15 เม.ย. เวลา 02:32 • ข่าวรอบโลก

รูสเวลต์มาแล้ว

นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
เมื่อวานผมรับใช้ถึงตอนที่ประธานาธิบดีฮูเวอร์เงอะงะเฟอะฟะทำอะไรไม่ถูก สร้างเขื่อนโบลเดอร์ก็ไม่ได้ผล
นโยบายจำกัดผลผลิตเพื่อให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นก็แป้ก อุตส่าห์ไปตั้ง Federal Farm Marketing Board หรือคณะกรรมการตลาดการเกษตรกลางเพื่อหาตลาดให้เกษตรกรอเมริกันก็ไปไม่รอด
ขณะที่กำลังมืดมนอนธการลนลาน ก็มีไม้ขีดก้านหนึ่งถูกจุดขึ้นมาในสมองของประธานาธิบดีฮูเวอร์ ฮูเวอร์ตะโกนว่า...
อ้า เราพบทางออกแล้ว ต่อไปนี้วิกฤติเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะดีขึ้น
เราจะตั้ง Reconstruction Finance Corporation ที่แปลว่าบรรษัทฟื้นฟูการเงินเพื่อปล่อยเงินกู้ฉุกเฉินให้กับธนาคาร บริษัทรถไฟ และอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อให้มีเงินหมุนเวียน
ทว่า บรรษัทฟื้นฟูฯก็แป้กอีกครับ ประธานาธิบดีฮูเวอร์โกรธจัด วิ่งเอาหัวพุ่งข้างฝาสามที ก็มีทางออกใหม่ผุดออกมาจากสมอง
อา ประชาชนคนอเมริกันถูกยึดบ้านและที่ดินบานเบอะเยอะแยะ
อา เราต้องไปขอให้สภาออก Home Loan Bank Act หรือรัฐบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่จะถูกยึดบ้านและที่ทำกิน
ฮูเวอร์กับทรัมป์น่าจะมีบรรพบุรุษเดียวกัน เพราะว่านิสัยใจคอเหมือนกันแทบทุกประการ ใจร้อน เชื่อมั่นในตัวเอง ทะเลาะ เบาะแว้งกับคนทั่วไป
ค.ศ.1932 ฮูเวอร์โมโหโกรธามหาหงุดหงิด พอมีสมาชิกสภาคองเกรสตำหนิว่าโครงการของแกเชื่องช้า
1
แก้ไขปัญหาไม่ได้ แกก็ตะโกนฟ้องประชาชนว่า...
อา ท่านประชาชนคนอเมริกันที่เคารพ เพราะข้าพเจ้ามาจากพรรครีพับลิกัน แต่สมาชิกสภาส่วนใหญ่เป็นพวกเด็มโมแครต
พวกนี้ขัดขวางโครงการต่างๆนานาของข้าพเจ้า เพื่อต้องการให้เศรษฐกิจตกต่ำ หวังผลในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะให้ประชาชนคนทั่วไปมาเทคะแนนให้เด็มโมแครต
ช่วงนั้นคนอเมริกันไม่มีกิน ประชาชนจำนวนไม่น้อยอยู่ในภาวะ malnutrition อาหารไม่พอ หน้ามืด วิงเวียน เพราะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ สมองสับสน ตอบสนองช้า ไม่ว่าฮูเวอร์จะพูดว่ายังไงก็ไม่มีใครคิดตามได้ดอกครับ
เศรษฐกิจอเมริกันตกต่ำดำมืด จนถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป ประชาชนก็ไปทุ่มคะแนนให้แฟรงคลิน เดลาโน รูสเวลต์ จากพรรคเด็มโมแครต
ทันทีที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี รูสเวลต์ก็บอกว่า...
อา ข้าพเจ้านึกออกแล้ว หลังจากปิดสวิตช์ฮูเวอร์ เราจะต้องทำให้คนอเมริกันมี 3 ป. เอ๊ย 4 R
มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เอ๊ย ไม่ใช่ นั่นมันคำพูดของท่านนายกฯแพทองธาร
ข้าพเจ้าจะทำให้ประชาชนมี 3 Rs คือ Relief การบรรเทาทุกข์ Recovery การฟื้นฟู และ Reform การปฏิรูป
คนอเมริกันสมัยนั้น รองเท้าขาดเพราะใช้เดินไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงินทุกวัน แต่ไปแล้วก็ถอนไม่ได้ กลับมาก็แช่งด่าธนาคารและรัฐบาล
รูสเวลต์ผู้ปราดเปรื่องเรืองปัญญา หลังจากรับตำแหน่งได้เพียง 2 วันก็ลงนามในคำสั่งผู้บริหาร เพื่อให้ธนาคารทั่วประเทศหยุดทำการเป็นเวลา 2 สัปดาห์
หลังจากนั้นอีก 3 วัน รูสเวลต์ก็ขอให้สภามีประชุมสมัยวิสามัญเพื่อผ่าน Emergency Banking Relief Act ค.ศ.1933 รัฐบัญญัติฉุกเฉินเพื่อการฟื้นฟูธนาคาร
คัดกรองธนาคารที่มีฐานะมั่นคงให้ยังดำเนินกิจการได้ต่อไป ไอ้ที่กำลังเดินเซๆ ก็ให้ไปรับเงินกู้ฟื้นฟูกิจการ ธนาคารที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวก็ให้ปิดกิจการอย่างถาวร
ธนาคาร 1 ใน 10 ถูกปิดกิจการถาวร หลังจากนั้นรูสเวลต์ ก็ไลน์กลุ่ม เอ๊ย สมัยนั้นยังไม่มีโซเชียลมีเดีย ก็สร้างรายการวิทยุ Fire Side Chat แปลเป็นไทยก็คือคุยกันข้างเตาผิง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนคนอเมริกันในเรื่องต่างๆ
1
รูสเวลต์สั่งให้ขึ้นราคาทองคำจากออนซ์ละ 20.67 ดอลลาร์สหรัฐฯ มาเป็นออนซ์ละ 35 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนลงมาเกือบร้อยละ 70 ช่วยในการส่งออก (ค่าเงินอ่อน ราคาสินค้าถูก ส่งออกได้มากขึ้น)
1
หลังจากนั้นแกก็ขอให้ออก Federal Securities Act ค.ศ.1933 หรือรัฐบัญญัติหลักทรัพย์แห่งชาติ ให้คณะกรรมการการค้าแห่งชาติกำกับดูแลให้ผู้ค้ำประกันราคาหุ้นเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดของหลักทรัพย์ตัวใหม่ๆที่จะนำไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
1
หลังจากนั้นก็ออก Banking Act ค.ศ.1933 ที่เรียกว่ารัฐบัญญัติการธนาคาร แยกธนาคารเพื่อการลงทุนออกจากธนาคารพาณิชย์ และก่อตั้งบริษัทค้ำประกันเงินฝากแห่งชาติ
เรื่องจะเป็นยังไงต่อไป มาว่ากันต่อครับ.
โฆษณา