ในระยะยาว ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัย หวาดกลัวการอยู่ในที่สาธารณะ หรือเกลียดเทศกาลที่ควรจะนำมาซึ่งความสุขไปเลย นอกจากนี้ ยังส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของเทศกาลสงกรานต์และประเทศไทยในสายตาชาวต่างชาติอีกด้วย
☆ ทางออก: สงกรานต์ที่สนุกและปลอดภัยสำหรับทุกคน
☛ การสร้างความตระหนักรู้: รณรงค์อย่างจริงจังว่าการลวนลามไม่ใช่เรื่องปกติ ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการเล่นสงกรานต์ และเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เน้นย้ำเรื่องการให้เกียรติซึ่งกันและกัน และความสำคัญของ "ความยินยอม" (Consent)
☛ การบังคับใช้กฎหมายที่จริงจัง: เจ้าหน้าที่ต้องเอาจริงเอาจังกับการจับกุมและลงโทษผู้กระทำผิด เพื่อให้เกิดความเกรงกลัวและเป็นเยี่ยงอย่าง
☛ การจัดโซนปลอดภัย: พื้นที่จัดงานควรมี "โซนปลอดภัย" (Safe Zone) หรือโซนสำหรับครอบครัวที่ปลอดแอลกอฮอล์และมีการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
☛ ส่งเสริมการเล่นน้ำอย่างสร้างสรรค์: เน้นกิจกรรมที่สืบสานประเพณีดั้งเดิม ลดทอนความสำคัญของการปะแป้งหรือการเล่นที่เสี่ยงต่อการถูกเนื้อต้องตัว
☛ ควบคุมการจำหน่ายและการดื่มแอลกอฮอล์: จำกัดพื้นที่และเวลาในการจำหน่าย/ดื่มในบริเวณจัดงาน
☛ ปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้อง: ทุกคนในสังคมต้องช่วยกันปรับเปลี่ยนทัศนคติ ไม่มองข้าม ไม่เพิกเฉยต่อการลวนลาม และไม่โทษเหยื่อ
เทศกาลสงกรานต์ควรเป็นพื้นที่แห่งความสุข ความเคารพ และความปลอดภัยสำหรับทุกคน ไม่ใช่เทศกาลที่ผู้หญิงหรือใครก็ตามต้องหวาดระแวงกับการถูกล่วงละเมิด การยอมรับว่าปัญหาการลวนลามในช่วงสงกรานต์มีอยู่จริงและร้ายแรง คือก้าวแรกที่สำคัญในการแก้ไข เราต้องร่วมมือกันทวงคืนคุณค่าที่แท้จริงของสงกรานต์กลับคืนมา ทำให้เทศกาลนี้เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีงาม ไม่ใช่สะพานที่ทอดไปสู่การทำร้ายกัน เพื่อให้ความชุ่มฉ่ำของสายน้ำมาพร้อมกับความสบายใจอย่างแท้จริง
โฆษณา